พี่ชายสุดทนน้องชายทาสยา ทำร้ายพ่อแม่ คว้าปืนยิงดับ

พี่ชายสุดทนน้องคลั่งยานรก อาละวาดทำร้ายพ่อแม่ คว้าปืนยิงดับ เผยก่อเหตุต่อเนื่อง พร้อมยอมรับความผิดเข้ามอบตัวสู้คดี

5 ก.ย.2565 – เมื่อเวลา  03.00 น. ร.ต.อ.ประสิทธิ์  ดำนุ้ย รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันตายในร้านภัคพลค้าของเก่า เลขที่ 141/20 ซอยทุ่งข่า เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ และชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นร้านรับซื้อของเก่า มีรั้วล้อมรอบเป็นบริเวณกว้าง พบศพผู้ตายชื่อนายอนุชา บุตรรักษ์ อายุ 42  นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตใน นอนตายบริเวณพื้นดินลานหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในรั้วร้านรับซื้อของเก่า สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด.38 เข้าชายโครงขวา 1 นัด และหน้าอกซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด

โดย พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ   ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าจากการสอบสวนปากคำนางจำเป็น มารดาของผู้ตายให้การว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน ปรากฏว่าทันใดนั้นได้มีนายอนุชา ผู้ตายซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง มีอาการเมายาเสพติดได้เข้ามาส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน เป็นปกติเช่นทุกวัน ซึ่งตนเองได้ออกไปห้ามก็ไม่ฟัง และนายอนุชาลูกชามีท่าทีจะเข้ามาทำร้ายตนเองและคนในครอบครัวเหมือนเช่นทุก ๆ วันที่ผ่านมา จนเป็นที่เอือมระอาของของทุกคนในครอบครัวและมีทีท่าอาละวาดหนักขึ้น

ทั้งนี้มารดาผู้ตาย ได้ระบุว่า ตนเองได้โทรศัพท์ไปหานายมนุญ   บุตรรักษ์ อายุ 53 ปี ลูกชายของตนอีกคนที่แขนด้วนด้านซ้าย และเป็นพี่ชายของผู้ตายให้มาช่วยระงับเหตุ ปรากฏว่าเมื่อนายมนูญ ขับรถเข้ามารั้วร้านรับซื้อของเก่า และเดินลงจะรถจะเข้าไปห้ามปรามน้องชายที่กำลังคลั่งอาละวาดหนัก ปรากฏว่าทันใดนั้นนายอนุชา ยังไม่หายคลุ้มคลั่งกลับเดินปรี่เข้าไปหานายมนูญพี่ชาย เพื่อหวังทำร้ายร่างกายพี่ชาย ทำให้นายมนุญพี่ชายตกใจใช้มือขวาชักอาวุธปืน.38ที่ พกติดตัวมายิงใส่ร่างนายอนุชาไป 2 นัดซ้อนกระสุนเจาะหน้าอกซ้ายและชายโครงขวา ทำให้นายอนุชาสิ้นฤทธิ์ตายคาที่ทันที ส่วนนายมนูญ พี่ชายได้ตัดสินหลบหนีไปตั้งหลักก่อนดังกล่าว

ล่าสุดนายมนูญ   ผู้ต้องหายิงน้องชายตัวเองตายได้พร้อมกับญาติๆเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง โดยเบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนใช้ปืนยิงนายอนุชา น้องชายจริง เพราะสุดทนกับพฤติกรรมของน้องชายที่เมื่อเมายาเสพติดแล้วมักจะอาละวาดทำร้ายพ่อแม่และคนในครอบครัวเป็นประจำ ซึ่งตนเองและครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ จึงตัดสินสินใจเดินทางเข้ามอบตัวดังกล่าว ต่อมาทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจหารอยเขม่าดินปืนและคุมตัวนายมนูญดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นฯและ พ.ร.บ.อาวุธปืนต่อไปแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นบ.ยส.35 เยี่ยมกำลังพลได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะแก๊งค้ายาชายแดนแม่อาย

พล.ท.กิตติพงศ์  ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ พล.ท.กาจน์ กอรี รอง ผบ.นบ.ยส.35 เป็นผู้แทนเข้าเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับ ส.อ. จักริน  มูลคำ สังกัด ร้อย.ทพ.3201 ฉก.ทพ.32 ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการปะทะผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดพื้นที่

ย้ำโปร่งใสไม่รั่วไหล! เตรียมเผาทำลายยาเสพติดของกลางกว่า 27 ตัน จาก 151 คดี

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาล และตามข้อสั่งการของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ฟื้นฆ่าตัดตอน! ภูมิธรรมไฟเขียว จนท.ตอบโต้พ่อค้ายาฮึดสู้

'ภูมิธรรม' ไฟเขียวเจ้าหน้าที่ตอบโต้พ่อค้ายาฮึดสู้ เชื่อใจ จนท.ไม่เร่งปั้นตัวเลขจนกระทบประชาชน เผย ประเมิน KPI 3 ช่วง ก่อนปรับแผน ดึงสถานบันวิชาการช่วยประเมินผล

สว. ชงยาแรงปราบยาเสพติด ต้องประหารชีวิต ถ่ายทอดสดด้วย

ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณารายงานผลปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ในการปราบปรามยาเสพติด