ผบ.ตร. สั่งถอดบทเรียน ถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จฯ ต้องไม่กระทบประชาชน

19 ก.พ.2567 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมบริหาร ครั้งที่ 2/2567 โดยมี ผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , ผู้บัญชาการ ผู้บังคับบัญชาหน่วยต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ เพื่อหาหรือข้อราชการต่างๆ

ในการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผูบ.ตร.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้อยู่ในระดับเกณฑ์ดี และระดับเกณฑ์ดีเยี่ยม ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ร่วมกันบูรณาการ ประสานความร่วมมือ เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) และขับเคลื่อนนโยบาย No Gift Policy ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ในที่ประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผล.ตร.ได้มีข้อสั่งการในการประชุม 6 เรื่อง ได้แก่
1. การถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร ให้ทุกหน่วยกำชับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนิน และอำนวยความสะดวกการจราจร ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบฯ และ แนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงหลักด้านความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทั้งนี้ จะต้องไม่กระทบกับประชาชนของพระองค์ท่าน , ให้ทำการศึกษาถอดบทเรียน และสร้างมาตรฐานในการถวายความปลอดภัย รวมทั้งประชาสัมพันธ์แนวทางการใช้รถใช้ถนนร่วมกับขบวนเสด็จฯ ให้ประชาชนทราบและปฏิบัติได้อย่างถูกต้องปลอดภัย

2. การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สืบสวนหาข่าวการนัดหมายจัดกิจกรรม การจัดการชุมนุม หรือการแสดงออกทางการเมือง ประเมินสถานการณ์ และพิจารณาจัดกำลังดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัยอย่างเหมาะสม อย่าให้เกิดการกระทบกระทั่ง , กรณีพบการกระทำผิดกฎหมาย ให้รวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียดรอบคอบ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เหมาะสมกับสถานการณ์

3. การปราบปรามยาเสพติด ปัจจุบันพบการจำหน่ายน้ำกระท่อม หรือการจำหน่ายแปรรูปช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวนมาก ให้ประสานกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง กวดขันปราบปรามอย่างจริงจัง , เพิ่มความเข้มในการปราบปรามยาเสพติด ทั้งการสกัดกั้น การลักลอบนำเข้า-ส่งออก การปราบปรามเพื่อทำลายโครงสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้ค้า การใช้มาตรการทางกฎหมาย ตัดวงจรการเงินและยึดทรัพย์ และดำเนินการโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อบำบัดรักษา และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

4. การรับทหารกองประจำการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุมัติเปิดรับสมัครและคัดเลือกทหารกองหนุนที่เคยรับราชการในกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) จำนวน 500 อัตรา บรรจุและแต่งตั้งเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ และเมื่อสำเร็จการฝึกอบรมจะแต่งตั้งลงในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนนั้น ให้กองบัญชาการศึกษา , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , สำนักงานกำลังพล , สำนักงบประมาณ , สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และโรงพยาบาลตำรวจ เร่งรัดดำเนินการในรายละเอียดที่ เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรับสมัคร การคัดเลือก การบรรจุแต่งตั้งและฝึกอบรม เป็นไปตามแผนและระยะเวลาที่กำหนด

5. การปรับปรุงประสิทธิภาพงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญและอยู่ระหว่างการปรับปรุงงานสอบสวน เช่น การแก้ไขคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556, การลดขั้นตอนทางธุรการฯ , การวิเคราะห์และกำหนดตำแหน่งควบเพื่อเป็นเส้นทางการเจริญเติบโต, การพิจารณาเสนอขอปรับปรุงอัตราเงินเพิ่มพิเศษ เป็นต้น ระหว่างนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระและสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานสอบสวน ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1-9 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำรวจปริมาณงานของพนักงานสอบสวนแต่ละ สน./สภ. และ กกง เพื่อปรับเกลี่ยพนักงานสอบสวนให้เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณงาน โดยรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบภายในวันที่ 29 ก.พ.67 ส่วนกรณีคดีสำคัญหรือคดีที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค หรือกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พิจารณามอบหมายพนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวน ร่วมดำเนินการสอบสวน , ให้ผู้กำกับการ/หัวหน้าสถานี หัวหน้างาน สอบสวนด้วยตนเอง หรือจัดให้มีระบบพี่เลี้ยง ให้คำปรึกษา แนะนำ แก้ไขปัญหาให้พนักงานสอบสวนที่ปฏิบัติหน้าที่ใน สน./สภ. และ กก.

6. การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้หารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หาแหล่งเงินกู้ในอัตราพิเศษเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ เพื่อนำไปชำระหนี้กับสถาบันการเงินเดิมซึ่งมีดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะทำให้ข้าราชการตำรวจมีเงินเหลือหลังการผ่อนชำระหนี้จำนวนมากขึ้น โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่ง ตร. ที่ 19/2567 ลง 11 ม.ค.67 แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดหาเงินกู้ในอัตราพิเศษ เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจ จึงให้คณะทำงานฯ เร่งหารือกับสถาบันการเงิน และกำหนดแนวทางเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นของขวัญให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว ให้สามารถดำรงชีพได้ อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กต่าย' ยันไม่กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร. ไม่ติดใจถูกกล่าวหาหลอกนายกฯ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้กล่าวพาดพิงจากประเด็นที่ลงนามคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่า

'บิ๊กต่าย' เซ็นแบ่งงานรองผบ.ตร. 'ธนา-สราวุฒิ' แทน 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กรอย'

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'โจ๊ก' เดือดรายวัน! ถ้าอยากเป็นผบ.ตร. บอกกันตรงๆ ยอมให้ก็ได้ เล่นแบบนี้จะติดคุกเสียเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.เข้ายื่นหนังสือเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนเว็บพนันออนไลน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถตรวจยึดหรืออายัดทรัพย์ใดๆได้

'บิ๊กโจ๊ก' ถอย! ดอดยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด 'เศรษฐา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตั้งผบ.ตร.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่23เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน

'ทนายตั้ม' หอบหลักฐานเส้นเงินกว่า 1 พันหน้า ให้ 'เรวัช' เอาผิด 'บิ๊กต่อ'

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นำหลักฐานเส้นทางการเงินจากเว็บพนันกว่า 1,000 หน้ามอบให้ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ที่อ้างว่ามีความเชื่อมโดยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รวมทั้งภรรยาและบัญชีม้า

'ผกก.เตาปูน' เบรกลาออก ลุยต่องานหินคดี '2 บิ๊กตร.' จนจบเกษียณ

ผกก.เตาปูน ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง คาดทนกระแสกดดันจากการทำคดีโยง 2 บิ๊กตำรวจไม่ไหว  ขณะที่ ผบก.น.2 เรียกตัวคุยสาเหตุ จนสุดท้ายเปลี่ยนใจเดินหน้าทำงานต่อจนจบเกษียณอายุราชการปีนี้