จับมิจฉาชีพ ส่งข้อความมือถือ อ้างการไฟฟ้าคืนเงิน ลวงเหยื่อกดรหัสดูดเงินเกลี้ยงบัญชี

7 ก.ย.2567 - พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญช ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 จับกุมนางสาว จิตติมา อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4135/2567 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ได้บริเวณริมสีแยกไฟแดงคำน้ำแซ่บ อ.วาริชำราบ จ.อุบลราชธานี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ,ร่วมกันโดยทุจริตเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิเวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเพื่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น และ ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

สืบเนื่องจากได้มีมิจฉาชีพส่ง SMS เข้าโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย อ้างว่าส่งมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แจ้งว่าผู้เสียหายว่ามีสิทธิได้รับเงินคืนค่า FT และให้กดลิงก์ที่แนบมาเพื่อขอเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดเข้าไป ปรากฎเป็นบัญชีแอปพลิเคชัน Line ชื่อ “PEA THAILAND” และได้มีคนอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้าได้ขอภาพถ่ายเอกสารส่วนตัวต่างๆ ของผู้เสียหายเพื่อใช้ประกอบการลงทะเบียนขอรับเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงส่งภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนให้ไป

จากนั้น มิจฉาชีพแจ้งว่าให้ลงทะเบียนในเว็บไซต์การไฟฟ้า(ของปลอม) ตามขั้นตอนที่แนะนำ จากนั้นได้มีข้อความปรากฎบนมือถือให้ผู้เสียหายกดยืนยันรหัส PIN เพื่อดาวโหลดขั้นตอน ผู้เสียหายจึงกดรหัสไป ซึ่งผู้เสียหายใช้เป็นรหัสเดียวกับรหัสโอนเงินของแอปธนาคาร ภายหลังพบว่าเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายโอนเงินออกไปจนหมด รวมจำนวนเกือบ 2 ล้านบาท

เบื้องต้น นางสาวจิตติมา ยอมรับว่า ตนรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร และรับจ้างเปิดใช้งานซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือพร้อมสมัครใช้แอป K Plus แล้วส่งมอบให้แก่นายหน้าที่มารับซื้อบัญชี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉยับ! มือปาระเบิด หลอกขายเสื้อให้กลุ่มสามนิ้วโง่ๆ ได้เงินแล้วไม่ส่งสินค้า โดนกันเพียบ

น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ แนวร่วมม็อบสามนิ้ว จำเลยในความผิดฐานหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "

รวบอดีตพระครู ทำเพจปลอมหลอกชาวบ้านทำบุญ สารภาพติดหนี้พนันออนไลน์

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม

บุกจับ 3 นายหน้าจัดหาซิมผีบัญชีม้า ขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผู้กำกับกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (ผกก.2 บก.สอท.4) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จับกุมนายธนกร

'บัญชีกลาง' เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ข้อมูลหลอกลวงผู้รับบำนาญ

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมบัญชีกลางยังคงได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้รับบำนาญและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมบัญชีกลาง ชื่อผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ หลอกลวงว่ามีเงินที่ค้างรับจากกรมบัญชีกลางและให้ดำเนินการตามที่มิจฉาชีพแจ้ง

รัฐบาลเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ อ้างเป็นจนท.ช่วยลงทะเบียนรับเงินหมื่น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สืบเนื่องจากการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มีการแจกเงินหมื่นให้กับกลุ่มเปราะบาง และผู้พิการ