'ทนายตั้ม' หอบหลักฐานเส้นเงิน พาตัว 'พิมพ์วิไล' ให้ข้อมูลโยง 'ต่อศักดิ์-ภรรยา'

'ทนายตั้ม' หอบหลักฐานเส้นเงินพร้อมพาตัว 'พิมพ์วิไล' พยาน-สายลับ ให้ข้อมูลเส้นเงินเชื่อมโยง 'ผบ.ต่อศักดิ์'และภรรยา แฉเพิ่มพบมีการโอนเงินให้ตำรวจไซเบอร์เดือนละ 1 ล้าน

5 เม.ย.2567- ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน พร้อมพา น.ส.พิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) ผู้โอนเงินเข้าบัญชีม้า นายสัญญวีณ์ สาสุธรรม ทนายความ รวมถึงสายลับอีก 1 นาย เพื่อมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการเงินโดยอ้างว่ามีความเชื่อมโยงถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และภริยา ในคดีเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์

นายษิทรา กล่าวว่า เป็นแผนผังเส้นทางการเงินที่นางพิมพ์วิไล ที่โอนเงินจ่ายค่าสินบนให้กับบัญชีม้าต่างๆ เกือบ 10 เส้น ซึ่งในจำนวนนี้พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานตำรวจอีกหลายหน่วยงาน มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน โดยมี น.ส.พิมพ์วิไล และพยานบุคคลที่เป็นสายลับเจ้าหน้าที่ มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในคดีที่ตัวเองฟ้องร้องเอาผิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร.ภรรยา และบัญชีม้า รวม 4 คน ด้วย

"บุคคลที่พามาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ คือ น.ส.พิมพ์วิไล ที่มีชื่อบัญชีเป็นบุคคลที่รับเงินจากเครือข่ายเว็บพนัน ก่อนโอนให้กับบัญชีม้าหลายบัญชี วันนี้จึงประสานให้มาให้ข้อมูล โยงถึงเส้นทางการเงินให้กับหน่วยงานตำรวจหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะบัญชีนายคชาชาญ ซึ่งเป็นบัญชีม้าเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยาเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการโอนจ่ายให้กับตำรวจไซเบอร์เดือนละ 1 ล้านบาท รวมถึงให้การถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเงินไปจ่ายให้กับตำรวจที่กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ หรือตำรวจคอมมานโด ด้วยว่ามีบุคคลไหนเกี่ยวข้องบ้าง"

นายษิทรา กล่าวอีกว่า หลักฐานเส้นเงินที่นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนในวันนี้ นอกเหนือจากเครือข่ายที่โยงไปถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์แล้ว หากมีเส้นเงินไปถึงใครก็ตามแม้จะเป็นคนที่ตนเองรู้จัก หรือสนิทกับตัวเองก็ตาม โดยสายลับที่ประสานมาพบกับพนักงานสอบสวนวันนี้ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ขอไม่ให้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับพนักงานสอบสวน ของกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เข้าสอบปากคำบุคคลทั้งสอง ที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูนในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยสัปดาห์ต่อไป ในวันอังคารตนเองจะนำหลักฐานชุดนี้ไปยื่นให้กับ พล.ต.ท.เรวัต กลิ่นเกษร ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. โดยเช่นกัน

ขณะที่ น.ส.พิมพ์วิไล (สงวนนามสกุล) พยานปากสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคนโอนให้กับบัญชีม้า อย่าง คชาชาญและ ณัฐพงศ์ ซึ่งสื่อมวลชนพยายามสอบ น.ส.พิมพ์วิไล ถึงการเดินทางมาให้การในวันนี้ด้วยตัวเอง และการนำข้อมูลทั้งหมดมาเปิด โดยระบุว่า วันนี้พร้อมให้ข้อมูลกับทางตำรวจทุกอย่าง โดยยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจริง และยอมรับว่าตนเองเป็นคนโอนเงินจ่ายหลักล้าน แต่ไม่ขอตอบว่าโอนเงินให้กี่หน่วยของตำรวจบ้าง เชื่อว่าข้อมูลสเตทเม้นท์ หรือ บันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะตอบทั้งหมด

