ผบ.ตร. ชี้ 'บิ๊กโจ๊ก' ยังมีอำนาจดูแลคดีกำนันนก สื่อตีความผิดปมโอนคดีให้กองปราบ

ผบ.ตร. ยืนยัน "บิ๊กโจ๊ก" ยังมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลทุกอย่าง คดียิงสารวัตรแบงก์ในงานเลี้ยงกำนันนก ติงสื่อตีความผิดคลาดเคลื่อนปมโอนสำนวนคดีจากภูธรภาค 7 ให้กองปราบเอาผิด ม.157 ตำรวจละเว้นปฏิบัติหน้าที่ บอกพูดคุยกันแล้ว ไม่ได้ลิดรอนอำนาจ ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก ยังมีงานอื่นต้องรับผิดชอบอีกมาก

19 ก.ย.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการโอนคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนกไปให้กองบังคับการปราบปรามรับผิดชอบดูแล

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ตร.ไม่พอใจการดำเนินงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จึงสั่งโอนคดีหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่ตามที่กระแสสังคมระบุ เป็นการตีความที่คลาดเคลื่อน ในคดีที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นเจ้าของสำนวนได้เสนอเรื่องมาว่าหลักฐานส่วนใหญ่ในคดีการเสียชีวิตอยู่ที่กองปราบฯเรียบร้อยแล้ว ตนจึงทำการอนุมัติคดีให้กองปราบฯรับผิดชอบเพียงเท่านั้น ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ยังมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลทุกอย่าง และตนไม่ได้ถือว่าเป็นการลิดรอนอำนาจ ตนยืนยันว่าเป็นการตีความผิดไปเอง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า คดีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต. ศิวกร เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ตนเล็งเห็นว่าหากทางภาค 7 ดำเนินการต่อ เจ้าหน้าที่อาจจะหนักใจ อาจจะมีข้อมูลรั่วไหล หรืออาจจะมีตำรวจในพื้นที่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้ต้องหา ส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่จำเป็นที่จะต้องโอนให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการภายใน 30 วันอยู่แล้ว การที่โอนคดีมาที่กองปราบฯจึงไม่ได้แตกต่างอะไรเป็นพิเศษ

เมื่อถามว่าได้พูดคุยส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถึงเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พูดคุยกันแล้ว ไม่รู้ว่าสื่้อจะตีความไปทางใด ส่วนตัวไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตนยังมีงานอื่นที่ต้องรับผิดชอบอีกมาก และขอยืนยันว่าตนไม่ได้ลิดรอนอำนาจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด

ถามต่อว่า รู้สึกน้อยใจหรือไม่ที่ถูกมองว่าลิดรอนอำนาจหน้าที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสื่อมีมาก หลายช่องทาง ตนต้องหนักแน่น ต้องเดินหน้าทำงานอื่นต่อไป ในภาพรวมยังมีภารกิจต่างๆที่สำคัญรออยู่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เผย ก.ตร. มีมติส่งคำร้อง 'บิ๊กโจ๊ก' ให้ฝ่ายวินัยพิจารณาอีกรอบ ปมสั่งช่วยราชการ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2567 ว่า วันนี้วาระสำคัญของการประชุมนอกจากแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ยังมีเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด ทั้งที่มีต่อตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร.

คกก.สอบ 2 บิ๊กตำรวจ ยอมรับเชิญ 'บิ๊กต่อ' ให้ถ้อยคำแล้ว นัดแถลงทุกประเด็นสัปดาห์หน้า

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' แจงตั้ง 'สราวุฒิ' ใกล้เกษียณสอบวินัย 'โจ๊ก' หากไม่ทันเตรียมใช้แผนสอง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการประชุมข้าราชการตำรวจช่วงบ่ายวันนี้ ว่า จะมีการนำประเด็นเรื่องร้องเรียนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

ชุดสอบ 'โจ๊ก' กับพวกผิดวินัยร้ายแรง-ออกจากราชการไว้ก่อน ยืนยันไม่มีใครชี้นำได้

พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 5 คน ทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกออกจากราชการไว้ก่อน