'เบตง' อ่วม! ฝนถล่ม-ดินสไลด์

4 พ.ย. 2565 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดยะลารายงานว่า ช่วงค่ำของวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยะรม ได้มอบหมายให้นายแวดอยะ มะลี รองนายก อบต.ยะรม นายราซิดี แดบ๊อก เลขานุการนายก อบต.ยะรม พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่าง และงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ยะรม เข้าตรวจสอบความเดือดร้อนจากอุทกภัย ในพื้นที่หมู่ที่ 3 จำนวน 2 จุด บริเวณใกล้ รพ.สต.บ้านยะรม และหลังมินิมาร์ท และในพื้นที่หมู่ที่ 8 จำนวน 2 จุด บริเวณหลังสนามบินเบตง และข้างโรงอิฐ บ้านบูเก๊ะดาราเซ หลังจากมีฝนตกหนักในช่วงเย็น

ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ กล่าวว่า ได้ประสานในการบูรณาการหน่วยงานพลเรือน เครือข่ายอาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมในการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประขาชน ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มลงมาได้

ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเบตง นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่กองช่าง และเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองเบตง ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน กาแป๊ะ กม.3 ที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ไหลลงมาจากเนินเขา และต้นไม้ล้มกีดขวางการจราจร ริมถนนสุขยางค์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปด่านพรมแดนเบตง ส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลียร์พื้นที่ถนน ตัดต้นไม้ออก พร้อมฉีดน้ำทำความสะอาดจนกลับใช้ถนนได้ตามปกติแล้ว

ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ติดตามสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 4 – 5 พฤศจิกายน 2565 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากภาคใต้ ช่วงวันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน 2565 ได้แก่

1.จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก เกาะสมุย และเกาะพะงัน) 2.จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม เมืองนครศรีธรรมราช สิชล จุฬาภรณ์ ท่าศาลา นบพิตำ พระพรหม เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด หัวไทร และปากพนัง) 3.จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง กงหรา ป่าบอน ศรีบรรพต บางแก้ว และเขาชัยสน) 4.จังหวัดสงขลา (อำเภอหาดใหญ่ กระแสสินธุ์ ระโนด สะเดา สทิงพระ สะบ้าย้อย และสิงหนคร) 5.จังหวัดยะลา (อำเภอยะหา และเบตง) 6.จังหวัดปัตตานี (อำเภอสายบุรี) 7.จังหวัดนราธิวาส (อำเภอจะแนะ ยี่งอ ระแงะ สุไหงปาดี).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชียงใหม่วิกฤต! ฝุ่น PM2.5 ทะลุ 400 เกินค่ามาตรฐาน 22 เท่า

ปํญหาหมอกควันไฟป่าภาคเหนือและเชียงใหม่กลับมาวิกฤต! พุ่งสูงอีกระลอกทะลุ 400 ความเข้มข้น PM2.5 เกิน 22 เท่าค่ามาตรฐาน รั้งอากาศแย่ที่ 5 โลก

กรมอุตุฯ เตือน 47 จังหวัด ระวังอันตรายฝนฟ้าคะนองใน 24 ชม.ข้างหน้า เมฆล้อม กทม.แล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้แล้ว

ระเบิดตูมสนั่น อาคารเก็บวัตถุพยานฯ จังหวัดยะลา

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น ที่คลังเก็บวัตถุพยาน ศูนย์ฝึกอบรมทางยุทธวิธี ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) บ้านบูเกะคละ อำเภอเมือง จังหวัด

คืบหน้าเหตุป่วนหลายจุดเดือนรอมฎอน คนร้ายมุ่งทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ จชต.

จากเหตุการณ์ คนร้ายกลุ่มใหญ่ก่อกวนหลายจุด ในเขตจังหวัดปัตตานี, จ.ยะลา, จ.นราธิวาส และจ.สงขลา สำหรับ จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุมากที่สุด กระจายทั้ง 10 อำเภอ จำนวน 20 จุด ล่าสุดผวจ.ปัตตานี ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ ความเสียหาย เยี่ยมญาติกรณี