
16 ก.ย. 2565 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการ และร้านค้าหลายราย พากันออกมาร้องต่อสื่อมวลชนว่ามีชายแต่งกายคล้ายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการแอบอ้างว่าเป็นตำรวจของ สภ.แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามายื่นเอกสารประชาสัมพันธ์การจัดงาน ก่อนจะยื่นบัตรจัดงานแข่งขันฟุตบอลการกุศล เพื่อบังคับให้ซื้อบัตรการกุศลในราคาใบละ 2,000 บาท ซึ่งผู้ที่หลงกลและถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บังคับซื้อบัตรดังกล่าวต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถูกตื้อและออกแนวบังคับให้ซื้อ โดยหลายคนส่งคลิปหลักฐานวงจรปิดให้กับทางผู้สื่อข่าว
ซึ่งจากภาพวงจรปิดหลายแห่งพบว่าจะมีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกเข้ามาถึงในออฟฟิศที่ทำงานตามสถานประกอบการโรงงานต่างๆ รวมถึงร้านค้าริมทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ของอำเภอบางเสาธง แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาจากสถานีตำรวจภูธรบางเสาธง มาเพื่อให้ซื้อบัตรการกุศลในราคาใบละ 2,000 บาท โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาสอบถามหาเจ้าของผู้ประกอบการรายนั้นๆ บางรายเจ้าของไม่อยู่ ก็จะใช้วิธีการโทรติดต่อพูดคุยเพื่อให้ซื้อบัตรดังกล่าว โดยมีการอ้างชื่อของโรงพักแห่งนี้และยังระบุอีกว่ามีคลิปการแถลงข่าวยืนยันการจัดงาน
ล่าสุดช่วงเย็นของวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ไปพบกับผู้ประกอบการรายหนึ่งที่หลงกลและถูกบังคับให้ซื้อบัตร ซึ่งเธออยู่ในพื้นพี่ของอำเภอบางเสาธงและเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยเธอบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีชายสองคนขับขี่รถหรูมาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินลงมาแล้วยื่นเอกสารการจัดงานพร้อมทั้งยื่นบัตรบังคับให้ซื้อจำนวนสองใบ ซึ่งตนเองยังบอกว่าช่วยได้แค่ใบเดียวเท่านั้นเพราะราคาสูงอีกทั้งเศรษฐกิจไม่ดีจึงยอมจ่ายเงินซื้อไปในราคาใบละ 2,000 บาท จำนวนหนึ่งใบ ซึ่งจ่ายเงินด้วยการโอนผ่านทางแอปธนาคารปลายทางระบุชื่อบัญชีของ สภ.บางเสาธง
ขณะเดียวกันยังพบว่ามีผู้ประกอบการอีกจำนวนไม่น้อยที่ออกมาให้ข้อมูลเป็นเสียงเดียวกันว่า ถูกกลุ่มชายที่มาขายบัตรพูดจาเชิงข่มขู่และบังคับให้ซื้อ หากวันใดมาไม่เจอเจ้าของผู้ประกอบการก็จะมาอีกจนกว่าจะพบและขายบัตรได้ในที่สุด ซึ่งบางรายถูกบังคับหรือขอให้ซื้อสูงถึง 10 ใบ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยัง พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง ซึ่งปรากฏชื่อดังกล่าวในบัตรและเอกสาร โดยทางด้าน พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน ผกก.สภ.บางเสาธง ติดราชการไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่ออกมาให้ข้อมูลว่า งานดังกล่าวมีการจัดขึ้นจริง โดยเป็นการจัดงานของ กต.ตร.สภ.บางเสาธง ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยจะมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ ซึ่งจะมีศิลปิน มาร่วมแข่งขัน และร่วมรับประทานอาหาร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ แต่การจัดงานดังกล่าวยืนยันว่าไม่ใช่โครงการโดยตรงของทางสถานีและผู้ที่ออกไปขายบัตรไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เป็นคนในทีมงานของผู้จัดงาน
ยืนยันทาง สภ. ไม่มีนโยบายบังคับให้ซื้อแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเกิดกระแสขึ้นมา ได้สั่งหยุดการขายในพื้นที่ของบางเสาธงทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้เสียหายที่ถูกบังคับให้ซื้อบัตรดังกล่าว หากประสงค์จะแจ้งความทางโรงพักก็ยินดี หรือรายใดที่ซื้อบัตรไปแล้วประสงค์จะขอเงินคืนก็ให้มาติดต่อได้ที่ธุรการของ สภ. เพื่อคืนเงินและล่าสุดสั่งให้หยุดการออกจำหน่ายบัตรดังกล่าวแล้วมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
แม่ค้าผักทรุด! โจรบุกบ้าน กวาดเกลี้ยงทอง-เงินสูญ 6 แสน
พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักทรัพย์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ภายในบ้านพักเลขที่ 150/18
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
หนุ่มซิ่ง จยย. โชว์ยกล้อ ชนประสานงา จยย. อีกคน ดับ 1 เจ็บสาหัส 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนท้ายบ้าน บริเวณปากซอยราฟาแอล 10 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
ปากน้ำบุกทลายแก๊งลัก จยย. ส่งขายชายแดน จับ 8 ผู้ต้องหา ยึดคืน 20 คัน
ตำรวจสมุทรปราการเปิดยุทธการไล่ล่าขบวนการลักรถรายใหญ่ ตระเวนขโมยหลายพื้นที่ก่อนรวบรวมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ค่าหัวคันละ 20,000 บาท


