'บิ๊กโจ๊ก' บินด่วนมาเลเซียรับ 3 ผู้ต้องหาชาวไทย ลวงเด็กหญิงบังคับค้าประเวณี

7 พ.ย.2565 - จากกรณีญาติของ ด.ญ.เอ นามสมมติ ผู้เสียหายเข้าขอความช่วยเหลือที่ กก.6 บก.ปคม. แจ้งว่า บุตรสาวของตนถูกหลอกลวงไปค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย กก.6 บก.ปคม. จึงได้ประสานกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ เข้าช่วยเหลือเหยื่อจนสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ที่ผ่านมาพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.จึงได้สั่งการ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร.เร่งจับกุมตัวคนร้ายสามารถนายวันเผด็จ เรืองฤทธิ์ อายุ 41 ปี และนายกอแต้ หรือลีโอ อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา

โดยกล่าวหาว่า สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีและได้กระทำความผิดตามที่ได้ตกลงกันไว้, ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีฯ

ความคืบหน้า 7 พ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับเอเย่นฝั่งมาเลเซียได้จำนวน 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการได้ประสานความร่วมมือกันระหว่างประเทศ บก.ป., บก.สส.จชต. และกองบัญชาการสอบสวนกลางประเทศมาเลเซีย เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียสามารถติดตามจับกุมไว้ได้ทั้งหมด ประกอบด้วย น.ส.เมธินี แสงไข่ อายุ 38 ปี ,น.ส.นฤมล แฟงฟัก อายุ 44 ปี ,น.ส.เกษณี ตาท้าว อายุ 38 ปี

โดยกล่าวหาว่า สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปและได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน โดยกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้า ปี , ร่วมกันค้ามนุษย์ตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่ อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี , ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือซักพาไป ซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้ว่าบุคคลนั้น จะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดย กระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี , ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอม ก็ตาม โดยกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี , ร่วมกันกระทำด้วยประการใด โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น รับ ประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีและจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่ง ค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ , ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยง ต่อการกระทำผิด ,ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม ยินยอม หรือการทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ,ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่ง ค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด , พรากเด็กอายุยังไม่เกิน สิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร เพื่อหา กำไรหรือเพื่อการอนาจาร

นอกจากนี้ ยังสามารถขยายผลตรวจค้นโรงแรมย่าน Selangor สามารถเข้าช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไป ขายบริการทางเพศ ได้อีกจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นหญิงไทย 2 ราย และหญิงชาวอินโดนีเซีย 2 ราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบ Tan Sri Acryl Sani Bin Hj Abdullah Sani ผบ.ตร. ,Dato’ Sri Abd Jalil Bin Hassan ผบช.สืบสวนคดีอาชญากรรม ,Dato’ Sri Hazani Bin Ghazali ผบช.ความมั่นคงภายใน ,Dato’ Hj Baharuddin Bin Hj Ahmad ผบช.ตำรวจสันติบาล ,Dato’ Mohd Kamarudin Bin Md Din ผบช.สืบสวนคดีเศรษฐกิจ, Datuk Zaini Bin Jass ผบช.ฝ่ายบริหาร ,Datuk Seri Ayob Khan Bin Mydin Pitchay ผบช.ปราบปราบยาเสพติด เพื่อประสานความร่วมมือ ในคดีอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นการพัฒนาความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งการส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายในคดีนี้ กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภายหลังจาก บก.ปคม. ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากญาติของเหยื่อ โดยชุดปฏิบัติการสามารถประสานความร่วมมือในการเข้าช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว และพากลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย และยังสามารถสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงคนไทยไปค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจับกุมที่ประเทศไทยจำนวน 2 ราย และประสานความร่วมมือกับทางการมาเลเซียจนสามารถจับกุมเพิ่มได้ทั้งหมดอีก 3 ราย รวมทั้งยังสามารถช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวงไปได้อีก 4 ราย เป็นคนไทย 2 ราย และอินโดนีเซีย 2 ราย

ทั้งนี้จากการที่ทางการไทยและทางการมาเลเซียมีการประสานความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายด้วยดีเสมอมา ทำให้การร่วมมือกันป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก จากการได้พบและพูดคุยกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ก็ยืนยันว่าจะประสานความร่วมมือกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้กันอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อปิดทางมิให้อาชญากรเหล่านี้มีที่ยืนในทั้งสองประเทศต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออกหมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' ครั้งที่ 3 หากไม่มาพบจะขอศาลอนุมัติหมายจับ

มีรายงานแจ้งว่าคณะพนักงานสอบสวนในคดีเว็ปพนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ ได้ประชุมคดีและมีมติ ดำเนินการออกหมายเรียกครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 โดยมีการออกหมายเรียกเป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้ (27 มี.ค.)

สมาคมนักข่าวฯ ร้องนายกสภาทนาย ขอให้สอบเพิ่ม ปมนักข่าวรับเงินบัญชีม้าเว็บพนัน

นางสาว น.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กมธ.ปราบฟอกเงิน เชิญ ปปง.-ตัวแทนค้าทอง แจงปมคนใกล้ชิด 'บิ๊กโจ๊ก' ขายทอง

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ศาลยกฟ้อง 'พล.ต.อ.ธนา' กับตำรวจชุดคดีเว็บพนันมินนี่ 244 คน หลังลูกน้องบิ๊กโจ๊กยื่นฟ้อง

ศาลอาญาคดีทุจริตฯยกฟ้องชั้นตรวจฟ้อง ‘ธนา ชูวงศ์’ กับ 244 ชุดพนักงานสอบสวนคดีเเก๊งนายตำรวจพัวพันเว็บพนัน หลัง ‘เขมรินทร์ พิสมัย ‘ยื่นฟ้อง ชี้ ที่โจทก์อ้างไม่ได้ทำผิดเป็นข้อต่อสู้ในคดี ไม่ใล่เหตุนำมาฟ้องจำเลยกับพวกระบุ การขอออกหมายจับ ไม่ระบุอาชีพยศ ไม่ใช่สาระสำคัญ

นายกฯ กำชับตำรวจก้าวข้าม 'ต่อ-โจ๊ก' ลั่นไม่ขอยุ่งแล้ว ให้เป็นหน้าที่คกก.ตรวจสอบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ในที่ประชุมได้กำชับเรื่องความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่รู้ข้อเท็จจริง 'ทนายตั้ม' แฉปมส่วยเว็บพนัน แต่ต้องรับผิดชอบคำพูด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ไม่ได้ให้ผู้ใต้บังคับการบัญชาที่เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการโทรศัพท์ไปขอข้อมูลกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก่อนที่ทนายตั้ม