นายกฯ เร่งรัดฉีดวัคซีนโควิดในเด็ก หนุนเรียนออนไซต์ เผยอายุ 5-11 ปี รับเข็มแรกแล้วกว่า 7 แสนราย

3 มี.ค.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เนื่องจากมีความห่วงกังวลแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแม้จะมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมาแต่สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายและขยายวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีการเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (On Site) ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่เล็งเห็นถึงประสิทธิภาพและความสำคัญสูงสุดของรูปแบบการเรียนในแต่ละองค์ความรู้ผ่านประสบการณ์ การพัฒนาร่างกาย และจิตใจ ซึ่งเมื่อเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียน (On Site) นั้นทำให้อาจมีความใกล้ชิดร่วมกับบุคคลรอบข้าง คุณครู เพื่อนร่วมชั้นเรียน และบุคคลอื่นๆนายธนกร กล่าวว่า ซึ่งผลการให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นเด็กช่วงอายุ 5 - 11 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2565) ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วกว่า 754,990 ราย และฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แล้ว 16,369 ราย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์ปัจจุบันว่ามีเด็กติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น พบในช่วงอายุ 3 -11 ปี ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเด็กช่วงอายุ 5 – 11 ปี เพิ่งได้รับวัคซีนป้องกันรวมไปถึงมีการเปิดเรียนในโรงเรียนบางแห่ง โดยอาการปกติของเด็กที่ติดเชื้อจะมีไข้ประมาณ 5 วัน ซึ่งแพทย์จะสังเกตอาการถึง 10 วัน และติดตามอาการจนครบ 14 วัน ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคในเด็กพบว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในเด็กนั้นไม่มีอาการหรือมีเล็กน้อยเหมือนเป็นไข้หวัด แต่กลุ่มที่มีอาการรุนแรงมักจะเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคสมอง หัวใจ มะเร็ง หรือกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ทั้งนี้ จากการสำรวจเตียงในเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UhosNet) กรมการแพทย์ พบว่ามีมากกว่า 500 เตียงนายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของการเข้ารับการรักษาในเด็ก เบื้องต้นจะมีการคัดกรองประเมินระดับความรุนแรงตามอาการของผู้ป่วย หากเด็กมีอาการไข้ไม่สูง ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง ไม่มีอาการซึม สามารถรับประทานอาหารได้ มีผู้ดูแล และภายในที่พักอาศัยมีห้องน้ำแยก จะสามารถเข้ารับการดูแลในรูปแบบของ Home Isolation (HI) หรือรักษาที่บ้านได้โดยมีทีมพยาบาลติดตามอาการอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง มีการส่งเครื่องมือวัดไข้ เครื่องมือวัดออกซิเจน ยา ถุงขยะติดเชื้อ อาหาร รวมทั้งของเล่นให้เด็กด้วย โดยสำหรับเด็กที่มีอาการเปลี่ยนแปลง เช่น ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป ภายใน 24 ชั่วโมง ซึม ไม่รับประทานอาหาร หายใจเร็ว มีระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วน้อยกว่า 96% ให้รีบไปพบแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้าน"นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อเยาวชน โดยเฉพาะสนับสนุนพัฒนาการด้านการศึกษา และสุขภาพควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพและศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ทั้งนี้ ขอให้เน้นย้ำการดูแลผู้ป่วยเด็กให้ปลอดภัย ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยต้องขอชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ทุ่มเทต่อการดำเนินงานเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาโดยตลอด"นายธนกรกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โควิดพุ่งตามคาด! สายพันธุ์ไม่เปลี่ยน อาการคล้ายหวัด

กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์โรคโควิด 19 พบแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี สายพันธุ์ไม่เปลี่ยนอาการคล้ายหวัด แนะ กลุ่มเสี่ยง 608 ระมัดระวังหากมีอาการสงสัยป่วยควรปรึกษาแพทย์

โควิดสงกรานต์พุ่ง! ไทยติดเชื้อรอบสัปดาห์ 849 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 7 - 13 เมษายน 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 849 ราย

'ธนกร' ดีใจเทศกาลสงกรานต์ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ธนกร” ดีใจ เห็นทุกพรรคการเมืองร่วมเล่นน้ำสงกรานต์สนุกสนาน ปลื้ม คนแน่น ทุกภาคทั่วไทย ชี้ เป็นเทศกาลแห่งความสุข สร้างเศรษฐกิจท่องเที่ยวพุ่งกระฉูด หนุน รัฐบาล-ททท. ลุยดึงนทท.ต่างชาติเข้าไทยทะลักตามคาดกว่า8.3 ล้านคน สร้างรายได้รวมด้านท่องเที่ยวกว่า 6 แสนลบ.