'ตร.เกษียณ' บุกกระหน่ำยิงอดีตเมียดับ ก่อนฆ่าตัวตาย

2 ส.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านเลขที่ 250 หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส. นายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนันตำบลทุ่งกระบี่ ก่อนแจ้งประสานไปยัง ตร.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว หน่วยกู้ภัยสว่างภักดี จุดย่านตาขาว รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วประตูบ้านถูกล็อกสนิทด้วยแม่กุญแจจากด้านใน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ตร.ยังมองลอดผ่านช่องเห็น ร.ต.ท.สมโชค รองเดช อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนวนเวียนอยู่ภายในบ้าน พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พร้อมชุดสืบสวนได้พยายามพูดจาด้วยการตะโกนและโทรโข่งรถยนต์สายตรวจเพื่อสื่อสารกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้วางอาวุธปืนลงและออกมามอบตัว แต่จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ตะโกนออกมาว่าให้ออกไป “ผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยร่นออกมา พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้ามาร่วมเคลียร์พื้นที่

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการพังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปถึงบนแคร่ไม้สัก หลังประตูหน้าบ้านพบร่างของ ร.ต.ท.สมโชค รองเดช อายุ 69 ปี ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ ในสภาพเท้าตั้งอยู่บนพื้นกระเบื้อง และอาวุธปืนวางอยู่ใกล้ตัว ตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอนพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบร่างของ นางสมคิด รัตนพันธ์ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ นั่งบนพื้นกระเบื้องหลังพิงเตียงนอน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ร่างกายทั้งบริเวณหน้าอกและตามลำตัวรวมแล้วกว่า 16 นัด บริเวณต้นแขนซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม เป็นบาดแผลฉีกขาดประมาณ 1 คืบ รวมทั้งกระดูกแขนซ้ายท่อนบนหัก ใกล้กับศพฝ่ายหญิงพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 16 ปลอก และเครื่องกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด มีดอีโต้ 1 เล่ม พร้อมกับตรวจสอบอาวุธปืนที่อยู่ติดกับตัวฝ่ายชายพบว่ายังมีกระสุนคงค้างอยู่ในลำกล้องจำนวน 1 นัด พบมีแม็กกาซีนจำนวน 2 อัน ภายในไม่มีกระสุนโดยถูกกดยิงออกไปทั้งหมดแล้ว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ตร.ตรวจสอบภายในบ้านพัก พบว่าหน้าหน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตกหัก ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ระหว่างประกาศขายพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ สีแดง-ดำ ทะเบียน ขยว 256 ตรัง ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ โดยที่ยังมีกุญแจรถเสียบค้างเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชิ้นไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม พ.ต.อ พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก. สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุรีบมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึง ตะโกนบอกว่าผู้กำกับๆ แต่ไม่มีเสียงขานรับ จึงเรียกชื่อพี่โชค พี่โชค แต่แกไม่ตอบ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ตนจึงใช้โทรโข่งเจรจาเรียกแล้ว แกก็ไม่ขาน โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย สักพักตำรวจในสังกัดได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า “อย่าเข้ามาผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด สักพักหนึ่งมองลอดผ่านกระจกเห็นแกนั่งนิ่งอยู่ ก็เลยตัดสินใจรอชุดปฎิบัติการพิเศษศรีตรัง เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ซึ่งระยะเวลาที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยากับยิงตัวเองเสียชีวิตน่าจะใกล้เคียงกันห่างกันประมาณ 15-20 นาที

พ.ต.อ พูนศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชายเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติ ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของทั้งสองคน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาหลายปีแล้ว

ด้าน นายอารัญ ชูทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน เล่าว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฝ่ายชาย ได้ขับรถ จยย. มาวนเวียนหน้าบ้าน โดยดูจากซ้ายไปขวา ก่อนที่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จะได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงว่าฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงฝ่ายหญิงตอบรับ หรือออกมาเปิดประตูให้ ห่างออกไปเวลาประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้ยินเบามากๆ ซึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ในห้องนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4-5 นัดติดๆ กัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน โดยฝ่ายภรรยาออกไปอยู่ข้างนอกได้สักพักแล้ว ก่อนกลับเข้ามาเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมานี้เอง

