16 ม.ค.2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พานาย หยาง ไห่ เทา พ่อของนาย หยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ช่วยเร่งรัดติดตามตัวลูกชายหลังถูกรับเชิญมาถ่ายภาพยนตร์ที่ประเทศไทย
พ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี เล่าว่าลูกชายเดินทางมา ประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ปีที่แล้ว โดยขึ้นเครื่องจากปักกิ่งมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยครั้งล่าสุดที่ได้พูดคุยกับลูกชาย คือวันที่ 29 ธ.ค. ลูกชายวีดีโอคอลผ่าน WeChat มาหาแม่ ซึ่งลักษณะการพูดคุยเหมือนคนวิตกกังวล อยู่ในอาการตกใจ อีกทั้งยังเห็นรอยช้ำบริเวณดวงตา ซึ่งพ่อคิดว่าลูกชายอาจถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนั้นยังเห็นความผิดปกติอีกอย่างคือลักษณะท่าทางการวางมือขณะพูดคุย เห็นว่าลูกชายวางมือบนโต๊ะตลอด ไม่ได้ถือโทรศัพท์เหมือนเวลาวิดีโอคอลคุยกันทั่วไป จึงคิดว่าอาจมีคนถือโทรศัพท์ให้ เมื่อถามว่าในระหว่างที่พูดคุยกันลูกชายมีการขอความช่วยเหลือหรือไม่ ผู้เป็นพ่อบอกว่าลูกไม่ได้พูดขอความช่วยเหลือ หรือส่งสัญญาณใดๆ โดยเชื่อว่าขณะนั้นอาจมีคนจับตาและถูกควบคุมตัวอยู่
พ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี กล่าวว่า เบื้องต้นทั้งครอบครัวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้รับเรื่องและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามตัวลูกชายแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และไม่รู้ว่าลูกยังอยู่ในไทยหรือออกนอกประเทศ ทำให้ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงมาก โดยพิกัดล่าสุด หยาง เจ๋อ ฉี มีข้อมูลโลเคชั่นส่งให้แฟนสาวและเพื่อนในกลุ่มพบว่าพิกัดไปอยู่แถว อ.พบพระ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่ไม่รู้ว่าข้ามแม่น้ำไปชายแดนแล้วหรือไม่ ส่วนในโซเชียลก็ยังไม่มีการอัพเดทข้อมูลใดๆ
พ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี กล่าวอีกว่า ลูกชายเพิ่งเคยเดินทางมารับงานต่างประเทศครั้งแรก โดยมีการติดต่องานทางโซเชียลว่าเป็นงานบันเทิงของไทย ตอนแรกที่ลูกมาทำงานประเทศไทยก็ไม่เป็นห่วงเพราะคิดว่าประเทศไทยปลอดภัย เวลามาเที่ยวก็รู้สึกว่าคนไทยให้ความต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นมิตร แต่พอลูกหายไปก็รู้สึกเป็นห่วงจึงอยากขอให้ทางรัฐบาลและตำรวจช่วยตามหาลูกชาย
ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า เรื่องนี้มีคนไทย คนจีน รวมไปถึงคนเมียนมามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากรูปถ่ายที่ตรวจสอบมา หยาง เจ๋อ ฉี มีการถ่ายทะเบียนรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวมีการจดทะเบียนในประเทศไทย หากตำรวจไปตามทะเบียนรถ ตามเจ้าของรถ เชื่อว่าก็จะตามสืบได้บ้าง และทำให้ขยายผลต่อได้ โดยสิ่งที่คาดหวังอยากให้ทางรัฐบาลไทย หรือจีน หรือเมียนมา ประสานงานและร่วมมือกันในการที่จะติดตามคดีนี้ เพราะเป็นคดีที่เป็นผลเกี่ยวเนื่องกันทั้งสามประเทศ หากประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ให้ความร่วมมือ ก็อาจจะทำให้การดำเนินคดียากขึ้น จึงอยากฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามคดีนี้
"หลักฐานที่มีขณะนี้ มีภาพถ่ายที่เห็นทะเบียนรถ โดยพบว่ามีรถรับส่ง 2 คัน คันแรกรับจากสุวรรณภูมิแล้วไปเปลี่ยนรถก็ไม่ทราบว่าที่ไหน และมีภาพต่างๆที่ทาง หยาง เจ๋อ ฉี ถ่ายส่งเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อของ หยาง เจ๋อ ฉี ได้นำหลักฐานส่วนนี้ให้ตำรวจหรือยัง"ทนายรัชพล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ครม. เห็นชอบต่อใบอนุญาตทำงานให้คนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ
ทหารยกระดับคุมเข้มชายแดนไทย-เมียนมา ป้องรุกล้ำอธิปไตย
ทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจรามนู กองกำลังนเรศวร พร้อมอาวุธปืนหนัก-รถยานเกราะ นำกำลังพลออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และวางกำลังตามจุดล่อแหลม
อย่าลงทะเบียนผ่านเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ แนะ 3 ช่องทางขอเงินคืนจาก ปปง.
รัฐบาลย้ำ ปปง. ไม่มีระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทางเฟซบุ๊ก-ติ๊กต็อก-ไลน์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อลงทะเบียนขอรับเงินคืน แนะ 3 ช่องทางที่ถูกต้อง
ทหารเมียนมาเปลี่ยนจุดบึ้ม 'เคเคปาร์ค' ส่วนตึก 5 ชั้นเอียงใกล้ถล่ม
ทหารเมียนมาร่วมกับกะเหรี่ยงกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF.) พันธมิตรของทหารเมียนมา ยังคงเดินหน้าวางระเบิดทำลายอาคาร สำนักงานในพื้นที่เมืองเอ่งจี่เหมี่ยง


