24 มิ.ย. 2565 – ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะเกษม ผบก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 ในข้อหาร่วมกันที่เป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการกระทำโดยประการใดๆ อันมิชอบหน้าที่ ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับคดีแตงโม ตามมาตรา 164,157
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ในการแจ้งความกับตำรวจทั้ง 2 นาย กรณีนำคลิปการจำลองเหตุการณ์ เปรียบเทียบใบพัดกับบาดแผลศพของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม อดีตดาราสาว ให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นอดีตหมอศัลยแพทย์ มองว่าตำรวจทั้ง 2 นาย ไม่ควรนำคลิปหลักฐานไปให้กับบุคคลภายนอก เพราะเป็นความลับราชการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ตามมาตรา 164 และ 157
ส่วนประเด็นยังข้อสงสัยนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน เป็นแม่ที่แท้จริงของดาราสาวหรือไม่นั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เพื่อพิสูจน์ความจริงอยากให้แม่ตรวจดีเอ็นเอ หรือนำหลักฐานภาพอุ้มท้องแตงโมออกมาเปิดเผย เพื่อการคลายความสงสัยของสังคม สำหรับกรณีที่แม่จะถอนฟ้องตรง แม่ต้องไปยื่นเองศาล จึงจะจำหน่ายคดีออกจากระบบ ซึ่งต้องรอดูแม่อีกครั้ง แต่เท่าที่สอบถามทนายบุญถาวรยังยืนยันว่าแม่จะถอนฟ้อง เป็นสิทธิ์ของแม่ ทั้งนี้ตนจะไม่ดำเนินคดีกับแม่แล้ว เพราะเห็นว่าแม่ป่วย แต่จะดำเนินคดีกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ แทน ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 2 คดี โดยจะไปแจ้งความที่ สภ.พระประแดง ในวันที่ 25 มิ.ย.
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการพูดถึงคลิปเหตุการณ์ตอนที่มีการกรีดขาว่า ยืนยันว่าไม่เคยพูดว่ามีคลิปที่บันทึกเหตุการณ์ตอนกรีดขา แต่มีภาพที่แสดงให้เห็นถึงที่มาของบาดแผลว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่เกิดจากการกรีดด้วยมีด ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตรวจสอบตัวเรือ เพื่อหาร่องรอยเลือดตามจุดที่ปรากฏในหลักฐานของตนเอง เพื่อให้คลายข้อสงสัย ซึ่งหากมีการยอมตรวจเรือลำดังกล่าวตนจะพาชี้จุดต่างๆ
ทั้งนี้เมื่้อวันที่ 23 มิ.ย. ในรายการโหนกระแส ที่มีคนบนเรือโทรสายเข้ากลางรายการสดนั้น สิ่งที่ตนพูดทำให้คนบนเรือหวาดระแวงกันเองว่าใครเป็นคนส่งหลักฐานให้ และผลก็คือมีหลายคนร้อนตัว ทั้งนี้อยากดีเบตกับนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์” หรือโรเบิร์ต บุคคลที่ไม่มีการติดต่อมากลางรายการ
“ส่วนที่ทนายษิทรา หากต้องการจะช่วยเหลือผมอย่างที่พูดมา ก็พร้อมให้ช่วยเหลือ โดยต้องไปกับผมด้วยทุกที่ ตรวจเรือหรือการดำเนินการต่างๆ สำหรับหลักฐานยืนยันสามารถเปิดเผยได้ในชั้นศาลเท่านั้น” นายอัจฉริยะ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จิราพร' นำ สคบ. ถก CIB จัดการธุรกิจหลอกลวงประชาชน
“จิราพร” นำ สคบ. หารือผู้บัญชาการสอบสวนกลาง บูรณาการป้องกันและหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการทำธุรกิจหลอกลวงประชาชน หรือธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่
'ครูปรีชา' ร้อง ผบ.ตร ลงโทษสารวัตรกองปราบ ทำหลักฐานคดีหวย 30 ล้าน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ได้ยื่นหนังสือ ถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เพื่อขอให้ลงโทษสารวัตรฝ่าย
'ทนายพัช' ยื่นศาลขอถอนตัวเป็นทนาย 'แอม ไซยาไนด์'
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือทนายพัช เดินทางมาศาลอาญา พร้อมเอกสารการยื่นขอถอนตัวออกจากการเป็นทนาย
เผือกร้อนสภาทนายความ สอบมรรยาท '2 ทนายดัง'
นายกสภาทนายความ นั่งไม่ติด เเจงไทม์ไลน์สอบมรรยาท ”ทนายตั้ม –ทนายเดชา” 30 วันเเจ้งผลเบื้องต้นให้ทราบได้
'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'
ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม
'ทนายรณณรงค์' ให้ปากคำคดีทนายตั้ม รับแปลกใจเพื่อนรวยผิดปกติ
นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำต่อตำรวจสอบสวนกลาง คดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด