7 ธ.ค.2566 - สำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการจับกุมนายประสิทธิ์ ชินประเสริฐ อดีตกรรมการบริษัท เทวา เอสเตท จำกัด วัตถุประสงค์ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง กิจการโรงแรมฯ ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมยูเซนมายา ต่ออำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่ 20/2566 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162, (1), (2), (3),(4) ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 91 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91 ในคดีกล่าวหานายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้แก่บริษัท เทวาเอสเตท จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายช่างเขตละเว้นไม่ดำเนินการตามหน้าที่เพื่อสั่งให้รื้อถอน จนมีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดทำการโรงแรมแล้ว
สืบเนื่องจากสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ประสานกับกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในการเฝ้าระวังบุคคลตามหมายจับของสำนักงาน ป.ป.ช. จนสืบทราบว่าผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งหลบหนีหมายจับกำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปยังประเทศสิงคโปร์ ผ่านช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 7 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณดังกล่าว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จนกระทั่งพบตัวผู้ถูกกล่าวหา จึงได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แสดงหมายจับ แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้ควบคุมตัวไปทำบันทึกการจับกุม และดำเนินการตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายพ.ศ. 2565 จากนั้น ได้นำส่งตัวให้กับผู้ว่าคดี สำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช.
เพื่อดำเนินการฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อื้อฮือ! ถูกซื้อตัว 100 ล้านยังไม่เอา ‘2 สส.’ โต้ ป.ป.ช. กล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
ดาหน้าโต้กลับ ป.ป.ช. ‘มานพ-คำพอง’ ยืนยันทำหน้าที่ในสภาตามครรลองประชาธิปไตย ไม่เคยคอร์รัปชัน ไม่เคยล่วงละเมิดใคร อ้างเคยถูกซื้อตัว 100 ล้านแลกกับการย้ายพรรคก็ยังไม่เอา แบบนี้จะฝ่าฝืนจริยธรรมได้อย่างไร
ดร.เสรี โต้นักการเมืองรุ่นลายคราม ตรรกะป่วย ‘นักการเมืองไม่ใช่อาชญากรฯ‘
ดร.เสรี โต้ตรรกะป่วย ของนักการเมืองอาวุโสที่ว่า ‘นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร ไม่ควรถูกลงโทษรุนแรง’ ซัดถ้าคอร์รัปชัน-โกงชาติ สร้างความเสียหายต่อคนทั้งปร
พรรคส้มแซะป.ป.ช.ไร้หัวใจ
เปิด 44 รายชื่ออดีต สส.พรรคก้าวไกล ที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีร่วมลงชื่อแก้ ม.112 "อมรัตน์" โวยแหลก! ป.ป.ช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่
ขีดเส้น 15 วัน! ป.ป.ช. เรียก 44 สส. ชี้แจงข้อกล่าวหาคดีฝ่าฝืนจริยธรรม ปมแก้ ม.112
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือถึง 44 สส.ก้าวไกล แจ้งข้อกล่าวหา และเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับชี้แจง คดีฝ่าฝืนจริยธรรม จากการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
'คารม' ไม่ซ้ำเติมอดีตเพื่อนร่วมพรรค โดนข้อกล่าวหาร้ายแรง บอกตัดสินใจอะไรต้องรอบคอบ
'คารม พลพรกลาง' อดีต สส. พรรคก้าวไกล ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย เห็นใจอดีตเพื่อนร่วมพรรค 44 สส. ถูก ป.ป.ช. เรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีแก้ไขมาตรา 112 ย้ำไม่ขอซ้ำเติม
เช็กรายชื่อ 44 สส. ส่อสังเวยแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
สำรวจรายชื่อ 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ถูก ป.ป.ช. ส่งเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรมอย่างร้ายแรง หนักเบาต่างกันไปตามพยานหลักฐาน หลังร่วมกันลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112