สั่งไล่ออกจากราชการ! 'ผู้การตรัง' ลงดาบ 'จ่าเบิร์ด' รัวยิงกลางผับตาย 1 เจ็บ 2

ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ‘จ่าเบิร์ด’ รัวยิงนักเที่ยวตาย 1 เจ็บ 2 รายหลังเขม่นกันในสถานบันเทิงใจกลางเมืองตรัง จนถึงขณะนี้ยังไม่มอบตัว ผู้การฯลงดาบสั่งออกจากราชการ ขณะที่หุ้นส่วนเผยผู้ก่อเหตุเคยเป็นการ์ดที่นี่มาก่อน จึงไม่ได้ตรวจค้นอาวุธเพราะเป็นตำรวจ ที่ผ่านมานิสัยดีมาตลอด

25 ต.ค.2565 - จากกรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฎิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่นายจิตกร คงจันทร์ หรือขาว อายุ 32 ปี ชาวตำบลทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จำนวน 9 นัดเสียชีวิตกลางผับดัง ซึ่งผู้ตายนอกจากจะเป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของ จ.ตรังด้วย นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังยิงปืนไปถูก นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ เลขที่ 205 หมู่ 4 ถนนพัทลุง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (บริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง) ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดอาวุธ ขณะทั้งสองฝ่ายนั่งดื่มสุรากัน เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.13 น. วันนี้ 25 ตุลาคมนี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรังพร้อมรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรังและผู้กำกับการ สภ.เมืองตรังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยมีนางวรรณา อินฤทธิ์ หรือเอียด อายุ 57 ปีกับนายสมจิตร คงปรือ อายุ 58 ปี สองสามีภรรยาที่เป็นหุ้นส่วน “คันทรี่โฮม” ผับดังใจกลางเมืองตรัง เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยในที่เกิดเหตุยังพบกองเลือดนองพื้น และพบรองเท้าของผู้บาดเจ็บตกอยู่

ขณะที่ พล.ต.ต เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและรูปคดีเป็นการกระทำผิดส่วนตัว ซึ่งก็ดำเนินคดีไปตามหลักกฎหมายอยู่แล้ว และให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ไหน แต่ได้เชิญคุณแม่และภรรยามาพูดคุยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะขาดการติดต่อกับคุณแม่และภรรยาด้วย เบื้องต้นทางวินัยได้สั่งไล่ออกไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากมีความผิดทางอาญา ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมาจ่าเบิร์ดเป็นคนเรียบร้อยและใจเย็น สามารถคุมลูกน้องได้ดี ส่วนปมสาเหตุยังคงเป็นเรื่องของการเขม่นกันในร้าน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นชู้สาวทิ้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว

ด้านนางวรรณา อินฤทธิ์ อายุ 57 ปี หุ้นส่วนคันทรี่โฮม กล่าวว่า ปกติมีการตรวจอาวุธก่อนเข้าร้านทุกคน มีกล้องวงจรปิดทุกจุดและมีการ์ดอยู่หน้าร้าน ซึ่งตำรวจที่ก่อเหตุเป็นการ์ดเก่าที่ทำงานอยู่ที่นี่ น้องนิสัยดีมาก แต่เคยบอกกับตนว่า เขาเหนื่อยกับการเป็นทำงาน จึงขอพักงานการ์ด ซึ่งตนก็ยังบอกกับผู้ก่อเหตุว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนดี ตน(ป้าเอียด)ก็ยังเสียดายเลย แต่เขาขอพักจากงานการ์ดไปด้วยความดี แต่ตอนมาเมื่อคืนนี้การ์ดก็ตรวจแล้ว แต่เข้าใจว่า เราเป็นคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาและสองเขาเป็นตำรวจ ซึ่งทางร้านตรวจเข้มข้น แต่ตำรวจที่มาส่วนใหญ่มีจรรยาบรรณ ไม่พกพาอาวุธเข้ามา เพื่อไม่ให้เจ้าของร้านหนักใจ และผู้ก่อเหตุก็ดีมาก แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรขึ้นมา ส่วนความรู้สึกหลังเกิดเหตุคือเสียใจมาก เพราะ 1.ไม่ใช่เป็นความผิดของร้าน และ 2 คือหลังจากนี้จะไปทางไหนต่อที่มีลูกน้องต้องดูแลอีกหลายสิบชีวิตนับจากนี้ รู้สึกเสียใจมากที่เจ้าหน้าที่มาก่อเหตุเช่นนี้เสียเอง ซึ่งการที่เราไม่ค้นเพราะเราให้เกียรติ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป และอยากจะให้ทางราชการพิจารณาอย่าสั่งปิดร้าน เพราะร้านเพิ่งพ้นเพิ่งฟื้นจากโควิด หากปิด พนักงานว่า ชีวิต รวมทั้งครอบครัวของเขาด้วยจะอยู่กันยังไง จึงอยากให้ทบทวนด้วย เพราะข้าราชการตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ย้ำชัดเจน ไม่ห้ามจัดกิจกรรมรื่นเริง-งานประเพณี เชื่อประชาชนใช้ดุลพินิจเหมาะสมในห้วงถวายความอาลัย

นายกฯ ย้ำไม่ห้ามจัดงานรื่นเริง ยึดตามความเหมาะสม ขณะที่ ”งานแต่ง-งานบวช“ จัดได้ตามประเพณี ส่วนร้านเหล้า เปิด-ปิด ได้ตามปกติ แต่อย่าจัดเต็มแม็ก เชื่อวุฒิภาวะผู้ประกอบการ เปรียบเหมือนเสียญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ ควรรู้ทำได้ระดับไหน

รัฐบาลขอภาคธุรกิจบันเทิง-สถานบันเทิง งดหรือลดกิจกรรมรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน

น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รัฐบาลขอความร่วมมือจากภาคธุรกิจบันเทิง สถานบันเทิง และสถานบริการต่าง ๆ งดหรือลดกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาแห่งความอาลัยของปวงชนชาวไทย

'นายหัวชวน' กลับตรัง เปิดใจแพ้เลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ รู้ซื้อเสียงหนัก-ไม่ใช่ตัวเต็ง แต่ยังไปช่วยเต็มที่

นายหัวชวน ใช้ช่วงปิดประชุมสภาฯ รักษาแผลที่บ้านพักเมืองตรัง หลังช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ ยอมรับพ่ายแพ้ยับเยินทั้งที่ช่วยหาเสียงสุดความสามารถ ทั้งเคาะประตูบ้าน เปิดเวทีปราศรัย ไม่ซื้อเสียง มองปรับ ครม. ยังคงพรรคเดิม แม้มีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ที่สุดก็ยังทนอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไป

'ชาวเกาะลิบง' ร้องผู้ว่าฯตรัง เดือดร้อนหนัก คลื่นซัดบ้านพังยับผ่านมา 7 เดือนยังไร้เยียวยา

ชาวบ้านสุดทน บุกล้อมศาลากลางตรัง เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าตรัง โบ้ย หลังจากผ่านไป 7 เดือน ที่อยู่อาศัยถูกคลื่นซัดพัง รัฐไร้เยียวยา ไม่มีแม้ที่ดินแม้จะสร้างบ้าน เดือดร้อนหนัก เรียกร้องให้มีการช่วยเหลือด่วน ก่อนหน้ามรสุมจะมาอีกครั้ง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา