3 ก.พ. 2567 - นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (ปลัด มท.) เปิดเผยว่า ขอเตือนพี่น้องประชาชน รวมถึงข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ระวังภัยสังคมรูปแบบใหม่ โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะแอบอ้างว่าเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้วยการโทรศัพท์ไปเพื่อขอให้โอนเงิน แล้วจะใช้ LINE ซึ่งมีโปรไฟล์เป็นรูปปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมส่งเลขบัญชีที่จะให้โอนเงินไป หากใครหลงเชื่อไม่ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก็อาจจะต้องหลงกลสูญเสียเงิน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 2 ก.พ.67 มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายณรงค์ชัย สกุลอ่อน นายอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ทางหมายเลขโทรศัพท์ประจำตำแหน่งนายอำเภอ พร้อมทั้งส่งข้อความผ่านทาง LINE ซึ่งมีการใช้รูปโปรไฟล์ของตน เพื่อลวงให้โอนเงิน โดยปลายสายได้แจ้งว่าให้ช่วยโอนเงินค่าซื้อสินค้า จำนวนเงิน 86,000 บาท อ้างว่าแอปพลิเคชันธนาคารไม่สามารถใช้การได้ และจะให้เลขานุการของตนโอนเงินคืนภายหลัง พร้อมให้เลขบัญชีธนาคาร แล้วได้โทรมาติดตามสอบถามเป็นระยะๆว่าได้โอนเงินไปให้หรือยังในเวลาใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ นายอำเภอกระบุรีได้พิมพ์ข้อความพูดคุยเพื่อประวิงเวลา พร้อมเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กระบุรี และทำการทดลองโอนเงินจำนวน 1 บาท เพื่อเป็นหลักฐานไว้ ในระหว่างที่ลงบันทึกประจำวันอยู่นั้น บุคคลดังกล่าวได้ใช้การสนทนาแบบวีดิโอ (Video Call) ทาง Line แต่ไม่ยอมเปิดกล้องแสดงตน จึงยิ่งทำให้มั่นใจว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพแน่นอน จึงแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำว่า ในช่วงที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนหลายท่านอาจเคยได้รับสายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกให้โอนเงิน โดยอ้างว่ามีพัสดุตกค้าง หรือต้องโอนเงินก่อนเพื่อสมัครเป็นสมาชิก หรืออื่น ๆ เพื่อหลอกลวงให้โอนเงิน ซึ่งภาครัฐและสื่อมวลชนได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสาร ประกาศเตือนประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งมิจฉาชีพ แต่ทว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพได้พัฒนารูปแบบกลฉ้อฉลกลเม็ดใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่หลาย ๆ ท่านอาจคาดไม่ถึงว่ามีด้วยหรือ “โดยผู้เสียหายได้รับสายโทรศัพท์ที่โทรมาแล้วปลายสายไม่พูด ปล่อยให้เราพูดอยู่คนเดียวไปเรื่อย ๆ แล้วก็วางสายไป” ซึ่งหลายท่านคงคิดว่าเป็นเพราะสัญญาณไม่ดี แต่ความจริงแล้ว ท่านกำลังอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่กำลังบันทึกเสียงสนทนาอยู่ แล้วนำข้อมูลเสียงที่ได้ไปแปลงเสียงโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI แปลงเสียงเพื่อใช้นำไปโทรหาคนสนิทของเรา และหลอกลวงเอาเงิน
ทั้งนี้ การใช้ AI สร้างเสียงหรือการปลอมแปลงเสียง เรียกว่า “Voice Clone” (วอยซ์โคลน) ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพ และพบว่าเสียงจาก AI มีความสมจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมิจฉาชีพสืบค้นมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ก็จะมีการโทรไปหาญาติ คนใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน ของเจ้าของเสียง โดยสุ่มโทรหาคนที่เป็นเพื่อนในโซเชียลมีเดีย โดยมักจะสร้างสถานการณ์ว่ากำลังตกอยู่ในเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินด่วน ทำให้เราสงสาร แล้วรีบโอนเงินโดยไม่ทันยั้งคิด เช่น มีเหตุต้องใช้เงินด่วน ประสบอุบัติเหตุ เข้าโรงพยาบาล หรือแอปธนาคารขัดข้อง ฯลฯ
