'อัจฉริยะ' เปิดเอกสารธนาคาร โต้ 'ทนายตั้ม'

11 เม.ย.2567 - ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่แต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบ ความขัดแย้งในเรื่องบุคลากร ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหนังสือเชิญเข้าให้ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ตนได้ถูกเชิญจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จและข้อกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีจัดตั้งขึ้น โดยเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ในฐานะที่ตนเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งนี้ตนได้นำวัตถุพยานและหลักฐานทั้งการทุจริตของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อาทิเช่น การซื้อขายทองคำจำนวน 16,000 บาท การซื้อขายพระที่อ้างค่านายหน้า และปืนจำนวน 200 กระบอก รวมถึงหลักฐานเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับภรรยา ที่ถูกกล่าวหาโดยทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ที่ตนไม่เคลื่อนไหวอะไร เพราะอยากให้ทนายตั้มใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ ซึ่งรายละเอียดที่ทนายตั้มได้นำมายื่นเป็นเอกสารชุดเดียวกับที่ได้มาจากตำรวจนายหนึ่งในภูธรภาค 9 และเอกสารที่แสดงถึงเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กับภรรยา นั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น โดยมีเอกสารยืนยันจากธนาคารถึงบัญชีของทั้ง 2 ว่าไม่มีหน่วยงานรัฐใดที่เข้าถึงข้อมูลของธนาคารตั้งแต่ปี 2562 โดยมีทั้งธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดังนั้นที่ทนายตั้มนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนถือว่ามีความน่าสงสัยว่าได้เส้นทางการเงินมาจากบุคคลใด กระทำขึ้นมาเองหรือไม่ ซึ่งนี่คือหลักฐานยืนยันที่สำคัญในทางนิติวิทยาศาสตร์ของธนาคารทั้ง 2 บัญชีที่ถูกกล่าวอ้าง

นอกจากนี้ ถ้าหากข้อมูลจากธนาคารหลุดออกไปจริง ธนาคารต้องเป็นผู้รับผิดชอบว่าเกิดการรั่วไหลของข้อมูลออกไปได้อย่างไร แต่ตนเชื่อว่าทั้ง 2 ธนาคารคงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้ง PDPA และกฎหมายละเมิดสิทธิ

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ทนายตั้มนั้นด้อยค่าการทำงานของคณะกรรมการที่นายกฯ จัดตั้งขึ้น แต่กลับพอใจกับคณะกรรมการของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร มากกว่า ซึ่งตนมองว่าไม่มีความเป็นกลาง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชุดสอบคดี 'บิ๊กต่อ' ยันไม่ล่าช้า มีหลักฐานพอสมควรแต่เปิดเผยไม่ได้

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(ผบก.น. 2) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเคและในส่วนที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

'โจ๊ก' ชงดาบสองร้อง ป.ป.ช.เทกระจาดสอบตำรวจกว่า 200 นาย

'บิ๊กโจ๊ก' ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด 'รองธนา' หัวหน้าพนักงานสอบสวนพร้อมคณะสอบสวนโดยมิชอบ ยันการสอบสวนเป็นโมฆะ แนะทางรอดให้การใครสั่ง เผยนายกฯ ถูกหลอกเซ็นให้กลับ ตร.เข้าใจเป็นการส่งกลับไปทำงาน

'บิ๊กโจ๊ก' ถอย! ดอดยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด 'เศรษฐา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตั้งผบ.ตร.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่23เม.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน

'ทนายตั้ม' แฉ 2 นายพลรับส่วยเว็บพนัน ชี้หลักฐานชัดเจนหากดำเนินคดีไม่ได้ก็ไปชิงหมาเกิด

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงข่าวกรณี 2 นายตำรวจมีส่วนพัวพันในคดีฟอกเงิน เหมือนกัน แต่กลับถูกดำเนินคดีแบบสองมาตรฐาน โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนเองไม่ได้ทำเพื่อชาติ แต่เป็นการทำเพื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

ป.ป.ช. ขอดูข้อเท็จจริงก่อน ย้อนถามเอกสารหลุด 'บิ๊กโจ๊ก' ปล่อยเองหรือเปล่า

'เลขาฯ ป.ป.ช.' ขอดูข้อเท็จจริงก่อน หลัง 'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นคำร้องคัดค้านกรรมการฯ ไม่ทราบเรื่องเอกสารหลุด ย้อนถามเจ้าตัวปล่อยเองหรือไม่ ย้ำให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

'บิ๊กโจ๊ก' ส่งตัวแทนทนายความ ขอเลื่อนส่งเอกสารคำให้การไปอีก 10 วัน

นางสาวพิมพ์พิสุทธิ์ จันทเลิศ อายุ 27 ปี ผู้รับมอบอำนาจจากนายศิริพัฒน์ บุญมี หนึ่งในทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง