'บิ๊กโจ๊ก' ยกงานวิจัยมะกัน 'แอม ไซยาไนด์' เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง!

'บิ๊กโจ๊ก' ยันคดี 'แอม ไซยาไนด์' สมบูรณ์ศุกร์ที่ 2 พ.ค.นี้ รอเพียงเรื่องเส้นทางการเงิน ผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์เผยพฤติการณ์เข้าข่ายฆาตรกรต่อเนื่องตามงานวิจัยของแดนมะกัน

10 พ.ค.2566 - ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีแอม ไซยาไนด์ว่า ขณะนี้พยานหลักฐานในคดีนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลใจแล้ว เพราะตำรวจสามารถรวบรวมได้มากถึง 80%แล้ว เหลือเพียงรวบรวมเส้นทางการเงิน ข้อมูลรายละเอียดในบัญชีธนาคารต่างๆ และผลตรวจจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนจะเอาข้อมูลทั้งหมดมาผนวกในรายงาน เบื้องต้นคาดว่าในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.นี้จะครบ 100%ในส่วนของการสืบสวน ส่วนประเด็นจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ หากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะดำเนินคดีแน่นอน แต่จะเป็นคนใกล้ชิดแอมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานอยู่ แต่เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามถึงเงินในบัญชีของแอมที่พบว่ามีเงินสูงถึง 78 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า ตอนนี้ทราบข้อมูลรายละเอียดของเงินเข้าแล้วในช่วงปี 2563-2565 แต่ในส่วนของเงินออกไปอยู่ที่ไหนหรือใคร อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งขอเวลา 2 วันถึงจะได้ข้อมูลครบในทุกประเด็น ทั้งเส้นทางการเงินและข้อมูลในบัญชี ส่วนในขณะนี้จากการตรวจสอบยอดเงินทั้งหมดพบว่าเงินออกจากบัญชีไปทั้งหมดแล้ว แต่จะเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันออนไลน์หรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนของรองอ๊อฟ อดีตสามี จะรู้เรื่องเงินในส่วนนี้หรือไม่นั้น จากการสอบถามเจ้าตัวยอมรับว่า รู้เรื่องเงินตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร และรู้เรื่องเงินที่แอมเอามาใช้หนี้ให้ตัวเองจำนวน 4 ล้านบาทด้วย ส่วนจะมีความเชื่อมโยงว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นการตายของใคนหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวน รวมถึงการซื้อประกันก็ต้องตรวจสอบก่อน

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ใบมรณะบัตรไม่ระบุว่ามีบุคคลทำให้ตาย จะเป็นข้อต่อสู้ของผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ในบางศพไม่ได้มีการส่งศพตรวจที่นิติเวช แต่การออกใบมรณะบัตร เจ้าหน้าที่ปกครองเป็นฝ่ายดำเนินการ แต่ศาลจะรับฟังในส่วนของแพทย์นิติเวชที่มีการชันสูตร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่ตำรวจได้สอบปากคำว่าหลักฐานอื่นที่ปรากฎที่ศพจะเชื่อมโยงไปถึงการฆาตกรรมหรือไม่ รวมไปถึงเทียบเคียงผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาด้วยที่ระบุว่าฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นเพศหญิง มักจะฆ่าคนใกล้ชิด และสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งแอมถือว่าเข้าข่ายเป็นฆาตกรต่อเนื่องตามงานวิจัย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนการไล่ไทม์ไลน์การก่อคดี พบว่าทราย หรือ นางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ เป็นเคสแรกตั้งแต่ปี 2558 จากนั้นมาปี 2563 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1-2 ศพ ต่อมาปี 2564 ผู้เสียชีวิตทยอยเพิ่มมากขึ้นถึง 11 ศพ และในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ก่อนถูกทางตำรวจจับได้ โดยช่วงเวลา 2564-2566 แอมน่าจะมีไซยาไนด์อยู่ในมือ ทำให้ปริมาณศพเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับช่วงที่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก

“ประเด็นสารต้านพิษ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งมา แต่จากร่องรอยและข้อมูลพอจะแกะรอยการสั่งซื้อซื้อได้บ้างแล้ว แต่อยู่ระหว่างว่าสั่งโดยใคร และในวันนี้ตำรวจได้นัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1 คน นั่นคือ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญมาให้ข้อมูลรายละเอียดในสำนวน เพื่อให้แน่นหนาขึ้น โดยจะเป็นการดูภาพรวมของผู้เสียชีวิตทุกศพ โดยจะมีตำรวจกองปราบปราม และที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้ามาประชุมด้วย” รอง ผบ.ตร.กล่าว

ขณะเดียวกันวันนี้ นางสาวใหม่ (นามสมมติ) เพื่อนสมัยเรียนแอมเข้าพบพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี ได้ยื่นหลักฐานในกรณีที่แด้ อดีตสามีของแอมเสียชีวิตในจังหวัดนนทบุรี โดยระบุว่า เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต โดยในช่วงเดือนมกราคม 2566 ได้เคยหารือกับ น.ส.แอม ภรรยานายแด้ในขณะนั้น เกี่ยวกับการทำกรรมธรรม์ประกันชีวิตให้กับนายแด้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง และต้องการทำประกันสุขภาพกับประกันชีวิตรวมเป็นฉบับเดียวกัน โดยเลือกกรรมธรรม์ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันในวงเงินสูง รวมปีละกว่า 100,000 บาท ซึ่งแอมให้เหตุผลว่าเมื่อเสียชีวิตจะทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับทายาทที่แอมอ้างว่าเป็นบุตรสาวบุญธรรม เป็นเงินประมาณ 7 ล้านบาท และยืนยันว่าไม่มีปัญหาในการส่งเบี้ยรายปี

อย่างไรก็ตาม ภายหลังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำประกันจากนางแอม จึงพยายามติดต่อนายแด้เพื่อพูดคุยเรื่องการทำประกันชีวิต แต่แอมห้ามไม่ให้คุยกับแด้ โดยอ้างว่าทะเลาะกันเรื่องเงิน ก่อนทราบจากข่าวในภายหลังว่านายแด้เสียชีวิตแล้ว และทราบว่านางแอมได้เป็นผู้ก่อเหตุวางยาฆาตกรรมบุคคลใกล้ชิดจนมีผู้เสียชีวิตหลายราย ส่วนการทำประกันนั้น ถือว่าไม่สำเร็จ เป็นโมฆะแต่แรกแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โจ๊ก' ชงดาบสองร้อง ป.ป.ช.เทกระจาดสอบตำรวจกว่า 200 นาย

'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 'รองธนา' หัวหน้าพนักงานสอบสวนพร้อมคณะสอบสวนโดยมิชอบ ยันการสอบสวนเป็นโมฆะ แนะทางรอดให้การใครสั่ง เผยนายกฯ ถูกหลอกเซ็นให้กลับ ตร.เข้าใจเป็นการส่งกลับไปทำงาน