เตือนภัยมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจจราจร โทรทวงค่าปรับไม่จ่ายขู่ออกหมายจับ

24 มิ.ย.2565 - พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีประชาชนโทรแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1197 และมีข้อมูลปรากฏทางสื่อโซเซียลว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร โทรทวงเงินค่าปรับใบสั่งจราจรที่ค้างชำระโดยอ้างว่าผู้ที่รับสายได้กระทำผิดกฎหมายจราจร และหากไม่โอนเงินชำระค่าปรับจะออกหมายจับ นั้น

กรณีดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอยืนยันว่าไม่มีการปฏิบัติโดยวิธีการโทรไปทวงให้ชำระค่าปรับและโอนเงินเพื่อชำระค่าปรับอย่างแน่นอน และขอเรียนให้ทราบข้อมูลเพื่อรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ดังนี้

1. เมื่อท่านกระทำผิดกฎหมายจราจร กรณีถูกกล้องตรวจจับกระทำความผิด เจ้าพนักงานจะนำส่งใบสั่งจราจรตามข้อหาที่กระทำความผิด ไปให้ท่านทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ โดยการชำระค่าปรับ ผู้ที่ชำระจะต้องนำใบสั่งจราจรซึ่งจะมีแถบบาร์โค้ดปรากฏอยู่บริเวณมุมล่างซ้าย เพื่อใช้ยืนยันในการชำระทุกครั้ง โดยสามารถชำระค่าปรับได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ทางธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้ทุกธนาคาร และตู้บุญเติม 2.จุดบริการชำระเงินอื่นๆ ได้แก่ ไปรษณีย์ทุกสาขา และจุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษณ์ คำว่า “PTM” 3.สามารถเดินทางไปชำระได้ที่สถานีตำรวจทุกสถานี

2. กรณีหากผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจร ยังไม่ได้ชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นหน่วยงานผู้ออกใบสั่ง จะทำการออกใบเตือนส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นเดียวกัน เพื่อแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับ ไม่มีวิธีการให้เจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งให้ชำระค่าปรับและโอนเงินมาให้โดยตรง

3. การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ไม่มาชำระค่าปรับ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และหากมีการออกหมายเรียกจะดำเนินการเน้นหนักไปที่ผู้กระทำความผิดซ้ำซาก และเป็นข้อหาที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ส่วนการออกหมายจับจะดำเนินการหลังจากมีการออกหมายเรียกไม่น้อยกว่า 2 ครั้งและผู้กระทำผิดไม่มาพบพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับกองบัญชาการตำรวจนครบาล

"ขอยืนยันว่าทุกขั้นตอนจะไม่มีวิธีการแจ้งโทรไปให้ชำระค่าปรับหรือขู่จะออกหมายจับอย่างแน่นอน จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบ และอย่าได้หลงเชื่อพวกมิจฉาชีพที่มีพฤติการณ์เช่นนี้ และในรูปแบบอื่นๆ ที่หลอกลวงให้โอนเงินเป็นอันขาด และหากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินการต่อไป"โฆษก บช.น. ระบุ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ออมสิน’ เตือนระวังมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ใช้โลโก้ธนาคารหลอกลูกค้า

รายงานข่าวจากธนาคารออมสินแจ้งว่า ตามที่มีการแพร่ระบาดของมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ด้วยการส่งจดหมายปลอม แอบอ้างใช้โลโก้ ชื่อธนาคาร รวมถึงชื่อผู้บริหารของธนาคาร

จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นนักการเมืองดัง ลวงเหยื่อ 22 ล้าน

พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์

'ตั๊ก บงกช' เตือนภัย! หลังถูกแอบอ้างชื่อหลอกลงทุนธุรกิจ

ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล เตือนภัย! อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ หลังจาก ตั๊กและสามี ถูกนำชื่อแอบอ้างหลอกทำธุรกิจร่วมลงทุน ย้ำชัดไม่เคยชวนใครลงทุน หรือ ทำธุรกิจใดๆ อย่าหลงเชื่อกลโกง

'บอสณวัฒน์' ควง 'ชาล็อต' แถลง กลโกงมิจฉาชีพทำสูญเงิน 4 ล้าน!

หลังจากที่ทางเพจ Miss Grand Thailand ได้โพสต์ว่านางงามสาว ชาล็อต ออสติน ถูกมิจฉาชีพหลอกเงินกว่า 4 ล้านบาทรวมถึงบังคับให้วิดีโอคอลตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ล่าสุด ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้พา ชาล็อต ออสติน แถลงข่าว