'รมว.พม.' สั่งเร่งสอบจนท.รัฐพัวพันค้ากามเด็กที่สุราษฎร์ฯ ให้ได้ความจริงเร็วที่สุด

5 พ.ค.2565 - ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอล โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ พิษณุโลก นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.ได้เดินทางมา เปิดโครงการพัฒนาคนทุกช่วงวัยในจังหวัดพิษณุโลกอย่างมีคุณภาพฯ กิจกรรมครอบครัววิถีใหม่สู่สังคมเข้มแข็ง รุ่นที่ 5 เพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ

จากนั้นนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.ได้เปิดเผยกรณีที่เป็นข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ที่ จ.สุราษฏร์ธานี เรื่องนี้ ให้ความสำคัญ ท่านปลัดฯ สั่งการให้ท่านอธิบดีกิจการเด็กและเยาวชนไปแล้ว จะมีการดำเนินการ 2 ส่วนคือ 1 เข้าไปหาข้อเท็จจริง ในที่สุดคงต้องนำผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้ใครไปยุ่งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานได้ ก็ต้องรอให้ผู้เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานเข้ามาที่ท่านปลัด เพราะอำนาจในการย้ายรองอธิบดีฯเป็นของท่านปลัดกระทรวง คงมีได้แค่นี้ แต่ได้ย้ำปลัด ทุกอย่างให้ยึดข้อเท็จจริงไว้ ยึดความถูกต้อง ดำเนินการโดยไม่เว้นว่าจะเป็นใครได้ ต้องให้ความเป็นธรรม ความถูกต้องเกิดขึ้น ทุกคนจะได้เชื่อมั่นในระบบและมั่นใจการทำงาน ของ พม.เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเลยหรือไม่นั้น ให้ไปหาข้อเท็จจริงมาก่อนว่าเป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้วปลัดจะดำเนินการต่อไป แต่เท่าที่ทราบ อำนาจในการย้ายรองอธิบดีเป็นอำนาจของ ปลัดกระทรวง ส่วนอำนาจในการย้ายเจ้าหน้าที่ เป็นอำนาจของอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ฉะนั้นในขั้นนี้เท่าที่ได้ฟังจากรายงาน ทุกท่านบอกว่าจะให้ความสำคัญ คือให้เอาคนออกมาจากนอกพื้นที่ เพื่อให้คนนอกเข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความจริงปรากฏ จะไม่ให้ใครใช้อิทธิพล ปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงอะไรไปได้ ขอให้เชื่อมั่นว่า ผมให้ปลัดกระทรวง และอธิบดีกรม ลงไปดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง

นายจุติกล่าวว่า สำหรับเด็กที่เป็นเหยื่อ ได้รับความคุ้มครองอย่างดี เหยื่อได้รับความคุ้มครองถึงได้นำตัวออกมาจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความหวาดกลัว สำหรับการนำเด็กไปไว้ที่ไหนนั้นขอเป็นความลับ แม้แต่ผมเองยังไม่รู้เลย แต่เรื่องนี้ดังขนาดนี้ ปลัดกระทรวง และ อธิบดีฯ ลงไปดูแลเองขนาดนี้ขอให้เชื่อใจได้ครับ

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะมีเท่าไหนกี่คน คงต้องรอข้อเท็จจริง ผมก็ได้เร่งรัดลงไปแล้วว่าต้องให้คำตอบให้ประชาชนได้มั่นใจ จะไม่มีการถ่วงเวลา ปกปิดข้อเท็จจริงจะไม่มีบิดเบือนข้อเท็จจริง ส่วนจะใช้เวลากี่วันนั้น เร็วที่สุด ก็ขอให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้ได้ก็ยิ่งดี แต่เรื่องนี้ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม เราต้องนึกถึงอกเขาอกเรา จะไม่มีการแบ่งใครเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ใครเป็นเจ้าหน้าที่บริหาร ข้อเท็จจริงจะเป็นการบ่งชี้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออกหมายเรียก 'บิ๊กโจ๊ก' ครั้งที่ 3 หากไม่มาพบจะขอศาลอนุมัติหมายจับ

มีรายงานแจ้งว่าคณะพนักงานสอบสวนในคดีเว็ปพนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ ได้ประชุมคดีและมีมติ ดำเนินการออกหมายเรียกครั้งสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 โดยมีการออกหมายเรียกเป็นที่เรียบร้อยแล้ววานนี้ (27 มี.ค.)

สมาคมนักข่าวฯ ร้องนายกสภาทนาย ขอให้สอบเพิ่ม ปมนักข่าวรับเงินบัญชีม้าเว็บพนัน

นางสาว น.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง เลขาธิการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กมธ.ปราบฟอกเงิน เชิญ ปปง.-ตัวแทนค้าทอง แจงปมคนใกล้ชิด 'บิ๊กโจ๊ก' ขายทอง

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ศาลยกฟ้อง 'พล.ต.อ.ธนา' กับตำรวจชุดคดีเว็บพนันมินนี่ 244 คน หลังลูกน้องบิ๊กโจ๊กยื่นฟ้อง

ศาลอาญาคดีทุจริตฯยกฟ้องชั้นตรวจฟ้อง ‘ธนา ชูวงศ์’ กับ 244 ชุดพนักงานสอบสวนคดีเเก๊งนายตำรวจพัวพันเว็บพนัน หลัง ‘เขมรินทร์ พิสมัย ‘ยื่นฟ้อง ชี้ ที่โจทก์อ้างไม่ได้ทำผิดเป็นข้อต่อสู้ในคดี ไม่ใล่เหตุนำมาฟ้องจำเลยกับพวกระบุ การขอออกหมายจับ ไม่ระบุอาชีพยศ ไม่ใช่สาระสำคัญ

นายกฯ กำชับตำรวจก้าวข้าม 'ต่อ-โจ๊ก' ลั่นไม่ขอยุ่งแล้ว ให้เป็นหน้าที่คกก.ตรวจสอบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ในที่ประชุมได้กำชับเรื่องความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่รู้ข้อเท็จจริง 'ทนายตั้ม' แฉปมส่วยเว็บพนัน แต่ต้องรับผิดชอบคำพูด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ไม่ได้ให้ผู้ใต้บังคับการบัญชาที่เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการโทรศัพท์ไปขอข้อมูลกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก่อนที่ทนายตั้ม