20 ก.พ.2568 - พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์รอง ผบช.น. / รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. , ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) และ บก.สส.บช.น.ร่วมกันปฏิบัติการ “ทลายรังบอสสแสกมเมอร์ฟิวแฟน” นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ ค.101/2568 ลงวันที่ 19 ก.พ. 68 เข้าตรวจค้นบ้านในโครงการหมู่บ้าน บางนา กม.7 ซ.ราชวินิตบางแก้ว ถ.บางนา-ตราด จ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
จับกุม 1.Miss.ZHOU ZHOU อายุ 29 ปี สัญชาติจีน (เป็นบอสสแกมเมอร์ฟิวแฟน-หลอกลงทุน) ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร” 2.น.ส.อลิษา อายุ 31 ปี 3.นายสุกฤษฏิ์ อายุ 26ปี 4.นางสาวอาทิตยา 5.นายสุเชษฐ์ อายุ 40 ปี
พร้อมของกลาง 1.บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี 2.บัตรเดบิต 70 ใบ 3.ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม 4.โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง (พบข้อมูลสำคัญจำนวนมาก) 5.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ต 1 เครื่อง 6.รถยนต์โตโยต้า ยาริส 1 คัน (ใช้รับส่งธุระจัดหาคนเปิดบัญชี)
ในการจับกุมครั้งนี้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ได้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่าการหลอกลวงรูปแบบ “ฟิวแฟนสแกมเมอร์” ถือเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายเป็นอันดับ 1 ล่าสุด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. / รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. แกะรอยข้อมูลจากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งถูกหลอกลวงแล้วได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พระโขนง โดยแผนประทุษกรรมจะปลอมโปรไฟล์แล้วสนทนา “ฟิวแฟน” ให้เหยื่อหลงรัก ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านค้า Tiktok ของสิงคโปร์
จากนั้นจะลวงให้ทำภารกิจโดยการให้กดออเดอร์โดยให้เหยื่อออกเงินไปก่อน หลังเหยื่อทำภารกิจครั้งแรกสำเร็จก็ได้รับเงิน ทำให้เหยื่อตายใจ หลังจากนั้นต้องเพิ่มยอดเงินมากขึ้น ซึ่งต่อมาก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้ โดยมิจฉาชีพอ้างว่าเป็นเพราะเหยื่อกดออเดอร์ล่าช้า ต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกจึงจะถอนเงินในระบบได้ อันเป็นแผนประทุษกรรมของฟิวแฟนสแกมเมอร์
พล.ต.ต.ธีรเดช แกะรอยเส้นทางการเงินจนพบว่าเงินที่แก๊งสแกมเมอร์นี้หลอกลวงได้แล้วท้ายสุดจะนำไปเข้าสู่ระบบแปลงเงินออกเป็นเหรียญดิจิทัล ผ่านช่องทางแอ๊พพลิเคชั่น บ. ชื่อดังในเมืองไทย
ต่อมา พ.ต.ท.บดินทร เพ็ญสูตร สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT แกะรอยจนพบ Miss.ZHOU (สงวนนามสกุล) หรือ “บอสโจว” สาวหล่อหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์นี้ ซึ่งเจ้าตัวใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายในประเทศไทย เปิดเซฟเฮ้าส์รังรักพลอดรักอยู่กับ น.ส.อลิษา (สงวนนามสกุล) หรือ “เล็ก” ครูสาวชาวไทยที่พึ่งลาออกจากการเป็นครูผันตัวมาเป็น “ซ้อบอส” ได้ไม่นาน
โดยภายในเซฟเฮ้าส์ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นรังรักของทั้งสอง แต่ยังเป็นด่านเงินสุดท้าย ที่แก๊งสแกมเมอร์จะให้ระดับหัวหน้ามาทยอยโยกเงินออกไปเป็นบิตคอยน์ที่บ้านหลังนี้ จึงนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวไว้ได้
จากการขยายพบการจับกุมทั้งสองก็พบว่าภายในเซฟลับนี้ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกแต่ไม่ได้อยู่ในบ้านเพราะกำลังออกไปพาคนไปเปิดบัญชี
พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังออกติดตามไปจนพบ นายสุกฤษฏิ์ และ นางสาวอาทิตยา กำลังรับนายสุเชษฐ์ เปิดบัญชีไปสแกนหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ม.รามคำแหง 2 จึงได้จับกุมตัวทั้ง 3 คน ไว้ทันที
