เดือดตำรวจเปิดศึกชาวบ้าน กร่างลั่นร้านอาหารสงขลา โดนยิงตาย 1 บาดเจ็บ 2

ศึกเดือดกลางร้านอาหารสงขลา ชาวบ้านดวลปืนตำรวจกร่าง เขม่นพูดเสียงดึง ยิงตาย 1 บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนขับรถกลับบ้านพาลูกไปส่ง

15 ม.ค.2566   เมื่อเวลาประมาณ 02.40 น. ร.ต.อ.มารุต นิลโกสีย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สิงหนคร จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุกันที่ร้านอาหารโต้รุ่งดับเพลิงสิงหนคร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ชิงโค อ.สิงหนคร ซึ่งอยู่ติดกับสถานีดับเพลิงของเทศบาลเมืองสิงหคร หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก., พ.ต.อ.ครรชิต นัครามนตรี รอง ผกก.สืบสวน  และเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9

เบื้องต้นทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย นายคเชนทร์ กาฬกุญชร แต่เสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นางปราณี นิลพันธ์ บาดเจ็บ และ ด.ต.ณรงค์ศักดิ์ อรน้อม บาดเจ็บ โดยทั้งคนตายและคนเจ็บอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ส่วนกลุ่มคนร้ายทราบว่ามี 3 คนและมีเด็กรวมอยู่ด้วย

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ภายในร้าน 6 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 ซึ่งปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ที่ริมกำแพงนอกร้านอีก 10  ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนพยานแวดล้อมในเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายที่ยิงพร้อมลูกชายและเพื่อนรวม 3 คน  ได้มานั่งทานอาหารที่ร้านอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ตายประมาณ 6 คน เข้ามานั่ง หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เกิดมีปากเสียงกันจากเรื่องที่กลุ่มผู้ตายพูดเสียงดังและพูดเตือนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจจนบานปลายมีปากเสียงและยิงกันขึ้น

 คนร้ายจึงได้เดินออกจากร้านไปที่รถยนต์กระบะที่จอดอยู่ข้างร้านและหยิบเอาอาวุธปืนที่อยู่ในรถซึ่งเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ตายกับพวก โดยกลุ่มผู้ตายก็ได้ชักอาวุธปืนยิงตอบโต้ไปด้วยทำให้คนยิงขึ้นรถกระบะขับหลบหนีออกไป สิ้นเสียงปืนฝ่ายตำรวจกับพวกถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 3 ราย ส่วนคนร้ายไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

หลังเกิดทาง พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ จันทรอาภา รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ซึ่งควบคุมคดีนี้พร้อมชุดสืบสวน 4 หน่วยทั้งชุดสืบสวน สภ.สิงหนคร ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และตำรวจกองปราบได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมทั้งฝั่งตำรวจที่ถูกยิงและฝั่งคนร้าย ในส่วนของคนร้ายที่เป็นคนยิงนั้นซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใครกำลังอยู่ระหว่างรวบรวบพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ

ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านคนยิงและพบกับลูกชายวัย 12 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าก่อนเหตุพ่อพาไปเลี้ยงข้าวเนื่องในวันเด็กที่ร้านอาหารแห่งนี้พร้อมกับเพื่อนพ่ออีก 1 คน ต่อมาอีกฝ่ายได้เข้ามานั่งดื่มกินกันที่โต๊ะข้างๆจนเมาและพูดเสียงดัง และพ่อได้พูดเตือนไปว่าอย่าเสียงดัง แต่อีกฝ่ายพูดสวนมาว่าเสียงดังไปเลยไม่ต้องกลัว และอีกฝ่ายจะลุกมาต่อยพ่อแต่เพื่อนได้ห้ามไว้ พร้อมกับลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะเพื่อขอโทษพ่อแต่กลับมาตบพ่อ ซึ่งตอนนั้นพ่อพูดกลับไปว่าผมกลับดีกว่าผมไม่มีอะไร และลุกขึ้นเดินไป

 แต่ก็ถูกอื่นฝ่ายเดินตามมาถลกเสื้อพ่อดูว่ามีปืนมีหรือไม่  พ่อจึงสะบัดอีกฝ่ายก็ใช้ให้เพื่อนขึ้นลำปืน พ่อจึงเดินกลับไปที่รถและบอกให้ตนเองเดินไปรอที่ถนนจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ก่อนที่พ่อจะขับรถออกมารับและพามาส่งที่บ้านให้ตนเองเข้าไปนอนและขับรถออกจากบ้านไป

 อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้แม้ว่าอีกว่าจะเป็นชาวบ้านและอีกฝ่ายจะมีตำรวจร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ ทาง พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้สั่งการให้สอบสวนและดำเนินคดีไปตามข้อเท็จจริงเพื่อให้ความธรรมกับทั้งสองฝ่าย.     

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับหนุ่มลวงเด็ก 9 ขวบถ่ายคลิปอนาจาร บังคับเหมือนทาส พบเหยื่อกว่า 30 คน

ตำรวจแถลงข่าวจับกุมหนุ่มใหญ่ภัยสังคม เจ้าของกลุ่มลับ Telegram ลวงเด็กถ่ายคลิปโป๊ บังคับเหยื่อตกเป็นทาส สั่งถ่ายคลิปหวิว

ตร. เร่งตรวจสอบต้นตอป้ายโฆษณาซื้อขายสัญชาติ เล็งเพิกถอนวีซ่าคนว่าจ้าง

พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีพบป้ายโฆษณาภาษาจีน รับจ้างซื้อขายสัญชาติอินโดนีเซีย วานูอาตู กัมพูชา และตุรกี พร้อมพาสปอร์ต บริเวณแยกห้วยขวาง ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไ

ป.ป.ส.ออกบัตร 'ผู้ช่วย' ให้ทหารกวาดล้างยาเสพติด ดีเดย์ 12 มีนาปีหน้า

ที่ทำเนียบนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการร่วมแถลงตรวจยึดยาบ้าเกือบ 3 ล้านเม็ด ที่ จ.มุกดาหาร ว่า

อดีตจเรตำรวจฯ ขอทำเรื่องเฉพาะหน้า ‘เพิ่มเงิน-สวัสดิการตำรวจ’ ก่อนจะไปเปลี่ยนประธาน ก.ตร.

ณะนี้มีการเคลื่อนไหวจะปฏิรูปตำรวจโดยตำรวจเอง หลักๆคือให้นายกรัฐมนตรีไม่เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.  แต่ประธานจะมาจากการเลือกกันเองเหมือนคณะกรรมการข้าราชการอัยการ หรือ ก.อ. กระผม ไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเก่า

‘นักกฎหมายตำรวจ’ ถอดบทเรียน การเข้าระงับเหตุ ลดความสูญเสีย

ด้วยความเคารพความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เสียชีวิต ควรแก่การยกย่องเป็นเกียรติประวัติสืบไป แต่การเข้าระงับเหตุ ของตำรวจไทยมีข้อผิดพลาด ต้องนำไปถอดบทเรียนแก้ไข