
27 ม.ค. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎร ถนนธำรงประสิทธิ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ล่าสุด นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครพนม เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานหาสาเหตุ บริเวณที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวบ้านเช่า 2 ชั้น ลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้ จำนวน 6 คูหา ได้รับความเสียหายทั้งหมด
โดยจากการตรวจสอบ พบบ้านต้นเพลิงคือบ้านเลขที่ 130 ทราบว่าผู้เช่าชื่อนางเถาะ เหงียนถิ อายุ 87 ปี โดยไฟลุกลามไหม้คูหาที่ติดกัน เลขที่ 122-124-126-128 และ 132 เสียหายทั้งหมด เนื่องจากเป็นห้องแถว 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีลุกลามอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และผู้พบเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่า บ้านต้นเพลิงเป็นบ้านเช่าของนางเถาะที่อยู่ลำพังเพียงผู้เดียว ส่วนลูกหลานไปทำงานอยู่ที่อื่น ลูกบางคนก็รับราชการ เนื่องจากพบเห็นไฟลลุกไหม้จากหลังตู้เย็น ก่อนลุกลามอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ กระทั่งมีการประสานระดมรถน้ำดับเพลิงเทศบาลเมืองนครพนม เข้าควบคุมเหตุใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัด แต่ได้รับความเสียหายทั้งหมด คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เก็บหลักฐานเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่

จากการสอบถาม นางเถาะ เหงียนถิ อายุ 87 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าด้วยความระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งอยู่หน้าบ้าน กระทั่งมีเพื่อนบ้านตะโกนเรียกให้ตรวจสอบ พบมีควันพวยพุ่งออกมาจากในบ้านชั้นล่าง จากนั้นเพื่อนบ้านวิ่งเข้าช่วยเหลือ เพราะตนอยู่คนเดียว พบว่ามีไฟลุกไหม้จากปลั๊กไฟหลังตู้เย็น เพื่อนบ้านจึงช่วยกันดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงช่วยเหลือตนออกจากบ้าน โดยไม่ได้นำทรัพย์สินออกจากบ้านเลย
นางเถาะเล่าทั้งน้ำตาว่า ไม่ได้มีเพียงบ้านเช่าที่เสียหายทั้ง 6 คูหาเท่านั้น ยังมีทองคำรูปพรรณน่าจะน้ำหนักมากกว่า 30 บาท และเงินสดอีก 3 ล้านบาท ที่เก็บสะสมไว้มานานหลายปี โดยเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าชั้นบนของบ้าน ขณะนี้ยังรู้สึกตกใจและยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียทั้งทรัพย์สินที่สะสมมาทั้งชีวิต
ด้าน นายสุนทร สุนทรวรพงษ์ อายุ 62 ปี ผู้เช่าบ้านเลขที่ 132 ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่ายอาหารนก เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านที่ติดกับห้องต้นเพลิง ที่มียายวัย 87 ปีอาศัยอยู่คนเดียว ลูกหลานไปทำงานต่างจังหวัดกันหมด ขณะเก็บของเข้าบ้านพบควันพวยพุ่งออกมาจากในบ้านนางเถาะ จึงวิ่งเข้าไปตรวจสอบ พบไฟลุกไหม้จากหลังตู้เย็น บริเวณปลั๊กไฟ จึงพยายามหาวิธีนำน้ำมาสาดดับไฟ และเรียกเพื่อนบ้านนำถังดับเพลิงมาฉีด แต่ควบคุมไม่อยู่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร จึงช่วยเหลือยายออกจากบ้าน และประสานรถดับเพลิงมาควบคุมเหตุ แต่ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมถึงทรัพย์สินของตนไม่สามารถเอาออกมาได้ มีเพียงเสื้อผ้าติดตัวเท่านั้น ความเสียหายของไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
ขณะเดียวกัน นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน หาสาเหตุโดยละเอียด เบื้องต้นจากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าบ้านต้นเพลิงมาจากบ้านของนางเถาะ คาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะได้รอผลการตรวจสอบเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่ยืนยันสรุปสาเหตุอีกครั้ง ส่วนการดูแลเยียวยาเบื้องต้น ได้มอบเงินช่วยเหลือรายละประมาณ 49,5000 บาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทึ่ง! ตามไปดู 'นักล่าจักจั่น' เข้าป่าสอยเมนูเด็ดหายาก เสิร์ฟขึ้นโต๊ะจานละ 300 บาท
ในช่วงนี้ถึงแม้หลายพื้นที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ไม่สามารถทำการเกษตรนอกฤดูกาล เพื่อสร้างรายเสริมได้ แต่สำหรับชาวบ้านที่มีอาชีพหาของป่าฤดูแล้ง ถือว่าเป็นโอกาสทองของพวกเขา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลหาจักจั่น
บุหรี่มวนเดียวเป็นเหตุ! หนุ่มทิ้งก้นบุหรี่ไม่เป็นที่ ไฟไหม้ลามบ้านหวิดยกหลัง
อุทาหรณ์หนุ่มยืนดูดบุหรี่ริมระเบียงบ้าน ทิ้งก้นบุหรี่ไม่ระวังลงบนใบไม้แห้ง กองกระดาษทิชชู่ ไฟลุกไหม้บ้านเกือบวอดยกหลัง
นครพนมร้อนฉ่า! ทนายเพื่อชาวบ้าน ลงสนามล้างการเมืองเก่า
จับตานักการเมืองไฟแรง พรรคไทยสร้างไทย ทนายความนักสู้เพื่อชาวบ้านไม่เป็นธรรม ลงสนามล้างการเมืองเก่า หวังยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน
'หมอปลา' ยอมแล้ว! นัดขอขมา 'พระเทพวรมุนี' ต่อหน้าสื่อ 46 สำนัก
จากกรณีนายอนันต์ชัย ไชยเดช แม่ทัพทนายกองทัพธรรม พร้อมนายเอื้อ มูลสิงห์ ทนายกองทัพธรรมจังหวัดนครพนม/ไวยาวัจกร วัดพระธาตุพนม รับมอบหมายจากพระเทพวรมนุนี
นครพนมเดือด! ไอ้โม่งตระเวนกรีดป้าย 'อุ๊งอิ๊ง' พังยับ
มือมืดป่วน! ตระเวนกรีดป้าย 'อุ๊งอิ๊ง' ถ่ายคู่กับว่าที่ผู้สมัครเพื่อไทยนับสิบป้าย วงจรปิดจับภาพ 2 ไอ้โม่ง ฉงนหน้าเทศบาลฯ ยกป้ายกลับมาติดคืน
นครพนมอ่วม! พบค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 พุ่งขึ้นระดับวิกฤติ ริมโขงเผาป่าซ้ำหลายสิบไร่
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์หมอกควันสภาวะอากาศเป็นพิษยังคงวิกฤต โดยจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศของสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม (ทสจ.ฯ) พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5