ผงะ! ป.ป.ช.ภาค 5 ชี้มูลความผิดอดีตผู้ว่าฯ เมืองแพร่ทุจริต

ป.ป.ช.ภาค 5 แถลงผลการดำเนินคดีชี้มูลความผิดการทุจริตในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ อึ้ง! มีอดีตผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ เมืองแพร่ด้วย รับมีเรื่องร้องเรียนกว่า 400 คดี เกิน 80% สาเหตุจัดซื้อจัดจ้าง

30 พ.ย.2565 - ที่โรงแรมกรีนเลครีสอร์ท จ.เชียงใหม่ นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติภาค 5 (ป.ป.ช.ภาค 5 ) ได้ร่วมกับผู้อำนวยการ ป.ป.ช. 8 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, แพร่, น่าน, พะเยา, ลำปาง, ลำพูน และแม่ฮองสอน ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานชี้มูลความผิดคดีทุจริตที่เสร็จสิ้นการพิจารณาของ ป.ป.ช.รวมทั้งหมด 17 เรื่อง มีมูลค่าเสียหายต่อราชการรวมกว่า 126 ล้านบาท ซึ่งเป็นการชี้มูลความผิดและผลดำเนินงานด้านการป้องกันทุจริต ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มี 2 เรื่องคือ ชี้มูลความผิดนายบุญยืน อนนท์สมิง ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับพวก 4 คน กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 11 ฉบับ และกรณีชี้มูลความผิดนายศิริพัฒน์ กาวิละ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมพวก 7 คน รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นจากบริษัทเอกชน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศึกษาดูงาน

จังหวัดแพร่มีการชี้มูลการทุจริต กรณีกล่าวหานายศักดิ์ สมบุญโต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กับรองผู้ว่าฯและพวก ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, มาตรา 157 กฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2561 ในมาตรา 172 และความผิดวินัยร้ายแรงตามกฎหมาย ก.พ.ปี 2551 มาตรา 82 (2)ประกอบ มาตรา 85(7),85(1)และ มาตรา 85(4) กรณีทุจริตโครงการพัฒนาพืชเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มมูลค่า (ข้าว/ข้าวโพด) และโครงการพัฒนาและวางระบบตลาดกลางสินค้าเกษตรปลอดภัยจังหวัดแพร่ ประจำปีงบประมาณ 2558

จังหวัดเชียงรายชี้มูล 1 เรื่อง กรณีกล่าวหานายชัชวาลย์ ยอดเณร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วน ต.สถาน อ.เชียงของ กับพวกรวม 8 คน ว่ามีการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในโครงการก่อสร้างจำนวน 3 โครงการ

จังหวัดพะเยาชี้มูล 1 เรื่อง โครงการชุดลอกลำห้วยร่องแฟนตอนล่าง ช่วงที่ 1 บ้านน้ำจุนใหม่ หมู่ที่ 10 ต.ลอ อ.จุน จังหวัดพะเยา ผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับการจ้างมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157,162(1)และ(4) กฎหมาย ป.ป.ช.ปี 2561 มาตรา 172

จังหวัดน่าน 2 เรื่อง กรณีกล่าวหานายทา อุปจักร์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อเหลือใต้ ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เรียกรับเงินจากผู้สมัครเป็นพนักงานจ้าง เทศบาลตำบลบ่อเกลือใต้ ประจำปี 2561 และ กรณีการลงพื้นที่ตรวจสอบเสาหลักนำทาง สืบเนื่องจากปรากฏตามภาพข่าวในสื่อสังคมออนไลน์และข่าวโทรทัศน์ว่า มีการนำเสาหลักนำทางยางพาราที่มีแกนกลางเป็นไม้ไผ่ติดตั้งบนทางหลวงในพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งสังคมให้ความสนใจถึงความโปร่งใสในการดำเนินงานดังกล่าว ต่อมาเมื่อ
วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ป.ป.ช. ประจำจังหวัดน่านพร้อมด้วยเครือข่ายภาคประชาชนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรับทราบข้อเท็จจริงพบราคากลางสูงเกินจริง ณ สำนักงานทางหลวงที่ 1 เรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการ

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 1 เรื่อง กรณีกล่าวหานายจรัส พรมมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮองสอน กับพวกรวม 3 คน ว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหนาที่ราชการเข้ามีส่วนร่วมได้เสียโครงการก่อสร้าง 7 โครงการ ศาลมีคำพิพากษาแล้วเมื่อ 30 มิ.ย.2565

จังหวัดลำพูน กรณีศาลมีคำพิพากษาจำนวน 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษา อดีตเจ้าหน้าที่การเงินยักยอกเงินบำรุงการศึกษาของโรงเรียนวชิรป่าซาง ให้จำคุก 6 ปีปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 ปี และปรับ 20,000 บาท โดยรอการลงอาญาโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี และเรื่องที่ 2 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษา อดีตนายกเทศนตรีตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน กรณีเรียกรับเงินจากผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างเมรุเผาศพ จำนวน 4 โครงการ มี ความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด การกระทำความผิด 5 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 10 ปี 30 เดือน โดยยกฟ้องจำเลยที่ 2 และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาอดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดพูน ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้นโดยไม่แสดงทรัพย์ 5 รายการ พิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท รอการลงโทษจำคุก 1 ปี

และจังหวัดลำปาง เรื่องที่ได้รับข้อมูลจากศูนย์ป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช.ลำปาง เสนอตั้งไต่สวนผู้เกี่ยวข้องแล้ว กับโครงการก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัดลำปาง 8 ปีไม่แล้วเสร็จ โครงการภายใต้การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยกับกรมทางหลวง ที่กำหนดก่อสร้างตั้งแต่ปี 2557 ใช้งบประมาณ 107,844,000 บาท ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ป.ป.ช.ลำปาง ตรวจสอบในเบื้องต้นได้สรุปข้อเท็จจริง เสนอคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้รอ ป.ป.ช.พิจารพิจารณามอบหมายคณะไต่สวนต่อไป

ทั้งนี้ในภาพรวมทั้ง 8 จังหวัดพบว่า มีการร้องเรียนการทุจริตรวมกว่า 800 กรณี เข้าสู่กระบวนการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงกว่า 400 คดี เกิน 80% เป็นเครื่องทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับประโยชน์หรือเงินทอน ซึ่งสถานการณ์ยังมีร้องเรียนมากขึ้นจากมาตรการส่งเสริมให้ประชาสังคมมีส่วนร่วมตามแนวทาง Strong ซึ่งแนวทางและกฎหมายใหม่ทาง ป.ป.ช. ภาค 5 เตรียมการยกระดับธรรมาภิบาลของหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 พร้อมเร่งรัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตเพื่อยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 2565 นี้เช่นเดียวกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มท.2 ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจตลิ่งริมแม่น้ำอิง ก่อนสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมด้วย นางสาวพรพิมล ธรรมสาร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมเกียรติ กิจเจริญ คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเอกภพ เพียรพิเศษ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

"รมช.สุรศักดิ์" ลงพื้นที่เมืองเชียงราย​ ลุย​ รับฟังสภาพปัญหาอุปสรรคจากหน่วยงานทางการศึกษา​ ก่อนนำข้อมูลเสนอต่อ​ที่ประชุม​ ครม.

เมื่อวันจันทร์​ ที่ ​18 มีนาคม 2567 นายสุรศักดิ์​ พันธ์​เจริญ​ว​ร​กุล​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนการประชุม​ ครม.สัญจร​ ณ โรงเรียนวัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย​ โดยมี​ นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ประจำนายอนุทิน ชาญวีรกูล)