ภาคประชาชน จี้รัฐคืนความเป็นธรรมให้ 'บิลลี่' นำคนผิดมาลงโทษ อย่าปล่อยลอยนวล

5 ก.ย.2565 - เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนกว่า 20 องค์กร อาทิ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.) เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เป็นต้นได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ “ขอความเป็นอิสระและมืออาชีพ นำคนผิดมาลงโทษ คืนความเป็นธรรมให้บิลลี่(นายพอละจี รักจงเจริญ )และครอบครัว ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์และสังคม

เนื้อหาของแถลงการณ์ระบุว่า ในวันที่ 5 กันยายนนี้ ตามที่มีข่าวว่า มีการนัดหมายส่งตัวนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวมสี่คน ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน คดีฆาตกรรมนายบิลลี่ องค์กรสิทธิมนุษยชนและเครือข่ายฯถือเป็นวันเริ่มต้นที่สำคัญในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบิลลี่ ครอบครัว ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน

นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ไม่ได้กลับคืนสู่ครอบครัวและสังคมอีก จนกระทั่งทางดีเอสไอและอัยการร่วมกันติดตามดำเนินคดีจนถึงขั้นตอนการแจ้งข้อความคดีเจตนาฆ่าต่อนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวมสี่คน ทั้งนี้ องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคม ยังคงต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความเป็นอิสระและมืออาชีพตลอดกระบวนการยุติธรรม เพื่อยุติวัฒนธรรมคนผิดลอยนวลได้อย่างจริงจัง นำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วและไม่ชักช้าไปกว่านี้ ด้วยพยานหลักฐานที่เก็บรวบรวมอย่างมีประสิทธิภาพย่อมจะทำให้สังคมเชื่อมั่นและมั่นใจว่าความเป็นธรรมจะเกิดขึ้น

“การเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีความรุนแรงต่อบิลลี่ ชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน มีอุปสรรคมากมาย นับแต่คดีการเผาทำลายบ้านและยุ้งข้าวของชาวบ้านที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดินไม่คืบหน้ามาเป็นเวลากว่า 10 ปี คดีฆาตกรรมนายทัศน์กมล โอบอ้อม ที่จำเลยคดีจ้างวานฆ่าได้รับการตัดสินยกฟ้องไป คดีการหายตัวไปของนายบิลลี่ คดีฟ้องกลับทนายความของปู่โคอี้ คดีฟ้องกลับนักกิจกรรมผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยงและนักข่าวที่ทำข่าวเกี่ยวกับการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวบ้านบางกลอย เป็นต้น รวมทั้งการไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทเรื่องที่ดินและการดำรงไว้ซึ่งวิถีชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองชาวกะเหรี่ยงในพื้นป่าแก่งกระจานอย่างยั่งยืน”แถลงการณ์ระบุ

แถลงการณ์ได้ระบุข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้หน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตนด้วยความเป็นอิสระและเป็นมืออาชีพเพื่อนำคนผิดมาลงโทษและยุติวัฒนธรรมคนผิดลอยนวล

2.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการคุ้มครองพยานและผู้เสียหายรวมทั้งครอบครัวของบิลลี่ให้สามารถเข้าร่วมการเรียกร้องขอความเป็นธรรมด้วยความปลอดภัยปราศจากการถูกข่มขู่คุกคาม

3.ขอให้ยุติการดำเนินคดีทั้งต่อทนายความผู้รับรับมอบอำนาจจากปู่โคอี้ ที่สภ.แก่งกระจานและต่อนักกิจกรรมผู้อาวุโสชาวกะเหรี่ยงและนักข่าว ในคดีที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี

4.ขอเรียกร้องสื่อมวลชนติดตามข้อมูลและสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาข้อหาเจตนาฆ่านายบิลลี่ด้วยความรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คดีนี้เป็นที่มีความซับซ้อนทั้งทางด้านนิติวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ความรุนแรงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มชาติพันธุ์

5.ขอให้ในการรายงานข่าวนำเสนอข่าวสารให้รอบด้านครอบคลุม โดยเฉพาะการฟังเสียง-ความเห็นของผู้เสียหายและครอบครัวเป็นสำคัญ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อเมืองเพชรบุรี แต่งชุดไทยทรงดำ นำขบวนอัญเชิญพระบรมรูป ร.4 ขึ้นเขาวัง สืบสานตำนาน 'ลาวหามเจ้า'

ที่บริเวณหน้าอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนครคีรี(สนามหน้าเขาวัง) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน

'โบว์' ตั้งคำถามจะมีผลกระทบอย่างไรต่อสถาบัน หาก 'ตะวัน' เสียชีวิตระหว่างฝากขัง

น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตะวันและแฟรงค์ ถูกฝากขังในชั้นสอบสวน ทั้งที่อิสรภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน

รองเลขาฯกสม. ชี้ปมป่วนขบวนเสด็จ การแสดงออกต้องเคารพกฎหมายและสิทธิผู้อื่น

นางหรรษา บุญรัตน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวตอนหนึ่งในการสัมมนาเรื่อง "ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีความสำคัญต่อประเทศ และประชาชนอย่างไร"

แอมเนสตี้ ชี้ออกหมายจับนักข่าวและช่างภาพสั่นคลอนเสรีภาพสื่อ

จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวประชาไท-ช่างภาพอิสระถูกจับกุม วันที่ 12 ก.พ. 2567 เนื่องจากการรายงานข่าวนักกิจกรรมพ่นสีกำแพงวัง เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2566