จากการตรวจค้นพบ บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี , บัตรเดบิต 70 ใบ , ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม , โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง , คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ต 1 เครื่อง ก่อนจะขยายผลทราบว่าภายในบ้านนี้เป็นรังลับที่แก๊งสแกรมเมอร์ฟิวแฟนใช้เป็นที่ตั้งในการทำบัญชี โดยจัดหาคน เป็นธุระ ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร บัญชีวอลเล็ต Bitkub , True wallet ก่อนจะนำมาใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงและนำเงินที่ได้แปลงเป็นเงินดิจิตัล โดยมี Miss.ZHOU (บอสทอม) เป็นบอสคอยสั่งการ ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดที่ตรวจพบความเชื่อมโยงในระบบการรับแจ้งความออนไลน์(Case ID) รวมทั้งสิ้น 132 Caseid มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท
ในชั้นจับกุม Miss.ZHOU (บอสทอม) ยังคงให้การภาคเสธ โดยให้การว่า จะมีบอสอีกคนซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน คอยดูแลออฟฟิศสแกมเมอร์ ส่วนตนนั้นมาฝังตัวอยู่ในประเทศไทยเพื่อคอยจัดการเรื่องการทำบัญชีและเส้นทางการเงินที่ได้จากการหลอกลวง โดยบอสในฝั่งเพื่อนบ้านจะคอยโอนเงินไทยมาให้ตนเพื่อไปเป็นธุระจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าและเปิดวอลเล็ต Bitkub พร้อมกับผูกไว้ในโทรศํพท์แบบพร้อมใช้ และอีกหน้าที่คือบอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะโอนเงินมาให้ตนที่ถือบัญชีม้าวอลเล็ตม้าเหล่านี้
ก่อนให้ตนนำไปแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล แล้วให้โอนสับหลอกเจ้าหน้าที่ก่อนส่งกลับไปยังบอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้แอปพลิเคชั่น Bitkub ส่วน น.ส.อลิษา เป็นแฟนสาวของตน ตอนแรกเป็นครูแต่ตนได้ชักชวนให้มาทำงานด้วยเพราะพูดภาษาไทยไม่ได้ แฟนสาวจะทำหน้าที่คอยตอบแชทและจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าให้ โดยกระบวนการจะไม่เปิดแค่บัญชีธนาคาร แต่จะเปิดบัญชีวอลเล็ตของ Bitkubด้วย”
ในชั้นจับกุม น.ส.อลิษา ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองพึ่งลาออกจากการเป็นครูที่โรงเรียนชื่อดังใน ซ.ลาซาน จ.กรุงเทพฯ โดยที่ลาออกเพราะ Miss.ZHOU ซึ่งเป็นแฟนของตนชักชวนให้ลาออกและมาช่วยงานเต็มตัว โดยตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย Miss.ZHOU จะรู้เรื่องทั้งหมด”
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า “จากการขยายผลเรามีพยานหลักฐานยืนยันว่า Miss.ZHOU และ น.ส.อลิษา เป็นระดับหัวหน้าสั่งการในประเทศไทย คอยจัดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและวอลเล็ตเงินสกุลดิจิตัล เพื่อใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงของแก๊งสแกมเมอร์ฟิวแฟน และยังโดยจะคอยแปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงจากเงินบาทแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล แม้ว่าทั้งสองยังคงให้การไม่เต็มที่ แต่เรามีพยานหลักฐานมัดแน่นและของกลางที่เราตรวจพบในบ้านแห่งนี้ถูกนำไปใช้หลอกลวงพัวพันกับระบบฐานข้อมูลรับแจ้งรวมทั้งสิ้น 132 เคส Caseid มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
'อนุทิน' รับรู้จัก 'เบน สมิธ' แต่ไม่สนิท ชี้ภาพเก่า 10 ปี รู้อยู่แล้วใครปล่อย
“อนุทิน” รับรู้จัก “เบนสมิท” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน ชี้ภาพที่เห็นออกเป็นรูปเก่า10ปี บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ไทย รับเป็นเหตุต้องพ้น มท. 1 โต้ “โรม” รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


