ชายอ่างทองหายตัวปริศนา ก่อนพบเหลือแค่โครงกระดูกในซุ้มวัชพืช

ชายอ่างทอง วัย 55 ปี ดับปริศนา หลังหายตัวนานกว่า 2 เดือน มาพบเป็นโครงกระดูก พร้อมถุงปุ๋ยในสวนข่ามีหญ้าวัชพืชปกคลุมเป็นอุโมงค์  

4 ธ.ค.2565 –  พ.ต.ท.รัฐภูมิ  ขมสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.รำมะสัก ปฎิบัติราชการแทนสารวัตรใหญ่ สภ.รำสัก อำเภอโพธิ์ทอง ได้รับแจ้งพบโครงซากศพเป็นกระดูกมนุษย์ ที่บริเวณสวนข่า หมู่ 11 ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ รำมะสัก  แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลโพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง รุดไปที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นสวนข่า พบโครงกระดูก หัวกระโหลก มนุษย์ อยู่ในสวนข่า ที่พบกระดูกนั้นเป็นคล้ายอุโมงค์ที่ปกคลุมด้วยวัชพืช มีโครงกระดูก หัวกระโหล มนุษย์ พร้อม ไอ้โม่งสีแดง เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน และถุงปุ๋ย ที่ด้านในมีลูกเขียด หัวไฟส่องกบและรองเท้าอยู่ด้านในกระสอบปุ๋ย โดยมีลูกสาวและญาติมายืนยันว่าโครงกระดูกที่พบนั้นชื่อว่า นายสุชาติ โพธิ์จันทร์ อายุ 55ปี บ้านเลขที่ 97หมู่ 11 ต.ยางซ้าย ที่หายตัวไปกว่า 2 เดือนและทางลูกๆและญาติตามหา มาพบอีกทีเหลือเป็นโครงกระดูก ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา

นางสาว อุทุมพร โพธิ์จันทร์ ลูกสาว ระบุว่า  พ่ออาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกันพร้อม 3 พี่น้อง และได้ออกหาลูกเขียดกับลุง ในตอนกลางคืนได้แยกกันหากับลุงและได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ้ง ช่วยกันตามหาตัวโดยรอบบริเวณพื้นที่แต่ไม่พบเจอตัวจึงได้ไปทำการลงบันทึกประจำวันแจ้งคนหายเมื่อวันที่ 3 ต.ค. และตามหาตัวเรื่อยมาแต่ไม่พบตัวนานกว่า 2เดือน มีชาวบ้านมาพบอีกทีกลายเป็นโครงกระดูกปริศนาอยู่ภายในอุโมงค์วัชพืชในสวนข่า ห่างจากบ้านเรือนประชาชนประมาณ 200 เมตร น่าแปลกใจไม่มีใครได้กลิ่นศพเลย และก็มาตามหาใกล้ที่เกิดเหตุก็ยังไม่เคยได้กลิ่นศพ

ทางด้านนางสาว  จิดาภา นุชนงค์  เจ้าของสวนข่า ญาติกับผู้เสียชีวิต ระบุว่า ช่วยออกตามหาอยู่บนถนนห่างจากที่พบศพประมาณ 20เมตร ก็ไม่มีใครได้กลิ่นศพ ก็แปลกใจเหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ้งช่วยตามหาทั้งในสวนหลังบ้านผู้เสียชีวิตและพื้นที่โดยรอบก็ไม่มีใครได้กลิ่นศพ นานกว่า 2เดือน จึงมีชาวบ้านมาพบเป็นโครงกระดูกปริศนา ทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.