ส่วนประเด็นว่ามีการโอนเงินจ่ายให้กี่ปีแล้ว น.ส.พิมพ์วิไล ระบุว่า จำไม่ได้ว่ากี่ปี แต่ยอมรับว่าทำหน้าที่หลักคือโอนเงิน โดยได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนให้ทำบัญชี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย ที่มาวันนี้ไม่มีใครบังคับ และไม่มีใครข่มขู่ในการเดินทางมา และพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และเต็มใจมาเปิดข้อมูลเอง แต่ยอมรับว่าหลังจากให้ข้อมูลในวันนี้ ก็กังวลเรื่องของความปลอดภัย

น.ส.พิมพ์วิไล ยังยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้จักตำรวจคนไหน และหลังเกิดเรื่องเมื่อรู้ว่าตัวเองกระทำความผิด ก็ได้โทรศัพท์ไปต่อว่าคนที่ว่าจ้างแล้ว ส่วนสาเหตุที่ออกมาในวันนี้ ไม่ขอตอบ แต่ยืนยันได้ว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน

ด้านทนายสัญญวีณ์ ระบุว่า วันนี้ลูกความตนเองเข้ามาให้ข้อมูลตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ซึ่งหลักฐานเอกสารทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่าไม่ได้พาดพิงถึงใคร และไม่ได้อยู่ฝ่ายไหน เพียงแต่ให้การตามความเป็นจริงตามพยานหลักฐาน จะแพ้ชนะอยู่ที่พยานหลักฐานทั้งหมด

ส่วนที่ลูกความตนเองออกมาให้ข้อมูลอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในอนาคตนั้น นายสัญญวีณ์ ระบุว่า การจะดำเนินคดีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง ก็ยอมรับหากถูกแจ้งข้อหา ซึ่งก็ต้องไปสู้กัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปปง.ล้มยักษ์สแกมเมอร์ ยึดทรัพย์ ’เฉิน จื้อ-ก๊ก อาน-เบน สมิธ‘ หมื่นล้าน

คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่า 10,165 ล้านบาท จาก 4 คดีใหญ่ของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พบเส้นทางเงินโยงกัมพูชา ใช้บัญชีม้า-คริปโตฟอกเงิน ซ่อนทรัพย์ผ่านบริษัทและบุคคลใกล้ชิดเป็นทอด ๆ

ศาลฟันหนัก! ขัง 11 คน เปิดบัญชีม้า ปั่นเหยื่อโอน 21 ล้าน โดนยาว 14-18 ปี

ศาลลงดาบจำเลยทั้ง 11 ราย คดีบัญชีม้าให้แก๊งหลอกโทรปั่นเหยื่ออ้างเป็นดีเอสไอ มองเป็นขบวนการทำร้ายสังคม-เศรษฐกิจ ย้ำต้องลงโทษแรงเพราะพฤติการณ์ร้ายแรง ไม่สนคำรับสารภาพ สั่งจำคุกตั้งแต่ 14 ถึง 18 ปี พร้อมให้คืนเงินผู้เสียหายกว่า 21 ล้านบาท

ดิ้นสู้สุดซอย! 'โจ๊ก' ให้ข้อมูล สว. ขยี้องค์กรตำรวจพังพินาศ รับส่วยเว็บพนัน-ซื้อขายตำแหน่ง

'บิ๊กโจ๊ก' เข้าแจง 'กมธ. การกฎหมายฯ สว.' ซัดตำรวจซื้อขายตำแหน่ง เป็นเรื่อง 'เลวระยำ' ลั่น ถ้าเราไม่ส่งเสริม ลูกน้องก็ไม่กล้าทำ ชี้ จากคนไร้อำนาจ พอขึ้นมาก็เอาหมดทุกอย่าง

รองจเรตำรวจ จวก กมธ. ใช้เวทีสภาฯสร้างสงครามข้อมูลข่าวสาร ชี้นำสังคม เป็นอันตรายต่อสำนวนคดี

"ไตรรงค์" โต้ "บิ๊กโจ๊ก" กล่าวหาตำรวจมีการใช้บัญชีม้าเป็นเรื่องปกติ ย้ำบัญชีม้าคือหัวใจองค์กรอาชญากรรม ชี้เป็นการสะท้อนถึงตัวผู้กล่าวหา ให้ประชาชนรับฟังข้อมูลรอบด้านจากข้อเท็จจริงและหลักฐาน เพราะคนที่พูดถูกให้ออกจากราชการ

รวบแก๊งนักฟุตบอลเดินสาย ใช้เงินรางวัลทำทุนรับแทงหวยออนไลน์

พ.ต.ท.อนุสรณ์ ธีรนุชพงศ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.นราภพ นวลเท่า สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท 3. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ ค.421/2568 ลง 11 พ.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคา