“วิทยา” ขยับยื่นกมธ.ยุติธรรมฯ หามาตรการป้องกันและแก้ปัญหาระยะยาวหยุดนักโทษหลบหนี ยกกรณี “แป้ง นาโหนด”เป็นกรณีศึกษา พร้อมหาข้อเท็จจริงช่องโหว่อยู่ตรงไหนจะได้อุดรูรั่ว
10 พ.ย.2566 - ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะเสนอญัตติต่อ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ศึกษากรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งเป็นนักโทษชื่อดัง ต้องคดีร้ายแรงหลายคดี หลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 และยังไม่สามารถติดตามตัวกลับมาได้ เพื่อให้หามาตรการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นสิ่งสะเทือนขวัญของประชาชน
นายวิทยา กล่าวว่า การหลบหนีครั้งนี้ถือเป็นความไม่ปกติ มีช่องว่างในการควบคุมตัวระหว่างการรักษาพยาบาลในวันที่ 20 พ.ย. ดังนั้นคณะกรรมาธิการฯ จะเดินทางไปประชุมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยนัดประชุมที่ศาลากลางจังหวัด เชิญผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช สาธารณสุขจังหวัด ผอ.โรงพยาบาลมหาราช มาหารือว่า การหลบหนีครั้งนี้เกิดช่องว่างตรงไหน หรือเกิดจากกระบวนการเตรียมการช่วยเหลือผู้ต้องหา
“ถ้าเกิดจากช่องว่างของทางราชการ จะเสนอมาตรการต่อสภาฯ เพื่อเป็นแนวทางให้กรมราชทัณฑ์ปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาต่อไป ข้อเท็จจริงต้องแยกแยะ การควบคุมตัวในโรงพยาบาลแล้วนักโทษหลบหนี กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เนื่องจากโรงพยาบาลมีหน้าที่รักษาผู้ป่วย เขาไม่ได้แยกแยะว่าเป็นใคร เมื่อเป็นผู้ป่วยส่งมาก็ต้องดูแลรักษา แต่หน้าที่ในการควบคุมต้องเป็นฝ่ายราชทัณฑ์เป็นหลัก กระบวนการศึกษาเหล่านี้ ในวันที่ 20 พ.ย.หลังจากมีการประชุมแล้วจะได้ข้อสรุป เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นอีก จากนั้นจะเสนอให้สภาฯพิจารณาต่อไป”นายวิทยากล่าว
นายวิทยา กล่าวถึงการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ติดตามเสี่ยแป้ง นาโหนดจำนวนมากว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วโดยกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจฝ่ายปกครองหลายร้อยคนในการติดตามผู้ต้องหา ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น อีกทั้งเป็นเรื่องเขย่าขวัญประชาชนโดยทั่วไป คนมีอิทธิพลสามารถหลบหนีการควบคุมได้ แต่ก็ต้องติดตามตัวกลับมาให้ได้
อย่างไรก็ตาม การหลบหนีการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ มีมาเป็นระยะ แต่ครั้งนี้สะเทือนความรู้สึกประชาชน จึงต้องหามาตรการป้องกัน ดูว่ารูรั่วไหลอยู่ตรงไหน ไม่เช่นนั้น จะเป็นช่องโหว่ให้คนที่มีอิทธิพล อาศัยช่องทางหลบหนีอีก ส่วนการแก้ไขปัญหาโดยการย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ ก็ต้องมาดูว่าช่องโหว่ใครมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ ถ้ามีส่วนร่วมแล้วย้ายออกก็ไม่ควรจบอยู่แค่การย้ายพ้นพื้นที่ ถ้าเป็นความบกพร่องในระบบ ก็ต้องหามาตรการ แต่เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่า ปัญหาเกิดจากอะไรจึงต้องศึกษาและหามาตรการป้องกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ
ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.
นักสิทธิมนุษยชนหายไปไหน! กัมพูชายกเลิกเปิดด่านคลองลึก ไม่ให้คนไทยกลับบ้าน
จากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ให้พิจารณาระงับการเดินทางข้ามพรมแดนทั้งหมดของประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย
ดีเอสไอ เรียกสอบปากคำ ทนายดังเมืองปากน้ำ ตัวกลางประสานคดีผู้ต้องหาชาวจีนเพียบ
"ดีเอสไอ" สอบปากคำมากกว่า 20 พยานคดีคุกวีไอพี พบข้อมูลเด็ด "ทนายชื่อดัง" เมืองปากน้ำ เอี่ยวทะเบียนเยี่ยมญาติผู้ต้องขังชาวจีนเพียบ ! ลักษณะคล้ายตัวกลางประสานงานเรื่องคดีความ และพบเส้นเงินรับโอนกันระหว่างทนายดัง-ผู้ต้องขังจีน และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เเย้ม เร็ว ๆ นี้เตรียมสรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. ไต่สวนความผิดเจ้าหน้าที่รัฐ
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล

