ลูกสาวเชื่อพ่อไม่ได้ตายทันที ในจุดเกิดเหตุบนมอเตอร์เวย์ ยันเอาผิดตร.ทางหลวง หน่วยกู้ภัย

11 ส.ค.2565 - ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางท นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ได้พา น.ส.จิตรชญา อรรถพร ลูกสาวผู้ตายวัย 30 ปี ลูกสาว นายภัทรชัย อรรถพร อายุ 68 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ฝั่งขาเข้าพัทยา ถูกทิ้งศพไว้ในรถกว่า 12 ชม. แจ้งความกองปราบปรามเอาผิดกับตำรวจทางหลวงและหน่วยกู้ภัยทางหลวง กระทำการประมาทงดเว้นกระทำการเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ทนายรณรงค์ เปิดเผยว่า อยากให้ตำรวจกองปราบมาทำคดีนี้เพราะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประเด็นนี้ที่ลูกสาวติดใจถ้าพ่อเขายังไม่เสียชีวิตไปขนย้ายรถไปเก็บได้อย่างไร ส่วนผลชันสูตรการเสียชีวิตเบื้องต้นพบว่าการเสียชีวิตมีภาวะเลือดคั่งในช่องเยื้อหุ้มหัวใจเนื่องจากขั้วหัวใจฉีกขาดปริแตกและกระดูกซี่โครงหัก แต่สาเหตุการเสียชีวิตตอบไม่ได้ว่าเสียชีวิตเมื่อไหร่ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องไปตรวจสอบมา เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความมักง่าย แค่ยกรถโดยไม่สนใจว่ามีคนเจ็บอยู่ข้างใน เมื่อมักง่ายก็ต้องถูกดำเนินคดี ทางกระทรวงคมนาคมที่กำกับดูแลการทางพิเศษต้องรับผิดชอบด้วย

ด้านลูกสาวของผู้ตายเผยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจทางหลวงและหน่วยกู้ภัย ยังไม่ได้รับคำชี้แจงเพียงแต่บอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งศพให้ ที่ยังติดใจคือหลังเกิดเหตุทำไมหาร่างพ่อไม่พบ มองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ควรละเอียดมากกว่านี้และคิดว่าพ่อไม่น่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอใตรวจสอบให้ละเอียดว่าไม่มีคนเจ็บจริงๆ ไม่อยากเกิดเหตุการณ์สูญเสียแบบนี้อีกพ่อเราทั้งคน ถ้าพ่อไม่เสียชีวิตตอนนั้นคงจะทรมานมากตอนอยู่ในรถ ทั้งบาดแผลและหายใจไม่ออกไม่อยากนึกถึงสภาพนั้น อยากให้มีผู้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น