"3 หุ้นส่วนคนไทย" นอมินีบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ดอดมอบตัวดีเอสไอ หลังศาลอาญาออกหมายจับคดีนอมินี ด้านชุดสอบสวนฯ เตรียมเค้นประเด็นสอบเข้ม ปมนั่งนอมินีถือหุ้นอำพราง
21 เมษายน 2568 - ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 นำโดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ (ปพ.) ร่วมกันควบคุมตัว นายชวนหลิง จาง (Mr.Chuanling Zhang) สัญชาติจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับศาลอาญาที่ 2389/2568 ลงวันที่ 18 เม.ย.68 ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการ หรือต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ไปยื่นคำร้องฝากขังผัดแรกต่อศาลอาญารัชดาภิเษก ขณะที่ 3 กรรมการคนไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ ฯ ประกอบด้วย นายประจวบ ศิริเขตร นายมานัส ศรีอนันท์ และนายโสภณ มีชัย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว หลังจากสืบทราบแหล่งกบดาน ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21เม.ย.68 14.00 น. ที่ ห้องสำนักงานรองอธิบดีดีเอสไอชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ในบรรดา 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ปรากฏว่าทั้ง 3 กรรมการฯ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว คือ นายมานัส ศรีอนันท์ ผู้ถือหุ้น 0.0003% นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้น 10.2% และนายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 40.7997% ซึ่งจากการสอบสวนของดีเอสไอ ชัดเจนว่าทั้ง 3 รายไม่ได้อยู่ในสถานะเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ และไม่มีวิชาชีพเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องในด้านงานวิศวกรรมก่อสร้าง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีนายมานัส ศรีอนันท์ ยังพบว่ามีการไปถือหุ้นนิติบุคคลอีก 10 บริษัท คือ1.บจก.ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป ถือหุ้น 25.5% (ไทย 51% จีน 49%) 2.บจก.วีล มาร์ท (ประเทศไทย) ถือหุ้น45.03% (ไทย 54.1% จีน 45.9%) 3.บจก.สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ ถือหุ้น 12% (ไทย 63% จีน 37%) 4.บจก.เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) ถือหุ้น 62.48% (ไทย 99.95% จีน 0.05%) 5.บจก.เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้น 52.1% (ไทย 80% จีน 20%) 6.บจก.สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) ถือหุ้น 31% (ไทย 51% จีน 49%) 7.บจก.เลนเยส อี-พาวเวอร์ ถือหุ้น 51% (ไทย 51% จีน49%) 8.บจก.สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต ถือหุ้น48% (ไทย 58.7% จีน 41.3%) 9.บจก.สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ ถือหุ้น 70% (ไทย 100%) และ 10.บจก.โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส ถือหุ้น 40% (ไทย 100%)
กรณีนายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 407,997 หุ้น (40.7997%) และยังพบว่ามีการไปถือหุ้นนิติบุคคลอีก 4 บริษัท คือ1.บจก.ไฮห่าน ถือหุ้น 51% (ไทย 51% จีน 49%) 2.บจก.ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป ถือหุ้น 25.5% (ไทย 51% จีน 49%) 3.บจก.สยามไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ ถือหุ้น10% (ไทย 100%) และ 4.บจก.ไซเบอร์ เทเลคอม ถือหุ้น 60% (ไทย 100%)
กรณี นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้น 102,000 หุ้น(10.2%) และยังพบว่ามีการไปถือหุ้นนิติบุคคลอีก 7 บริษัท คือ 1.บจก.วีล มาร์ท (ประเทศไทย) ถือหุ้น9.08% (ไทย 54.1% จีน 45.9%) 2.บจก.สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ ถือหุ้น 12% (ไทย 63% จีน 37%) 3.บจก.เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) ถือหุ้น 37.48% (ไทย 99.95% จีน 0.05%) 4.บจก.เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ถือหุ้น 27.9% (ไทย 80% จีน 20%) 5.บจก.สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) ถือหุ้น 20% (ไทย51% จีน 49%) 6.บจก.สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต ถือหุ้น 7.71% (ไทย 58.7% จีน 41.3%) 7.บจก.โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส ถือหุ้น 30% (ไทย 100%)
จากนั้นทนายความของนายมานัส ศรีอนันท์ ได้เดินทางนำเอกสารชี้แจงข้อมูลเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับผู้สื่อข่าว ว่า ตนเองเป็นทนายความให้นายมานัส โดยนำเอกสารมาชี้แจง เบื้องต้นทราบว่าวันนี้มาทั้ง 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ยืนยันว่าทั้ง 3 รายไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ขอให้ตนได้เข้าไปรับฟังข้อมูลและนำเอกสารไปชี้แจงก่อน และจะชี้แจงอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าวันนี้ได้นำหลักทรัพย์ประกันตัว รวมถึงจะใช้ข้อมูลหักล้างอย่างไรเมื่อข้อมูลของดีเอสไอชี้ว่าทั้ง 3 รายถือหุ้นอำพราง ด้านทนายความปัดตอบพร้อมเดินเข้าห้องสอบสวนไปก่อน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิผู้ต้องหา พร้อมสอบปากคำ 3 กรรมการฯ ตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว เดินเข้าห้องสำนักงานรองอธิบดีฯ เพื่อทำบันทึกจับกุมผู้ต้องหา อ่านหมายศาลอาญาและ พฤติการณ์แห่งคดีให้ผู้ต้องรับฟัง โดยมีทนายความรับฟังอยู่ด้วย พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค รองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีฮั้วประมูลฯ เข้าร่วมสอบสวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ดีเอสไอ' ยันสำนวนคดีฮั้วเลือก สว. จะส่งถึงประธาน กกต. ภายในปี 68
"ดีเอสไอ"ยัน สำนวนคดีฮั้ว สว. ในมือ “7 อรหันต์“ จะส่งถึงประธาน กกต.ภายในปี 68 หลังเตรียมสรุปสำนวนพร้อมความเห็นไต่สวนมากกว่า 200 ราย ให้ ”กกต.“ พิจารณากลางเดือน ก.ค.นี้ เผยพยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงินกลุ่มแรก ทยอยเข้าให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน
ดีเอสไอ ทลายแก๊งรีดหัวคิวแรงงานกัมพูชา เงินสะพัด 700 ล้าน
ดีเอสไอบุกค้น 4 จุดกลางกรุง ทลายขบวนการรีดหัวคิวแรงงานกัมพูชาเรียกเก็บเพิ่มหัวละ 2,500 บาท เงินหมุนเวียนทะลุ 700 ล้านบาท
'ภูมิธรรม-ทวี' ลุ้นอีกเฮือก! ศาลรธน. รอหลักฐาน กกต. ปมใช้ดีเอสไอแทรกแซง กลั่นแกล้ง สว.
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) โดยกล่าวอ้างว่านายภูมิธรรม เวชยชัย
ดีเอสไอ เร่งสอบโรงงานซินเคอหยวน สตีล ปมครอบครองฝุ่นแดงวัตถุอันตราย 6 หมื่นตัน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องการครอบครองฝุ่นแดงของบริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด
นายกฯ สรุปเหตุตึกสตง.ถล่ม พบออกแบบ-วิธีก่อสร้างบกพร่อง ส่งข้อมูล 'ดีเอสไอ-ตร.' ชี้ใครผิด
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว
ป.ป.ช. มีมติตั้งกรรมการไต่สวน 'ทวี-ดีเอสไอ' จงใจกลั่นแกล้ง สอบคดีฮั้วเลือกสว.
ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวน ข้อร้องเรียน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