
'ทวี' แจง 'ดีเจแมน-ใบเตย' ได้รับค่าเยียวยา วันละ 500 บาท หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม สามารถฟ้องรัฐได้ ชงแก้กม.ถ้าอัยการสั่งไม่ฟ้องจะเข้าไปเยียวยา
27ธ.ค.2567 ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังกระแสดราม่าว่านายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน ติดคุกฟรี ว่า กระทรวงยุติธรรมมีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค่าตอบแทนสำหรับจำเลยในคดีอาญา จะอยู่ที่ 500 บาทต่อวัน แต่ต้องขอให้คดีนั้นเด็ดขาดก่อน เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลลงโทษบางคน และไม่ได้ลงโทษบางคน ซึ่งถ้าถูกควบคุมจะได้รับค่าตอบแทนที่เรียกว่าเป็นแพะ แต่เนื่องจากในคดีนี้เป็นเพียงการตัดสินของศาลชั้นต้น ไม่จึงยังไม่มั่นใจว่าอัยการจะอุทธรณ์หรือไม่ และต้องขอรอดูก่อน
"ส่วนในอนาคตได้มีการเสนอแก้ไปแล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งอนุมัติ โดยจะมีการเอาผิดถึงชั้นสอบสวนและอัยการด้วย ถ้าอัยการสั่งไม่ฟ้องเราจะเข้าไปเยียวยาฟื้นฟูประชาชน พร้อมย้ำว่ากฎหมายเขียนระบุว่าต้องรอให้คดีถึงชั้นสูงสุด จึงจะพิจารณาชดเชยได้ ขณะเดียวกันการเยียวยาในส่วนของสังคม โดยประชาชนเมื่อศาลยกฟ้อง ก็มีเยียวยาทางจิตใจกันอยู่แล้ว"
เมื่อถามว่าสังคมมองว่าไม่คุ้มค่าชดเชยกับที่ติดคุกไป พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องรัฐได้ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย การเยียวยาไม่ได้ตัดสินผู้เสียหายที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดได้ เช่นเดียวกับคดีตากใบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการชดเชย ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ โดยจะมีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายดังนี้ 1.ค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท 2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท 3.ค่าทดแทนการถูกคุมขัง วันละ 500 บาท 4.ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างถูกดำเนินคดี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ตามค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัดที่ประกอบการงาน 5. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินคดี เช่น ค่าทนายความ จ่ายเท่าที่จ่ายจริงตาม แต่ละประเภทคดีที่กฎหมายกำหนด ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินคดี เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
ทั้งนี้ ดีเจแมนถูกจำคุกมาแล้ว 1 ปี 7 เดือน คิดเป็น จำนวน 570 วัน หากคณะกรรมการฯพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือ ก็จะได้รับ (1) ค่าถูกคุมขัง 570 x 500 = 287,500 บาท (2) ค่าขาดประโยชน์ฯ ช่วงที่ 1 ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ปี 2566 จำนวน 209 วัน x 353 บาท = 73,777 บาท ช่วงที่ 2 ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ปี 2567 จำนวน 361 วัน x 363 บาท = 131,043 บาท (3) ค่าทนายความ 75,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 564,820 บาท
สำหรับน.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย ถูกจำคุกมาแล้ว 191 วัน หากคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือก็จะได้รับ (1) ค่าถูกคุมขัง 191 x 500 = 95,500 บาท (2) ค่าขาดประโยชน์ฯ ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ปี 2566 จำนวน 191 วัน x 353 บาท = 67,423 บาท (3) ค่าทนายความ 75,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 237,923 บาท
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ เป็นการตัดสินในศาลชั้นต้น โดยโจทก์มีระยะเวลา 30 วันในการยื่นอุทธรณ์ หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ไม่มีฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์จึงจะถือว่าคดีถึงที่สุด จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย
พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ
เอาแล้ว! อสส.ร่อนหนังสือด่วนถึง ‘ทวี’ ส่อขัดรธน.-แทรกแซงตุลาการปมนิรโทษฯบุกรุกป่า
16 ตุลาคม 2568 - ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง (พ.ร.บ.)นิรโทษกรรมแก่ราษฎร
ป.ป.ช. ยังเดินหน้าสอบคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงปมฮั้ว สว.
รองเลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี สว.ยื่นเรื่องกล่าวหานายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม คดีกล่าวหาแทรกแซงฮั้ว สว. ว่า อาจแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
'รมว.ยุติธรรม' ยืนตามความเห็น 'ทวี' ยกฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษทักษิณ
จากกรณี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เสร็จ เกี่ยวกับกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เปิดเอกสารลับ 'ทวี' เซ็นตีตกฎีกาคำขอพระราชทานอภัยโทษทักษิณ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้ลงนามเอกสารลับที่ ที่ยธ0703.41307 เรื่อง นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ของนักโทษเด็ดขาดชาย นายทักษิณ ชินวัตร ถึง นายกรัฐมนตรี
ความภักดีที่ไม่เผื่อเหตุผล เรื่องราวของทวีและภูมิธรรม
ในสังคมไทยคำว่า “บุญคุณ” มักถูกเล่าผ่านถ้อยคำงดงาม แต่เมื่อความภักดีเอ่อล้นจนไม่เหลือที่ว่างให้เหตุผล เรื่องของทวีและภูมิธรรมจึงดูคล้ายตำราที่ไม่มีใครตั้งใจเขียน


