22 ส.ค.2565 - น.ส.ดรุณี สิงห์พงไพร เลขานุการเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำลา อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านใน 3 ตำบลคือสันติคีรี แม่ลาหลวงและแม่โถนับพันคนได้ร่วมกันจัดกิจกรรม“หลือเกอะเจอ จิเปอะเตรอ เกอะจ่า”หรือ “บวชภูเขา บวชป่า สรรเสริญธรรมชาติ” ซึ่งเป็นการแสดงออกในการประกาศเจตนารมณ์ไม่ให้มีการขุดเจาะภูเขาเพื่อทำเหมืองแร่ฟลูออไรด์
ทั้งนี้ได้มีการประกอบพิธีกรรมความเชื่อดั้งเดิม พิธีกรรมศาสนาพุทธ และคริสต์ศาสนา ตามวิถีวัฒนธรรมความเชื่อที่หลากหลายของพี่น้องชาติพันธ์และชนเผ่าพื้นเมืองชุมชนลุ่มน้ำลา ได้แก่ชนเผ่าปกาเกอะญอ ละเวื้อ(ลั๊วะ) ไทใหญ่ และคนเมือง เพื่อศรัทธาร่วมและสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเอาชนะความกลัวปัญหาและอุปสรรคที่กำลังเผชิญ
น.ส.ดรุณีกล่าวว่า กิจกรรมในงานสิ้นสุดด้วยการประกาศเจตนารมร์ โดยระบุว่า ทุกคนร่วมกันบูชาจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ เพื่อสืบทอดคำสอนของบรรพบุรุษที่ให้เรารักป่า รักดิน รักน้ำ และดำรงวิถีชีวิตที่ผูกพัน เกื้อกูล และเคารพต่อธรรมชาติ ผืนป่าและสายน้ำ นับตั้งแต่ที่ได้รับรู้ว่าจะมีโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรด์เข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านห้วยมะกอก ตำบลสันติคีรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำแม่ลาหลวง อันเป็นสายน้ำหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราชาวลุ่มน้ำลามาตลอดตั้งแต่บรรพบุรุษ
“พวกเราได้ร่วมกันเรียกร้องคัดค้านโครงการต่อหน่วยงานของรัฐมาโดยตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะเห็นว่าหากมีการอนุมัติให้ทำเหมืองแร่ฟลูออไรด์ได้ จะมีการขุดเจาะภูเขาและทำลายป่าไม้ อันเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว โดยไม่อาจฟื้นคืนได้อีก แต่เสียงของเรากลับไม่ได้รับการตอบสนองและรับฟังอย่างแท้จริง พวกเขากลับยังคงเดินหน้าดำเนินการเพื่อจะอนุมัติให้มีการทำเหมืองแร่ให้ได้ เราชาวลุ่มน้ำลาจึงขอประกาศเจตนารมณ์ต่อจิตวิญญาณของภูเขา ป่าไม้และแม่น้ำ อันเป็นที่สถิตของดวงวิญญาณแห่งบรรพบุรุษทั้งหลายของเราว่า เราจะร่วมกันต่อสู้คัดค้านโครงการเหมืองแร่ฟลูออไรด์ อย่างเข้มแข็งจนกว่าจะยุติและออกไปจากพื้นที่ของเราตลอดไป”น.ส.ดรุณี กล่าวถึงคำประกาศของชาวบ้าน
ขณะที่นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ (ประเทศไทย) กล่าวว่าการสัมปทานเหมืองแร่ที่สัมพันธ์กับพื้นที่ป่า ซึ่งมีข้อสังเกตว่าพื้นที่ขอสัมปทานเหมืองอยู่ติดกับลำน้ำและเป็นแหล่งต้นน้ำ ซึ่งในกฎหมายแร่กำหนดว่าเส้นทางน้ำกับรัศมีการทำเหมืองต้องอยู่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 50 เมตร และไม่สามารถตั้งในพื้นที่ที่เป็นแหล่งซับซึมของน้ำหรือแหล่งต้นน้ำได้ โดยเวทีรับฟังความคิดเห็นของอุตสาหกรรมฯในวันที่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานั้นไม่ถูกต้องเนื่องจากการทำรายงานเวทีรับฟังความคิดเห็นของอุตสาหกรรมและเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ใช้ประกอบการทำ EIA จะนำมารวมกันไม่ได้ เนื่องจากอยู่คนละกระบวนการ และตามหลักการใช้พื้นที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ก่อน
นายสุมิตรชัย หัตถสาร ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชน กล่าวว่า เครื่องมือที่สามารถใช้ในการต่อสู้ของประชาชนและเป็นสิทธิที่ประชาชนควรต้องได้รับ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อมูลข่าวสาร สิทธิที่จะร้องเรียน สิทธิการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และสิทธิที่จะฟ้องเมื่อไม่ได้รับความยุติธรรม และเสรีภาร ประกอบด้วย เสรีภาพในการแสดงออก หรือแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีบัญญัติอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ เสรีภาพในการรวมกลุ่ม และ เสรีภาพในการชุมนุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุตุฯเตือนไทยตอนบน และภาคตะวันออก รับมือฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด
กสม. ชี้เหมืองแร่นครสวรรค์กระทบชุมชน สั่งผู้ขอประทานบัตร จัดเวที EIA ใหม่ให้โปร่งใส
“กสม." ชี้เหมืองแร่นครสวรรค์กระทบชุมชน สั่งผู้ขอประทานบัตร จัดรับฟังความเห็น EIA ใหม่ เน้นโปร่งใส-ให้ชุมชนมีส่วนร่วมเต็มที่ หลังพบละเมิดสิทธิมนุษยชนจากเหตุวุ่นวายปิดกั้นประชาชน แนะรัฐตรวจมลพิษฝุ่น พร้อมเพิ่มมาตรการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภา
ศาลปกครองสูงสุด สั่งประกาศ 4 จังหวัดเหนือเป็นเขตคุมมลพิษช่วง ก.พ.-พ.ค.
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และแม่ฮ่องสอน


