
ส่ง 'ส.ต.ท.หญิง' ตรวจสุขภาพจิต จ่อแจ้งข้อหาเพิ่มทำร้ายร่างกายพื้นที่ จ.เพชรบุรี 'บิ๊กปั๊ด' กำชับให้เร่งดำเนินการตรงไปตรงมา
24 ส.ค.2565 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล1 ทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ ว่าเมื่อวันที่ 23 ส.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวผู้เสียหายเข้าพบแพทย์ศัลกรรมตรวจร่างกายเพิ่มเติมและสอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายที่โรงพยาบาลราชบุรี ส่งของกลางตรวจพิสูจน์ นำตัวผู้ต้องหาส่งตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลราชบุรี และได้สอบสวนปากคำแพทย์ผู้รักษาสุขภาพจิตของผู้ต้องหาที่โรงพยาบาลยันฮี ประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ในวันเดียวกันผู้เสียหายพร้อมทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาพร้อมพวก รวม 2 คน ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส สถานที่เกิดเหตุเป็นคอนโดแห่งหนึ่งย่านอำเภอชะอำ จว.เพชรบุรี ในระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2565 และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จากนั้นได้ทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหาย พาผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุและนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชะอำ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดที่เกิดเหตุ และจะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งเพื่อป้องกันให้สังคมเกิดความสับสนและเสียรูปคดี จึงขอความร่วมมือติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบนสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี และในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน ภายใต้กรอบกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้ ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำผิดส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภาพรวมทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.เร่งช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาติติดค้างในหาดใหญ่กว่าพันคน!
ตร.เร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ติดค้างในพื้นที่หาดใหญ่กว่า 1,000 คน
ตร.แนะเช็กก่อนบริจาคช่วยน้ำท่วมทิพย์!
ตร.แนะ 'เช็กก่อนเชื่อ-ชัวร์ก่อนโอน!' ระวังตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมและแก๊งหลอกเรี่ยไร ช่วยน้ำท่วมทิพย์
'บิ๊กต่าย' ลงหาดใหญ่ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัย
ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมหนักพื้นที่หาดใหญ่
'อนุทิน' การันตี 'บิ๊กต่าย' พร้อมรับการตรวจสอบ!
'อนุทิน' เผย 'บิ๊กต่าย' พร้อมรับการตรวจสอบ ปมเพจดังแฉตำรวจวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ย้ำต้องดูหลักฐานก่อน หากตรวจสอบทุกเรื่อง ไม่เป็นอันทำงาน บอกรัฐบาลชุดนี้โกงน้อยลง ลั่นตั้งใจเป็นศัตรูกับคอร์รัปชัน
ตำรวจพร้อมเสริมกองทัพรักษาอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา
ผบ.ตร.ย้ำ ตำรวจพร้อมสนับสนุนทหารป้องกันประเทศ พร้อมเสริมกองทัพรักษาอธิปไตยชายแดนไทย - กัมพูชา ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง
ศึกตำรวจ! งานนี้ 'โจ๊ก' ไม่ยอมตายเดี่ยว แต่พ่วงระเบิดมาพร้อมตายหมู่
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตผู้ประกอบธุรกิจ อาบอบนวด ฉายา "เสี่ยอ่าง" และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ศึกตำรวจ มีเนื้อหาดังนี้ ดูจะเป็นหนังเรื่องยาวของวงการตำรวจ เมื่อ “บิ๊กโจ๊ก” ออกโรงทิ้งระเบิดครบเครื่องทั้งข้อมูล และลีลาลากไส้วงใน


