'ชูวิทย์' บุกขึ้นลิฟต์ร้อง 'อสส.' ทำสำนวนคดี 'ตู้ห่าว' แทนตำรวจ

‘ชูวิทย์’ ดอดบุกขึ้นลิฟต์ ร้องอัยการสูงสุดรับคดี ‘ตู้ห่าว’ เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวน แทน ตร. พร้อมตั้งข้อหาฟอกเงิน ห่วงหลุดคดีเหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ

9 ธ.ค. 2565 – เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนแจ้งวัฒนะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ขอรับคดีตู้ห่าวสมคบค้ายาเสพติด เป็นคดีนอกราชอาณาจักร เพื่อให้ อสส.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ทำสำนวนคดีแทน พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เจ้าของท้องที่เกิดเหตุบุกจับผับจินหลิง

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นายตู้ห่าวโดนคดียาเสพติด 3 ข้อหา คือสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ไม่ถูกตำรวจตั้งข้อหาฟอกเงิน ที่จะสามารถยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ตกเป็นของแผ่นดินได้

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เหตุที่มาร้องให้ อสส. รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เนื่องจากคดีนี้มีการนำยาเสพติดเข้ามาจากต่างประเทศ มีซองประทับอักษรจีน จึงต้องถือว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร และเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ อัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน หรือจะมอบหมายให้ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนเข้าร่วมควบคุมคดีให้สำนวนมีความรัดกุมมากขึ้น ไม่ใช่ให้ตำรวจ สน.ยานนาวา หรือตำรวจนครบาล รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบทำสำนวน ไม่งั้นอาจเหมือนคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ภายหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง

โดยนายชูวิทย์ ยืนยันว่าจะยื่นหนังสือต่อ อสส. เท่านั้น ไม่ขอยื่นกับทีมโฆษกอัยการสูงสุดที่มารอรับหนังสือ หากไม่ได้พบ อสส.จะไม่ยอมกลับ เมื่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเสร็จแล้วได้ไปนั่งรอที่โซฟาหน้าห้องประชาสัมพันธ์ สำนักงานอัยการสูงสุดสักพักใหญ่แล้ว จึงอ่านหนังสือร้องเรียนให้ผู้สื่อข่าวฟัง พร้อมบอกว่า เข้าใจว่า อสส.มีภาระกิจเยอะ แต่ตนเองขอเวลา อสส.เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น

จากนั้นนายชูวิทย์ ย้ายไปนั่งรออยู่ที่หน้าลิฟท์ชั้น 2 เพื่อดักรอพบ อสส. จากนั้นไม่นาน เมื่อเห็นลิฟท์เปิดจึงเข้าลิฟท์บุกขึ้นไปพบ อสส. ที่ห้องทำงานชั้น 9 แต่ถูกทีมโฆษก อสส. เชิญมาพูดคุยที่ห้องทำงานชั้น 2 โดยใช้เวลาพูดคุยพักใหญ่ ต่อมานายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส. มาเป็นตัวแทน อสส.รับมอบหนังสือจากนายชูวิทย์

นายอิทธิพร กล่าวว่า นำนำหนังสือเสนอให้ อสส.พิจารณา โดยยืนยันว่า อสส. จะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้สำนวนยังมสไม่ถึงจึงยังไม่เห็นรายละเอียด ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ แต่ตามขั้นตอนถ้าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวนจะต้องทำหนังสือมาให้ อสส.พิจารณาแล้วอาจจะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำคดีต่อหรือส่งอัยการไปร่วมสอบสวน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผงะ! พบศพเหลือแต่โครงกระดูก เกยซอกหินริมทะเล

ร.ต.ท.ณัฐธนน ลิ่มประจวบพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) แจ้งว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากพนังว่า พบโครงกระดูกมนุษย์ ริมแนวกั้นคลื่นริมชายทะเล ม.9 ต.ท่าพยา อ.ปากพนัง

ตำรวจไซเบอร์บุกทลาย 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ชาวจีน กลางโรงแรมดัง

พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผกก.3 สอท.5) สืบทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ออกหมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' ครั้งที่ 3 หากไม่มาพบจะขอศาลอนุมัติหมายจับ

มีรายงานแจ้งว่าคณะพนักงานสอบสวนในคดีเว็ปพนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ ได้ประชุมคดีและมีมติ ดำเนินการออกหมายเรียกครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 โดยมีการออกหมายเรียกเป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้ (27 มี.ค.)

สมาคมนักข่าวฯ ร้องนายกสภาทนาย ขอให้สอบเพิ่ม ปมนักข่าวรับเงินบัญชีม้าเว็บพนัน

นางสาว น.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กมธ.ปราบฟอกเงิน เชิญ ปปง.-ตัวแทนค้าทอง แจงปมคนใกล้ชิด 'บิ๊กโจ๊ก' ขายทอง

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

'อัยการสูงสุด' สั่งฟ้อง คดีออกโฉนดปลอมที่ดินสระบุรี

นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างรังวัด 6 นายณรงค์พล แก้วสาร ผู้ต้องหาที่ 2