“ขอย้ำเตือนให้พี่น้องข้าราชการ ประชาชน และสังคมออนไลน์ โปรดระมัดระวังการติดต่อสื่อสารทางสื่อออนไลน์ แม้บุคคลนั้นจะเป็นบุคคลที่เรารู้จักมักคุ้น ควรพิถีพิถันช่างสังเกต และหากให้มีการโอนเงินหรือการให้กดลิงค์ใด ๆ ทาง SMS ก็อย่าหลงเชื่อ อย่าเผลอไปกดเป็นอันขาด ควรตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจให้ความช่วยเหลือหรือโอนเงินในทันทีนั้น หากสงสัยหรือไม่แน่ใจอย่าดำเนินการใด ๆ เป็นอันขาด ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าปลายสายเป็นคนที่รู้จักจริงหรือไม่ เพราะจะเป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นเคยหรืออาจจะอ้างว่าเปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนเบอร์แล้ว แต่เสียงคล้ายคลึงมาก ซึ่งวิธีการตรวจสอบง่าย ๆ ในเบื้องต้น คือ การสอบถามข้อมูลเชิงลึก อาทิเช่น ทำงานที่ไหน เกิดวันอะไร เจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เป็นต้น แล้วบอกว่าจะติดต่อกลับ พร้อมตั้งสติและรีบโทรศัพท์กลับไปหาคนที่ถูกอ้างชื่อโทรมา ด้วยการโทรไปเบอร์ที่เราบันทึกไว้ ไม่ใช่เบอร์ที่เพิ่งโทรมา ซึ่งแม้จะเสียเวลาแต่ดีกว่าเสียเงินให้กับมิจฉาชีพแน่นอน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินทุกชนิด สิ่งสำคัญที่ต้องฉุกคิด คือ ไม่ควรโอนเงินเด็ดขาด หากชื่อบุคคลที่ขอเงินหรือปลายสายกับชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน ถ้าเป็นแบบนี้คิดไว้เลยว่ามิจฉาชีพแน่นอน และหากท่านตกเป็นเหยื่อแล้วควรแจ้งความทันที และขอยืนยันว่า “ปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่มีการยืมเงินหรือขอให้โอนเงินอย่างแน่นอน” หากพี่น้องประชาชน หรือเพื่อนข้าราชการ ได้รับโทรศัพท์โดยอ้างว่าเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยขอยืมเงิน หรือมี Application LINE มาขอยืมเงินโดยใช้รูปปลัดกระทรวงมหาดไทย ท่านกำลังพบกับมิจฉาชีพ อย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี
ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม
พบศพเฒ่าอเมริกัน ถุงดำคลุมหัว มือไพล่หลังใส่กุญแจ ดับปริศนาในโรงแรม
ทิ้งปมปริศนา! พบศพพ่อเฒ่าอเมริกัน ถูกคลุมหัวใส่กุญแจมือ คาห้องพักโรงแรมหรูย่านนาจอมเทียน
ปลัดมท. เซ็นย้าย 11 รองผู้ว่าฯ-16 ปลัดจังหวัด มีผล 17 พ.ย.นี้
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 3388/2568 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เรื่อง ย้ายข้าราชการตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น (รองผู้ว่าราชการจังหวัด) จำนวน 11 ราย โดยให้รายงานตัวและปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ดังนี้
นายกฯ กำชับ ปปง. ปราบสแกมเมอร์เฉียบขาด 'ฉัตรชัย' ชงขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม
นายกฯ มอบนโยบาย ปปง. ชี้สังคมสนใจภารกิจปราบสแกมเมอร์ ลั่นหากไม่เฉียบขาดโดนตราหน้าไม่มีผลงาน -นานาชาติคว่ำบาตร ‘ฉัตรชัย’ ขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม โวจัดการแล้ว 8 แสนบัญชีม้า
'อนุทิน' คุย 'บิ๊กเล็ก-3ปลัด-ผบ.ทสส.' ก่อนนั่งหัวโต๊ะ 'กอ.รมน.'
'อนุทิน' เข้าทำเนียบฯ เรียกถก 'บิ๊กเล็ก-ปลัด 3 กระทรวง-ผบ.ทสส.' ก่อนนั่งหัวโต๊ะ 'กอ.รมน.' หารือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
ตม.รวบแก๊งพม่า ‘ต๋อง ขั้นเทพ’ ค้ายาบ้าระบบเครดิต ยึด 2,500 เม็ด
พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาครนำโดย พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม. และ พ.ต.


