เอาจริง! จับตาเข้มซื้อ-ขาย 'สินทรัพย์ดิจิทัล-แลกเงินชายแดน' ใช้ 'ฟอกเงิน-ผ่องถ่ายทรัพย์สิน'

5 หน่วยงานรัฐจับมือวางมาตรการสกัดมิจฉาชีพใช้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดนเป็นช่องทางการฟอกเงินและผ่องถ่ายทรัพย์สินการทำผิดออกไปต่างประเทศ

26 ก.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทั้งด้านป้องกันและปราบปรามมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านระบบออนไลน์ ตลอดจนสกัดเส้นทางการเงินทุกทางอย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดกับประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ในฐานะหน่วยงานกลางเพื่อขับเคลื่อนในประเด็นนี้ ได้รายงานถึงผลการดำเนินงานรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย ตช., กรมสรรพกร กระทรวงการคลัง (กค.), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าได้มีการหารือและเห็นตรงกันว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพใช้ช่องทางการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างกันโดยตรง (Peer-to-Peer) ภายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่การประกอบธุรกิจและเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามแนวชายแดน ก็เป็นช่องทางในการโอนเงินที่ได้จากการกระทำผิดออกไปยังต่างประเทศ และยังใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงินของผู้กระทำผิดกฎหมายด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตช.ได้รายงานว่าขณะนี้ทั้ง 5 หน่วยงานได้ประสานการทำงาน กำหนดมาตรการเพื่อให้เกิดการบูรณาการ สกัดการใช้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราตามแนวชายแดน เป็นแหล่งฟอกเงินและผ่องถ่ายเงินจากการหลอกลวงคนไทยออกไปต่างประเทศ โดยแบ่งจัดการติดตามตรวจสอบตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ดังนี้

ตช. ได้จัดทำฐานข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างกันโดยตรง (Peer-to-Peer) ภายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตและผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามแนวชายแดน มีการขยายผลการกระทำผิดในทุกคดี โดยหากพบผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Peer-to-Peer และผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามแนวชายแดน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดทุกกรณี และหากพบว่าเป็นความผิดมูลฐานให้ส่งเรื่องแจ้งให้สำนักงาน ปปง. พิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทันที

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยตามที่ ตช. ส่งข้อมูลให้เพื่อดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและความเชื่อมโยงของบัญชีธนาคารและสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อระงับ ยึด หรืออายัด และให้แจ้งผลให้ ตช. ดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงพิจารณาปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นช่องทางดังกล่าวในการฟอกเงิน

ทางด้านกรมสรรพากร ดำเนินการตรวจสอบการเสียภาษีของผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Peer-to-Peer ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต และผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามแนวชายแดน ตามที่ ตช. ได้จัดทำฐานข้อมูลและส่งให้ตรวจสอบ หากพบว่ามีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ธปท. ดำเนินการประกาศพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังการทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังต่างประเทศจากพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง หากพบธุรกรรมต้องสงสัยจะมีการระงับการทำธุรกรรมและแจ้งการทำธุรกรรมต้องสงสัยให้ ตช. ทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ส่วนของสำนักงาน ก.ล.ต. ติดตามตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หากพบการทำผิดมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด พิจารณาปรับแก้ไขร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. .... เพื่อให้สามารถควบคุมและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ Peer-to-Peer ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตดำเนินการออกประกาศ ข้อบังคับ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจในไทยให้มีมาตรฐานการปฏิบัติเช่นเดียวกับธนาคาร จัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการ ความเคลื่อนไหวการทำธุรกรรม ซึ่งหากพบบัญชี หรือการทำธุรกรรมที่ต้องสงสัยเกี่ยวกับการฟอกเงินหรือธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด และให้แจ้งผลการปฏิบัติให้ ตช. ทราบ เพื่อบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนภัยแรงงาน! อย่างหลงเชื่อ รร.สอนภาษาส่งคนไทยไปทำงานแดนกิมจิ

รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อโรงเรียนสอนภาษา อ้างส่งคนไทยทำงานเกษตรตามฤดูกาลเกาหลีใต้ด้วยวีซ่า E-8 ย้ำกรมการจัดหางานเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งเท่านั้น ชี้ที่ผ่านมาแรงงานถูกหลอกเสียหายมูลค่ากว่า 26 ล้านบาท

'อนุทิน' ปราศรัยวันแรงงานแห่งชาติในนามรัฐบาล!

อนุทินปราศรัยเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2567 ส่งความปรารถนาดีมายังผู้ใช้แรงงานและครอบครัว ขอบคุณผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังหลักสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศ

รัฐบาลฟุ้งเดินหน้าศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

รัฐบาลมุ่งยกระดับการดำเนินงานในด้านการรักษาความปลอดภัยและนโยบายเกี่ยวกับด้านการบิน เดินหน้าประเทศสู่เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

'อัยการคดีพิเศษ' จ่อยื่นศาลสั่งริบทรัพย์ STARK อีก 3 พันล้านบาท

'วิรุฬห์' อธ.อัยการคดีพิเศษ เตรียมยื่นศาลขอริบทรัพย์อดีตผู้บริหาร STARK อีก 3 พันล้านบาท เยียวยาผู้เสียหาย 'อัยการ-ศาล-ปปง.' จับมือเชื่อมโยงข้อมูลคดีฟอกเงิน เพิ่มประสิทธิภาพทำงาน

สายหื่นระวัง 4 ภัยมิจฉาชีพหลอกให้ตกเป็นเหยื่อ

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบัน