'นอท กองสลากพลัส' ติดประชุมมอบทนายพบดีเอสไอ แจงเส้นทางการเงิน 39 รายการ รวม 1,000 ล้านบาท เผยเหตุไว้ใจ 'นาย อ.' ให้นำสลากฯไปขึ้นเงิน เพราะต้องการทุนจำนวนมาก และมีเลขาฯอยู่ด้วยไม่ห่าง
28 ม.ค.2566 - นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ "นอท กองสลากพลัส" ได้เดินทางเข้าพบ นายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เมื่อ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อส่งเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินจำนวน 39 รายการ เนื่องจากดีเอสไอได้ขอก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด นายพันธ์ธวัช หรือ "นอท กองสลากพลัส" ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า เนื่องจากเมื่อวานนี้ผมติดประชุม ผมจึงได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสารเพิ่มเติมที่ทาง DSI ร้องขอมา ไปมอบให้พนักงานสอบสวนตามนัดครับ ยังมีเอกสารบางส่วน (3รายการ) ที่ยังไม่ได้จากธนาคาร ที่จะนำไปมอบเพิ่มเติมหลักจากธนาคารทำสำเนาส่งให้เรา เส้นเงิน 39 เส้น จะแบ่งเป็น ฝาก 27 ครั้ง 600 ล้าน ถอน 12 ครั้ง 400 ล้าน
"เงินที่เข้าบัญชี ผมจะแบ่งเป็น 1. เงินกู้จากบุคคลต่างๆ 240 ล้าน 2.เงินที่ผมได้จากการขายฝากบ้าน-คอนโด102 ล้าน 3.เงินที่ผมโอนไปมาหมุนเวียน ในบัญชีตัวเอง เพื่อใช้ในการซื้อลอตเตอรี่ 330 ล้าน 4.เงินที่ผมให้เพื่อนและบุคคลภายนอกยืม 20 ล้าน เอกสารทั้งหมดยืนยันว่าผมไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินครับ" นอท ระบุ
นอกจากนี้ นอท ได้โพสต์ข้อความชี้แจงอีกโดยระบุว่า..คำชี้แจง เส้นเงิน 2 เส้นแรก 42 และ 11 ล้าน เดือนกรกฎาคม 2564 ผมต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ผมขายฝากบ้าน คอนโด และรถไปจนหมดแล้ว ผมได้รู้จักนายหน้าเงินกู้หลายคน นายหน้าเงินกู้คนนึง ได้พาผมไปหานายทุนกลุ่มหนึ่ง นายทุนทำท่าว่าจะสนใจลงทุน โดยมีข้อแม้ว่าจะขอดูขั้นตอนต่างๆ ในการทำงานทั้งหมด รวมถึงการขึ้นเงินรางวัล
โดยทางฝั่งนายทุน ได้ส่งนาย อ. มาเป็นตัวแทนในการขึ้นเงินรางวัล ในวันที่ 3-6 สิงหาคม 2564 ผมได้ทำสัญญามอบอำนาจ และมอบสลากถูกรางวัลจำนวน 11,481 ใบ ให้นาย อ. ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้เลขาผมพาไป และผมให้เลขาพานาย อ. ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับซื้อรางวัลของ สนง.สลาก ให้ถูกต้องตามขั้นตอนด้วย
หลังจาก นาย อ. นำสลากขึ้นเงินรางวัลเรียบร้อย นาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลากมา 2 ยอด คือ
1. ยอด 42,381,030 2. ยอด 11,207,690 หลังจากนาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลาก แล้ว นาย อ. ได้นำเช็คทั้งสองใบมาที่ธนาคารกรุงไทย สาขา สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล
นาย อ.ได้เปลี่ยนเช็คจากชื่อของตัวเอง เป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อผม 2 ยอดซึ่งเท่ากันกับที่ สนง. สลากจ่ายให้นาย อ. คือ 1. ยอด 42,381,030 2. ยอด 11,207,690 แต่นาย อ. ไม่สามารถเอาเงินเข้าเช็คให้ผมได้ เพราะบัญชีธนาคารของผมเป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากติดเสาร์-อาทิตย์ นาย อ.จึงจำเป็นต้องเอาเช็คเข้าให้ผมในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ช่วงบ่าย
สุดท้ายกว่า เช็คจะเคลียร์ริ่งให้ผมข้ามวัน ทำให้เงินทั้ง 2 ยอดเข้าบัญชีผมในวันที่ 10 สิงหาคม 2564
หลังจากที่ทดลองระบบแล้วเราไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากนายทุนมองว่าความเสี่ยงมันสูงเกินไป ดีลนี้จึงจบแค่นี้ ผมยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมผมถึงไว้ใจให้ นาย อ. เอาเงินไปขึ้น คำตอบคือ 1. ผมต้องการเงินทุนมากเพราะต้องการซื้อลอตเตอรี่มาขาย เลยจำเป็นต้องยอม 2. เลขาผมอยู่ด้วยตลอดเวลาจนเปลี่ยนเช็คเป็นชื่อผม
สามารถดูผังที่ผมทำในรูปเพื่อความเข้าใจได้ครับ
สำหรับเอกสารที่นายพันธ์ธวัช ได้นำส่งให้กับดีเอสไอนั้น ประกอบด้วย รายการเดินบัญชี สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาขายฝาก และสัญญากู้เงิน รวม 17 รายการ ซึ่งได้ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน แต่ยังเหลืออีก 3 รายการ ที่อยู่ระหว่างรอจากธนาคารและจะส่งมอบเพิ่มเติมให้ภายหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สว.สำรอง’ บุกดีเอสไอ ร้องสอบปมล็อกโหวตฮั้วเลือก สว. หลัง กกต.ตีตกคำร้อง
กลุ่มสว.เพื่อประชาชน นำโดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เพื่อประชาชน พร้อมตัวแทน สว.สำรอง ประมาณ 30 คน ยื่นคำร้องต่ออธิบดีดีเอสไอ
มือถือ 'แตงโม' ถึงไทยแล้ว! ดีเอสไอเร่งตรวจDNA พร้อมเรียกแจงทันที
'หมอธวัชชัย' บินจากอเมริกาถึงไทยแล้ว หลังได้มือถือ 'แตงโม' จากบังแจ็ค ลั่นให้รีบสารภาพเรื่องจะได้จบ ด้าน ดีเอสไอรีบตรวจสอบ ชี้พบDNAใครเรียกตัวสอบทันที
'ดีเอสไอ' ทลายโกดังร้างสมุทรสาคร ขุดบิตคอยน์เถื่อน ลักลอบทำ 3 ปี รัฐสูญ 500 ล้าน
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ร.ต.อ. เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายพีระพล ปูรณะโชติ
กฟภ.ทิ้งบอมบ์! เปิดชื่อหน่วยงานเงียบไม่ให้คำตอบ ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงมหาดไทยเคยชงเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการตัดการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา
ดีเอสไอ ส่งสำนวนเสนออัยการสั่งฟ้อง บอสพอล-สามารถและแม่ ร่วมกันฟอกเงิน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และมีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย ในความผิดฐาน (1) “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่)”
ดีเอสไอ สั่งฟ้อง 'หมอบุญ' กับพวก ฉ้อโกงประชาชน 605 ราย เสียหาย 1.4 หมื่นล้าน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี นพ.บุญ กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชกำหนดก