ตร. จ่อแจ้งข้อหาผู้บริหาร 'ดิไอคอนกรุ๊ป' เหยื่อแห่ร้อง 120 ราย เสียหาย 50 ล้าน

‘บิ๊กต่าย’ แจงตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหาร ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ส่วนดาราแม้ไม่ได้บริหารงาน หากพบกระทำผิดชัดแจ้งตั้งข้อหาได้ทันที เผยเหยื่อร้องแล้ว 120 ราย มูลค่าเสียหาย 50 ล้าน

11 ต.ค. 2567 – ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCon Group Co., Ltd.) ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ต่อเนื่องถึงวันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีประชาชนที่ระบุว่าเป็นผู้เสียหายเดินทางมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 120 ราย ความเสียหายรายละ 200,000 – 500,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท โดยขณะนี้คณะทำงานได้รับพยานเอกสารของประชาชน ในส่วนของหลักฐานการติดต่อ การชักชวนไปร่วมลงทุนธุรกิจและตัวอย่างสินค้า รวบรวมไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว

“ส่วนจะเป็นการประกอบธุรกิจขายตรงคล้ายกันกับบริษัทใหญ่ที่เป็นที่รู้จักหรือไม่ ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบการจดทะเบียนขออนุญาตการประกอบกิจการ เพราะธุรกิจขายตรงต้องมีการจดทะเบียนขออนุญาต รวมถึงต้องสอบถามตัวแทนขายว่าลักษณะการไปอบรม การนำทรัพย์สินไปใช้ในธุรกิจดังกล่าวมีลักษณะใดเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายธุรกิจขายตรงหรือไม่” รรท.ผบ.ตร. ระบุ

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าลักษณะธุรกิจขายตรง กับแชร์ลูกโซ่ มีเส้นบางๆกั้นอยู่ ทางคณะตำรวจที่ทำงานจะต้องพยายามรวบรวมข้อเท็จจริง สรุปวินิจฉัยอย่างรอบคอบ ซึ่งภายในวันนี้จะพยายามระบุข้อหาความผิดให้ได้ว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกกล่าวหาความผิดเรื่องใดบ้าง ในชั้นแรกจะมุ่งไปที่ตัวผู้ประกอบการก่อนว่ากระทำผิดประเภทไหน จากนั้นจึงเป็นการพิจารณาบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายลักษณะความผิดของตัวการ ด้วยหรือเป็นเพียงผู้เข้าร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลหรือการแถลงข่าวว่าไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารบริษัทนั้น รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะให้การและกล่าวอ้างได้ทั้งหมด แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องยึดถึงคำให้การของผู้เสียหายด้วยว่า ที่ผ่านมาบุคคลเหล่านั้นมีพฤติการณ์อย่างไรบ้างในบริษัท กระบวนการของตำรวจคือการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ากระทำความผิดก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ทั้งนี้ตราบใดที่เรื่องไปถึงศาลและศาลยังไม่พิพากษาว่าเป็นผู้ต้องหาพวกเขาก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ในขณะนี้เราทำงานอย่างเต็มที่เพราะเรารู้ว่าพี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้

“ส่วนคดีในอดีตคือบทเรียน บางทีตำรวจก็ถูกฟ้อง ผมจึงกำชับว่าให้ทำอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกฎหมายอย่างแท้จริง พนักงานสอบสวนจึงจำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในเหตุที่เกิดข้อเท็จจริงที่ปรากฏรายละเอียด ของเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายแต่ละท่านได้ถูกกระทำ” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุ

รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งหนังสือระบุถึงพฤติการณ์ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวประกอบกับคำให้การผู้เสียหาย ตนเองได้พูดคุยกับเลขาธิการ ปปง.โดยตรง ว่าเรื่องนี้ตำรวจมีหน้าที่สอบสวน แต่ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ใคร เพียงแต่ตำรวจมองว่าพี่น้องประชาชนกำลังเดือดร้อน ดังนั้นผู้ที่ถูกกล่าวหาอาจจะกระทำความผิด

ส่วนข้อห่วงใยจากตำรวจ คือขอให้เร่งรัดในการพิจารณายุติการดำเนินธุรกรรมทางการเงินของผู้บริหาร และวันนี้จะมีการประชุมระหว่าง ปปง. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ ตร. เพื่อติดตามความคืบหน้า และยืนยันว่าหนังสือที่ส่งถึง ปปง. มีความครบถ้วนรอบคอบแล้ว เป็นความคิดที่ตำรวจเข้าใจพี่น้องประชาชนว่าเดือดร้อน จากกรณีที่คิดว่าถูกหลอกลวงทรัพย์สินเงินทอง

เมื่อถามว่า กรณีดาราที่มีส่วนที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจมาร่วมลงทุน และระบุว่าตนไม่ใช่ฝ่ายบริหาร จะมีการพิจารณาดำเนินคดีความผิดใดหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ถ้าข้อเท็จจริงที่ได้พาดพิงถึงท่านใด ยืนยันว่าจะเรียกมาสอบสวนทั้งหมด หากพบว่าพฤติการณ์ดังกล่าวมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย แม้บุคคลนั้นจะไม่มีตำแหน่งในบริษัท แต่มีพฤติการณ์ความผิด ทั้งนี้มีการเตรียมการป้องกัน หากมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการหลบหนีออกนอกประเทศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรวจพบเส้นเงิน 'บอสพอล' เชื่อมแม่นักการเมือง ออกหมายเรียก 'เอกสายไหม' กุพยานเท็จ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช. ก. กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบคลิปเสียงเทวดาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ที่ปรากฏเทวดาอักษรย่อ ส. ว่า ในส่วนนี้มีการสืบสวนหาข้อมูลและพบแล้วว่ามีเส้นที่ไปถึงจริง แต่เป็นเส้นเงินระหว่างนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล

‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน

ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ

สาวโดดน้ำเจ้าพระยา! แฟนหนุ่มตามลงไปช่วยแล้วขึ้นไม่ได้

เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณริมเขื่อนภายในลานจอดรถตลาดหัวเกาะ

DSI ฟัน 18 บอส นำร่อง ‘ฉ้อโกง’ ล็อต 2 ยังไม่ชัด!

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ เผยแพร่เอกสารข่าว การส่งสำนวนการสอบสวนคดีเว็ปพนัน BNK ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ สอบสวนต่อ

'รองผบช.ก.' แย้มพยานหลักฐานเพียบ คดีโกง 71 ล้าน จ่อหมายเรียก 'ทนายตั้ม'

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย