ตำรวจสน.ประชาชื่น ซิวแก๊ง ‘เอ หมาบ้า’ ร่วมกันปล้นทรัพย์นักศึกษา

4 ก.ย.2566- ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.วิทวัส แสงเพิ่ม รองผกก.สส.สน.ประชาชื่น ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประจบ ศรีแสง สว.สส.สน.ประชาชื่น พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมจับกุมนายบวรพล หรือ เอ อายุ 18 ปี จับกุมได้ที่คอนโด แห่งหนึ่ง ซอยนามบัญญัติ แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2566 เวลา 15.55 น.ที่ผ่านมา นายเอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี และนายบี นามสมมุติ อายุ 16 ปี จับกุมได้ที่ห้องสืบสวน สน.ประชาชื่น แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2566 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากวันที่ 28 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด บริเวณหน้า ปั๊มแก๊ส กรุงเทพ-นนท์ ใกล้ ซอย กรุงเทพ-นนท์37 บริเวณทางออกด้านหลังบิ๊กซี วงศ์สว่าง ถ.กรุงเทพ-นนท์ แขวง วงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บนอนอยู่บนถนน ได้รับบาดเจ็บบนบริเวณ แขน และ ขาทั้ง 2 ข้าง บริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนผู้เสียหายทราบว่า มีผู้ต้องหา 3 คน ขี่รถ จยย.ซ้อนท้าย มาบริเวณ ปากซอย ประชาราษฎร์ 38 ได้เกิดมีปากเสียงกัน และได้มีการท้าทายกันมาตลอดทางจนมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ คู่กรณีได้ลงมือทำร้ายผู้บาดเจ็บด้วยอาวุธมีด และได้หลบหนีไปทาง สะพานพระราม 7 ถ.วงศ์สว่าง ขาออก โดยผู้บาดเจ็บแจ้งว่าผู้ก่อเหตุได้โทรมาเยาะเย้ย หลังก่อเหตุสำเร็จ โดยผู้ก่อเหตุใช้เฟซบุ๊กบัญชีชื่อว่า “ เอ หมาบ้า” โทรเข้ามาหา เพื่อนผู้บาดเจ็บเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพระราม 7

ต่อมาวันที่ 29 ส.ค. ประมาณ 13.40 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่น รับแจ้งเหตุปล้นทรัพย์ บริเวณทางเดินเข้าสวนสาธารณะ ใต้สะพานพระราม 7 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพ ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คนเดินอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะกลับที่พักได้มีรถจยย.ทะเบียน 5 ขผ 3450 กรุงเทพมหานคร ขับตามและมาดักหน้า โดยคนร้ายคนที่ 1 ผู้ขับขี่สวมเสื้อฮูดสีฟ้าสวมหน้ากากสีดำ ได้นั่งรออยู่ที่รถจยย.พร้อมติดเครื่องคนร้ายคนที่ 2 คนซ้อนกลางใส่เสื้อลายสก๊อตสีแดงถือวัตถุคลายปืนเดินลงมาจากรถและคนร้ายคนที่ 3 คนซ้อนท้ายใส่ผ้าปิดหน้าสีเขียวสวมเสื้อสีน้ำเงินเทาแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาวรองเท้าสีดำถืออาวุธมีดอยู่ในเมือข้างขวาและวัตถุคล้ายก้อนหินในมือข้างซ้าย เดินลงมาหากลุ่มตนและพูดจาข่มขู่ให้กลุ่มตนส่งทรัพย์สินให้จากนั้นได้หลบหนี ต่อมาเวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์หน้าปั้มแก๊ส PTแขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม ขณะที่ผู้เสียหายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งหน้าสะพานพระราม 7 เพื่อที่จะไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพระราม 7  เมื่อมาถึงใกล้สถานีบริการแก๊ส PT ได้มีชาย 2 คน ขับขี่รถ จยย. สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาประกบรถของผู้เสียหายโดยคนซ้อนลงมาจากรถใช้อาวุธคล้ายปืนลูกโม่ สีเงิน ข่มขู่ให้ผู้เสียหายถอดเสื้อช็อปกับรองเท้า คนขับได้พูดข่มขู่ผู้เสียหายแต่ไม่ได้ลงจากรถ เมื่อได้ทรัพย์สินแล้ว คนร้ายทั้ง 2 คนก็หลบหนีมุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 7

จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คดี เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดและฐานข้อมูลในระบบเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเก็บรวบรวมไว้ในพื้นที่สน.ประชาชื่น จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุทั้งหมด 4 ราย คือนาย บวรพล หรือ เอ อายุ 18 ปี ก่อเหตุทั้ง 3 คดี นายเอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี ก่อเหตุทั้ง 3 คดี นายบี นามสมมุติ อายุ 16 ปี ก่อเหตุ ร่วมกับปล้นทรัพย์ และผู้ต้องหาอีก 1 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายร่างกาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับคดีดังกล่าว และจับกุมได้ทั้งหมด 3 ราย ต่อมาได้ทำการตรวจค้นบ้านแห่งหนึ่ง จุดที่กลุ่มผู้ต้องหารวมตัว ภายในซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 38 (ซอยสีน้ำเงิน) แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.พร้อมของกลาง เสื้อช็อป สีแดงเลือดหมู (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร)ปักชื่อภาษาอังกฤษ ของผู้เสียหาย รองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์สสีดำ รองเท้าผ้าใบยี่ห้อ โอนิสซีกะ สีขาว รองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์สสีขาว ไอแพดรุ่นเจน 9 สีดำ กระเป๋าเป้สีดำ มีดปลายโค้งความยาวรวมด้ามประมาณ 7 นิ้ว มีดดายหญ้ายาวรวมด้ามประมาณ 30 นิ้ว เสื้อแขนยาวลาย สก๊อตสีแดง ใบขับขี่และบัตรนักศึกษาผู้เสียหาย 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานาย บวรพล หรือเอ และนายเอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ”, “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้อาวุธยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมร่วมกันไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ”, “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม” และแจ้งข้อหานายบี อายุ 16 ปี “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้อาวุธยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมร่วมกันไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 สมาคมใหญ่ตำรวจ นัด 16 พ.ค. แถลงปฎิรูป ตร. กู้วิกฤติศรัทธาสีกากี

สมาคมตำรวจ พร้อมด้วยสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และชมรมพนักงานสอบสวน จะแถลงข่าวการปฏิรูปตำรวจ ในวันที่ 16 พ.ค.2567 เวลา 11.00 น.ห้องสารสิน ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.

สืบนครบาล แนะแนวทางเมื่อเราได้รับหมายเรียกควรทำอย่างไร ก่อนโดนหลอก

หากท่านตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหมายเรียกจริง แต่ไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามวันและเวลาที่กำหนด กรณีเป็นหมายเรียกพยานอาจมีความผิดที่ไม่มาตามหมายเรียก

ตร.สนธิกำลังฝ่ายปกครอง จับยาเสพติดรายใหญ่ ยึดไอซ์ได้ 1 ตัน

แถลงข่าวการจับกุมยาไอซ์ 1 ตัน พร้อมผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการ ข้าง รร.จปร. หมู่ที่ 1 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างฝ่ายปกครอง และฝ่ายตำรวจ

สาวปั๊มใจเด็ดขับรถไล่ล่า หนุ่มเบี้ยวค่าน้ำมัน 500 ซิ่งหนี 3 จังหวัด

ศูนย์รับแจ้งเหตุ191 จังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.กันตนา พึ่งโพทอง แคชเชียร์ของปั๊มแห่งหนึ่ง ในพื้นที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ว่

ไฟไหม้โรงงานยางพาราขนาดใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จนท.เร่งควบคุมเพลิง

6 พ.ค.2567-เกิดเหตุในโรงงานยางพารายูนิรับเบอร์ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ไฟไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อปท.ในพื้นที่ ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงรวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าพยายามให้การช่วยเหลือเข้าดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ขณะที่ พ.ต.อ.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน ผกก.สภ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช นำกำลัง ตำรวจเข้าตรวจสอบและอำนวยการในการบรรเทาคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารอบยางพาราด้วยความร้อนมีอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง มีรายงานว่า มียางพาราอยู่ภายในหลายสิบตัน ห้องแรกถูกเพลิงไม้อย่างรุนแรงและกำลังลุกลามไปยังห้องถัดไป ซึ่งต้องระดมรถดับเพลิงจากใกล้เคียงเข้าเสริมเนื่องจากรถไม่เพียงและน้ำไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ต้องประสานกับแหล่งน้ำจากบริษัทผาทอง อยู่ใกล้เคียงเป็นแหล่งน้ำเติมสำหรับการดับเพลิงครั้งนี้