ฆ่าโหด! 2 หนุ่มไทย ฝีมือแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ

28 เม.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งจาก น.ส.วนัทปรียา ประทุมทอง อายุ 23 ปี ว่า แฟนของตนเองชื่อ นายพัณณ์พิสิฐ สุขดลภัทร์ หรือทีม อายุ 24 ปี หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ ครั้งสุดท้ายที่คุยกันผ่านไลน์เมื่อ 00.13 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2566 โดยนายทีมบอกว่าจะไปบ้านกับเพื่อนคือนายมงคล อิสมัญ หรือกัน อายุ 23 ปี ที่ ซอยกิ่งแก้ว 39 โดยไม่ไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไร ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่พูดคุยกัน หลังจากนั้นก็ทั้งแชตทั้งโทรก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย พอช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. จึงเดินทางไปที่บ้านซอยกิ่งแก้ว 39 ก็พบว่าบ้านอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่เจอใคร จากนั้นให้น้องตนไปแจ้งความคนหายที่ สภ บางแก้ว แล้วตนกลับมาบ้านที่กิ่งแก้วอีกครั้ง ก็พบว่าที่ห้องนอนใหญ่มีถุงขยะสีดำวางอยู่ พอรื้อดูพบว่ามีเสื้อหลายตัวเปื้อนเลือด มีรองเท้า มีกระเป๋า ของนายกัน และเคสโทรศัพท์ของนายทีมอยู่ในถุงดำด้วย ประกอบกับที่คนข้างบ้านอัดคลิปไว้มีเสียงชายร้องโวยวายขอความช่วยเหลือเวลา 00.16 น. จึงมั่นใจแฟนของตนอาจจะได้รับอันตราย

น.ส.วนัทปรียา เล่าว่า ชนวนเหตุที่นายกันและนายทีม ถูกทำร้าย อาจเป็นเพราะเรื่องชู้สาวที่นายกันไปคบกับเมียของหัวหน้าแก๊งชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจนำแรงงานต่างชาติมาทำงานที่ประเทศไทยและส่งไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย หรืออาจเป็นเรื่องเงินที่นายกันไปเปิดบัญชีให้กับแก๊งของชาวเมียนมาที่ทำธุรกิจค้ามนุษย์แล้วบัญชีนั้นมีเงินอยู่แสนกว่าบาทเกิดถูกอายัด จึงอาจจะทำแก๊งนี้ไม่พอใจเพราะคิดว่าจะถูกโกง และนายสมชาย ชาวเมียนมา ลูกน้องในแก๊งโทรมาด่าและท้าทายแฟนของตนบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงอะไร ทั้งนี้ นายทีม แฟนของตน ทำงานกับแก๊งนี้มาได้ 3-4 เดือน โดยมีหน้าที่คอยดูแลแรงงานต่างชาติที่ขนมาจะนำมาพักไว้ที่บ้านย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ คอยหาข้าวหาน้ำให้กินจะได้ค่าตอบแทนหัวละ 300 บาท

ทางด้าน พ.ต.อ มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนได้ออกติดตามเหตุบุคคลสูญหายหลังได้รับแจ้งจากญาติแจ้งว่า นายมงคล หรือกัน อิสมัญ อายุ 23 ปี และ นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม สุขดลภัทร์ อายุ 24 ปี เพื่อนพี่ชายได้หายออกจากบ้านเลขที่ 85/22 หมู่บ้านเอสพี ทาวน์ ซอยกิ่งแก้ว 39 ม.14 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวพบร่องรอยคราบเลือดบริเวณกำแพงและมีคราบเลือดบริเวณเสื้อผ้า (ซึ่งใส่ถุงดำไว้) สอบถามเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงแจ้งว่าก่อนหน้านี้ช่วงเวลากลางคืน ได้ยินเสียงคนร้องขอชีวิต และตรวจสอบบริเวณภายในบ้านพบกล้องวงจรปิดได้ถูกทำลายเสียหาย ตัดสายไฟออกเบื้องต้นผู้แจ้งคาดว่าจะเกิดอันตรายกับนายมงคล และนายพัณณ์พิสิฐ จึงเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว

ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2566 ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้สอบถาม น.ส.วนัทปรียา หรือนุ๊ก ประทุมทอง (แฟนของนายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ) ให้การว่า บ้านเลขที่ดังกล่าว มี 1.นายมงคล หรือกัน อิสมัญ (คนหาย) 2.นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม สุขดลภัทร์ (คนหาย) 3.นายสมชาย (พม่า) (ผู้ต้องสงสัย) 4.น.ส.อาบี (พม่า) แฟนนายสมชาย 5.น.ส.วนัทปรียา หรือนุ๊ก ประทุมทอง (แฟนของนายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ) และ 6.น.ส.นวลจันทร์ (พม่า) เป็นแฟนของนายหน้า (ชาวมาเลเซีย) พักอาศัยอยู่ด้วยกัน ต่อมา นายมงคล หรือกัน และ นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม มีปัญหาขัดแย้งกันกับ นายสมชาย (พม่า) มาสักระยะนึงแล้ว จึงทำให้น.ส.นวลจันทร์ (พม่า) และน.ส.วนัทปรียา หรือนุ๊ก ต้องไปหาเช่าบ้านหลังใหม่อยู่ที่หมู่บ้านพิศาล 2 เขตลาดกระบังฯ

ส่วนนายมงคล หรือกัน และ นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ก็ไปๆ มาๆ โดยไปพักที่ลาดกระบังบ้าง พักที่กิ่งแก้ว 39 บ้าง และเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ก่อนเกิดเหตุนายมงคล หรือกัน และ นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ทะเลาะกันกับนายสมชาย ซึ่งด่าทอกันผ่านโทรศัพท์มือถือ และเวลาประมาณ 23.50 น. นายมงคล หรือกัน และ นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ได้นั่งรถแท็กซี่ออกจากบ้านพักที่หมู่บ้านพิศาล 2 เขตลาดกระบังฯ แจ้งว่าจะไปที่บ้านพัก ที่หมู่บ้านเอสพี ทาวน์ ซอยกิ่งแก้ว 39 และเวลาประมาณ 00.13 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2566 นายพัณณ์พิสิฐ หรือทีม ก็ยังสนทนากับ น.ส.วนัทปรียา หรือนุ๊ก ผ่านแอปพลิเคชั่น Messenger ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกัน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว

และจากการลงพื้นที่สอบสวน จนทราบว่าคนร้ายชายชาวเมียนมาจำนวน 8 คน รุมทำร้ายนายทีมและนายกันจนเสียชีวิต ก่อนนำขึ้นรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง ขับนำศพมาทิ้งไว้ที่พงหญ้าริมถนนทางเข้าหมู่บ้านสวนงาม ถนนสาย 340 บางบัวทอง สุพรรณบุรี ตำบลราษฏร์นิยม อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จากการตรวจสอบสภาพศพนายทีม พบว่าศพเริ่มเน่าเปื่อยเหลือแต่กะโหลก และมีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่หน้าอกจำนวน 3 แผล และถูกของแข็งตีที่ศีรษะจนกะโหลกแตก ศพถูกมัดมือมัดเท้าห่อด้วยผ้านวมแล้วมัดซ้ำอีกที ส่วนศพนายกันถูกถุงดำคุมที่ศีรษะสภาพศพเน่าเปื่อยพบว่ามีบาดแผลถูกแทงที่หลังจำนวนหลายแผล จึงประสานเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่แพทย์เวรร่วมชันสูตรก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง

ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายทั้ง 8 คน เป็นแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีนายเอล ชาวมาเลเซีย เป็นหัวหน้าแก๊งนายหน้าค้าแรงงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย คอยสั่งการให้ น.ส นวลจันท์ แฟนนายเอล ควบคุมสั่งการอยู่ที่ประเทศไทยและมีลูกน้องชาวเมียนมาคอยทำงานให้อยู่ในประเทศไทย หลังก่อเหตุคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว อย่างไรก็ตามจะได้ติดตามตัวตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โจ๊ก' ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ปูดแผนผังแก๊ง 4x100 สยบปีกพระพรหม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.ตร.) กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ร

'สมช.' แจงไทยมี 3 จุดยืนในสถานการณ์เมียนมา

'สมช.' เข้าแจง 'กมธ.มั่นคงฯ' เพื่อรายงานการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในเมียนมา ย้ำ 3 จุดยืน รักษาอธิปไตยไทย-ไม่ยินยอมให้ใช้ดินแดน-ดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยธรรมสากล

'บิ๊กต่าย' เซ็นแบ่งงานรองผบ.ตร. 'ธนา-สราวุฒิ' แทน 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กรอย'

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'ทบ.' เปิดแผนรับมือ สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา

รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เปิดเผยแนวทางการปฏิบัติในการรองรับสถานการณ์ความไม่สงบด้านเมียนมา กรณีการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย