'สว.สมชาย' ตรวจเรือแตงโม แนะเก็บหลักฐานให้ดีก่อนจะถูกทำลาย ชี้เครื่องจับเท็จยังจำเป็นต่อคดี

24 มี.ค.2565 - ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (บก.ภ.จว.นนทบุรี) นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร ตัวแทนครอบครัวดาราสาวแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เข้าพบกับ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี และพนักงานสอบสวนเพื่อขอตรวจสอบเรือลำที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของดาราสาว โดยมีการพูดคุยประมาณ 1 ชม.ก่อนออกมาดูเรือลำที่เกิดเหตุที่จอดไว้กลางแจ้ง โดยมีแผงเหล็กและเชือกกั้นไว้

นายสมชาย เปิดเผยว่า มาตรวจเรือที่เป็นพยานสำคัญในบางประเด็นที่กรรมมาธิการฯอยากให้เกิดความกระจ่างชัดเจน ได้ดูแล้ว และได้มีการหารือ ผกก.และพนักงานสอบสวน หลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย คิดว่าหลายเรื่องน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่มีการคุยกันตำรวจก็จะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนให้เสร็นภายใน 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ อย่างช้าวันที่ 23-24 มี.ค.จะสามารถสรุปสำนวนได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามตำรวจยืนยันจะสอบทุกประเด็นที่สงสัยและทำอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุดให้เร็วขึ้นเท่าที่ทำได้ ไม่ให้มีตกค้างในข้อประเด็นที่สงสัย ต่อไปจะได้ไปหารือกับกองพิสูจน์หลักฐาน 1 อีกครั้ง ที่กรรมมาธิการฯฝากไปมีผลประการใดที่อาจะเกี่ยวพันกับคดีตรวจครบแล้วหรือไม่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด

กรรมมาธิการฯมาทำตามหน้าที่ที่ได้รับการร้องเรียนตั้งแต่ต้นจากแม่ของแตงโม โดยมีนายศตวรรษ มาร่วมด้วย เหตุผลที่มาดูเรือบางส่วนเป็นองค์ประกอบว่าทำให้เกิดจากบาดแผลที่ขาขวาและร่องรอยสัมพันธ์กับหางเสือเรือหรือใบพัดเรือหรือไม่ แต่ยังตอบไม่ได้ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตอบ แต่กรรมาธิการฯที่มีหมอพรทิพย์ เป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้วก็มาดูด้วยตนเอง

ด้านหมอพรทิพย์ กล่าวว่า จากที่บอกว่ามีบาดแผลเฉพาะ วันนี้ยังไม่พบเป็นสิ่งที่ทำให้อธิบายได้ แต่ทราบว่าวานนี้ (23 มี.ค.) มีการพูดคุยกันระหว่างพนักงานสอบสวน นิติเวช และ พฐ.แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่โดยประสบการณ์ที่มาของจุดที่กระทบทำให้เกิดแผลที่ไม่ใช่แผลใหญ่ยังหาไม่ได้ ส่วนใบพัดเรือหรือฟินเรือก็ยังบอกไม่ได้เนื่องจากไม่ได้เข้าใกล้ดูจากนอกรั้ว มันเป็นสถานที่ที่เก็บให้เหมาะสมกว่านี้

ขอแนะนำไม่ได้ก้าวก่ายเพราะหลายคดีมีการพิสูจน์ซ้ำในภายหลังสิ่งที่ตรวจพิสูจน์ซ้ำต้องอยู่ภายในห่วงโซ่วัตถุพยานเพื่อให้ข้อมูลน่าเชื่อถือ เป็นแนวทางการปฏิรูปนิติวิทยาศาสตร์ด้วยอย่างหนึ่ง จะบอกว่าสถานที่ไม่พอไม่ได้ กั้นเชือกเท่านี้ก็ไม่ได้ เพราะถ้าอัยการสงสัยสั่งให้ตรวจ สมมุติตรวจเจอจะตอบได้อย่างไรว่าเป็นของที่อยู่มาตั้งแต่ต้น วัตถุพยานทุกอย่างต้องไม่ถูกทำลายและไม่ถูกปนเปื้อนหลักการมีอยู่ 2 อย่าง

ส่วนการจำลองบาดแผลกับวัตถุต้องสงสัย อย่างที่ทราบยังไม่สามารถหาที่มาของบาดแผลที่มีลักษณะเฉพาะเหมือนก้างปลาไม่ได้ ต่อให้มีการสรุปสมมุติมาบากใบพัด วิทยาศาสตร์ยังมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยได้ หมอยังไม่รู้เขาทำอะไรไปเท่าที่มองด้วยตาเปล่ายังไม่เห็นที่มา จากการที่เอาหมอไปทดสอบนั้นขอไม่ตอบเพราะไม่เห็น ถ้าเขาดูอย่างสถาบันนิติเวชดูจะสามารถตอบได้ว่าเขาทำอะไรบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ก็อยู่ระหว่างประสานอยู่ ส่วนการจำลองกับศพไม่ขอแนะนำด้วยบทบาทหน้าที่ทำอะไรได้ไม่มาก แต่อย่างไรก็ยังมีการติดตามอยู่

ด้านนายสมชาย กล่าวเพิ่มว่าเราได้มีการแนะนำเบื้องต้นคือ 1.การเก็บเรือของกลาง ถ้าไม่ย้ายต้องคลุมให้มิดชิดไม่ให้เกิดการเปลี่ยนสภาพไปมากกว่านี้อีก 2.ให้ผู้เชี่ยวชาญเรือมาให้ข้อมูลว่าการตกตกแบบใด ลักษณะใดจะทำให้เกิดบาดแผลได้ โดยเฉพาะรอยริ้วบาดแผล การตกเรือจะดูดหรือกระจายออกมันสำคัญมากต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเพราะเรือแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน ลักษณะความเร็วไม่เหมือนกัน คนที่จะตอบได้คือผู้เชี่ยวชาญ 3.การสอบพยาน พนักงานสอบสวน ผกก.ยืนยันว่าไม่ได้ให้ข่าวว่าจะไม่มีการไม่นำเข้าเครื่องจับเท็จ เรื่องนี้ท้ายที่สุดท้ายถ้ามีการสืบสวนสอบสวนไปแล้วมีความจำเป็นที่ต้องเข้าเครื่องจับเท็จทั้ง 5 รายก็จะยุติได้ด้วยนิติวิทยาศาสตร์เช่นกัน หลายคดีในอดีตแม้จะครบแล้วหรือสงสัยบางประเด็นไม่ชัดเจนก็ใช้เครื่องจับเท็จ เช่นคดีม็อบลูกปลา นำเข้าเครื่องจับเท็จก็สามารถสรุปคดีได้

เครื่องจับเท็จของไทยก็มีอยู่แล้ว ฝากไปยัง ผบ.ตร.ที่เป็นนักสืบมือฉกาจเชื่อว่างานนี้อย่าง นายกฯเป็นประธาน ก.ตร. ผบ.ตร.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดให้ความสนใจ ฝ่ายนิติบัญญัติคือกรรมาธิการฯมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายมาช่วยให้เกิดความชัดเจนเป็นธรรมตรงไปตรงมา อยากให้รีบสรุปข้อเท็จจริงให้สังคมเมื่อเห็นแล้วยอมรับได้ ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร รูปคดีเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้เกิดประเด็นงอกเกิดความสับสน ด้วยความหวังดีหรือให้มันยืดออกไปแบบคดีน้องชมพู่ ไม่ดีต่อผู้เสียชีวิต ระยะเวลาสั้นในอีกเดือนกว่าๆมั่นใจว่าพนักงานอสบสวนทำได้ กรรมมาธิการฯมีหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง สื่อก็มีการตรวจสอบทั้งตำรวจและกรรมมาธิการฯก็คงยุติได้

หมอพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีประเด็นเรือจริงหรือเรือปลอมนั้น ถ้าวัตถุพยานอยู่แบบนี้และเราไม่ได้เห็นตั้งแต่เบื้องต้นไม่สามารถช่วยยืนยันได้ แต่ต้องทำให้มั่นใจในเรื่องพวกนี้ไม่งั้นประเด็นมันก็จะมากขึ้นเรื่องๆ สุดท้ายอยากฝาก คณะกรรมมาธิการของ สว.ส่วนหนึ่งคือทำได้แค่นี้คือรับเรื่องราวร้องทุกข์แล้วพยายามช่วย หาทางปฏิรูปให้ดีขึ้นแต่อีกบทบาทหนึ่งอยากเห็นทนายในบทบาทของสภาทนายความ แต่เดิมมาช่วยเหยื่ออย่างแท้จริงหายไปไหนไม่รู้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มซิ่ง จยย. โชว์ยกล้อ ชนประสานงา จยย. อีกคน ดับ 1 เจ็บสาหัส 1

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนท้ายบ้าน บริเวณปากซอยราฟาแอล 10 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ

กระบะเมาหนักฝ่าไฟแดง พุ่งชนร้านข้างทาง เจ็บ 12 ราย

เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ "แก่นนคร 191" สภ.เมืองขอนแก่น ว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนกันก่อนจะเสียหลักพุ่งชนร้านอาหาร

ตำรวจมะขามหวาน สกัดจับ 'ทริปน้ำไม่อาบ' ปรับ 1,481 ราย เสพยาอีก 1

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับเข้มในการประชุมบริหารจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ชนสยอง! เก๋งแหกโค้งอัดเสาไฟพลิกคว่ำ ดับ 2 เจ็บ 3

เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งแหกโค้ง เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย

รถทัวร์ชนสนั่นกระบะ เจ็บสาหัส 4 เหตุผู้รับเหมาชุ่ย ซ่อมถนนให้รถวิ่งสวนเลนไร้แสงสว่างแจ้งเตือน

ร.ต.ท.ศุภวัชร์ เชื้อศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถทัวร์ปรับอากาศชนกับรถยนต์กระบะบนถนนสายเพชรเกษม กม.ที่ 507 ม.7 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์