สอบถาม ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายชาย เผยว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน เจอกันบ่อย ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้มาหาตนเพื่อให้มาเจรจาปัญหาให้จบ ๆ กันไป เกี่ยวกับเรื่องของคนตาย (ภรรยา) เรื่องทรัพย์สิน เรื่องในบ้านที่พี่โชคซื้อมา ให้มีการมาเจรจาคืนกลับ ซึ่งผู้ก่อเหตุโทรหาตนอยู่บ่อยๆ เพราะเครียดเรื่องทรัพย์สินกับภรรยา จริง ๆ แล้วแกก็ไม่อยากเลิกรากับภรรยา โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาทเพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ โดยตอนเกิดเรื่อง ผกก.โทรหาตน แต่ตนยังมาไม่ถึง ผู้ก่อเหตุก็ลงมือก่อเหตุเสียก่อนแล้ว

ขณะที่ แนวทางการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีสามีและภรรยาและลูกกันมาก่อนแล้ว ก่อนจะมาอยู่กินกันที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของทั้งคู่ ได้ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีลูกด้วยกัน กระทั่งระยะหลังได้มีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเพื่อนสนิทของฝ่ายชายรู้ดี ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอหย่าร้างโดยตกลงให้เงิน จำนวน 3.5 แสนบาทเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จ่ายมาแล้ว 2.5 แสนบาท โดยที่ฝ่ายหญิงได้ไปอาศัยบ้านญาติต่างจังหวัดและเพิ่งกลับมาได้ 3 วัน ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายยังเคยพูดกับเพื่อนตำรวจตลอดว่า หากยิงเมียแล้วจะยิงจะตัวเองตาม โดยที่เพื่อนๆได้ห้ามปรามไว้ตลอด

จนกระทั่งวันนี้ฝ่ายชายได้แวะดื่มเบียร์ 2 ขวด ที่ร่านชำภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะขับรถมาที่บ้านหลังนี้ โดยจอดรถไว้ข้างบ้าน เดินอ้อมปืนรั้วกำแพงหลังบ้านเข้าไป และทุบหน้าต่างกระจก ใช้มือล้วงเข้าไปบิดลูกบิด และเข้าไปภายในบ้าน โดยที่ฝ่ายหญิงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฝ่ายชายได้พังประตูเข้าไป โดยที่ฝ่ายหญิงน่าจะถือมีดอีโต้อยู่ ก่อนจะมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไม่ยั้ง และอาจจะใช้ของแข็งทุบที่แขนจนกระดูกแตก และใช้มีดอีโต้ฟันแขน ก่อนที่ฝ่ายชายจะโทรหาเพื่อนและจบชีวิตตัวเองตาม เบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ ก่อนจะมอบร่างให้กับญาตินำไปประกอบพิธีการตามศาสนาอิสลามต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด

'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย

'ทักษิณ' รับเคยคุย 'สจ.โต้ง' ส่งเมียชิงนายก อบจ. หนุน ตร. ล้างบางบ้านใหญ่ปราจีน

'ทักษิณ' รับเคยคุย 'สจ.โต้ง' ส่งเมียลงชิง 'นายก อบจ.ปราจีนฯ' ในนามเพื่อไทย ซัดเลวร้ายมาก ฆ่ากันเหตุฮั้วไม่ลงตัว ชมเปาะ ตร.ฟิตกวาดล้างผู้มีอิทธิพลเกลี้ยงแน่

อย่าเสี่ยง! ‘ก.พ.ค.ตร.’ เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งตำรวจ  ยืนตัวตรงไม่รับเด็กฝาก

มีโอกาสรับฟังข้อสังเกตจาก ก.พ.ค.ตร. จากประสบการณ์การวินิจฉัยสำนวนที่ผ่านมาบ้างก็จะดี เพราะชีวิตบั่นปลายการรับราชการของท่านจะได้ไม่เสี่ยงภัยกับการโดนคดีวินัยและอาญา

'อดีตนายกฯชวน' ไล่บี้ดูแลสนามบินตรังโดนทิ้งงาน ปล่อยโจรขโมยถึง 29 ครั้ง

'อดีตนายกฯชวน' ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายสนามบินตรัง หลังผู้รับเหมาทิ้งงาน คนร้ายสบช่องลักสายไฟฟ้า-อุปกรณ์ต่างๆ สารภาพขโมยถึง 29 ครั้ง

‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา

พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75  ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา