ชาวบ้านจ.กระบี่ ยื่นฎีกา 'ในหลวง' หลังกรมทรัพย์โค่นต้นปาล์มน้ำมัน 3 ชั่วอายุคน

15ก.พ.2566- นายภพ สกุลสวน และนางสายใจ สกุลสวน สองสามีภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โค่นต้นปาล์มน้ำมันในที่ดินทำกินสืบต่อกันมาแต่บรรพบุรุษ 3 ชั่วคน กว่า 100 ปี ที่บ้านคลองแรด ม.5 ต.อ่าวลึก เมื่อพฤษภาคม 2564 คดีไม่คืบ ยื่นขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน และผู้ว่าฯกระบี่ แล้ว เรื่องเงียบ และบางหน่วยงานมีเจตนาปกป้องผู้กระทำความผิด ตอบหนังสือในลักษณะอ้างว่าการปฏิบัติการโค่นต้นปาล์มกว่า 17 ไร่ ในสวนปาล์มของผู้เสียหายดังกล่าวนั้นชอบด้วยกฎหมาย จนเป็นเหตุให้ นายภพ สกุลสวน มีความเสียใจมาก ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงเกิดความเครียด สิ้นหวังหมดกำลังใจ ได้ถ่ายพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่๙ ไว้ มอบให้ลูกเมีย ก่อนที่จะทรุดหนักและตรอมใจจนเสียชีวิตในวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

หลังจากจัดการศพตามพิธีทางศาสนา แล้ว ครอบครัว นำโดยนางสายใจ สกุลสวน ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดจัดทำคำฎีกาเดินทางจากจังหวัดกระบี่เข้า กทม. นำฎีกาไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง แล้ว นำความขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯถวายฎีกา ต่อในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ที่สำนักพระราชวังในวันนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมและขอพระราชทานความช่วยเหลือในสิทธิที่ดินทำกินของบรรพบุรุษของครอบครัวตนต่อไป

ด้านนายราเชลร์ จันทร์อ่อน หัวหน้าสำนักงาน สำนักงานกฎหมายราเชลร์ทนายความ กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงได้ราชทานพระบรมโชวาท ถึงกรณีดังกล่าวเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ ไว้ว่า "ในป่าสงวนทางราชการได้ขีดเส้นไว้เป็นป่าสงวนหรือป่าจำแนก แต่ว่า เราขีดเส้นไว้ประชาชนก็มีอยู่ในนั้นแล้ว จะเอากฎหมายป่าสงวนไปบังคับคนที่อยู่ในป่าที่ยัวไม่ได้สงวนแล้วไปสงวนทีหลัง โดยขีดเส้นบนเศษกระดาษก็ดูชอบกลอยู่ แต่มีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อขีดเส้นแล้ว ตกลงว่าใครทำผิดกฎหมาย ผู้ขีดเส้นนั่นเองที่ผิด เพราะว่า บุคคลที่อยู่ในป่านั้นเขาอยู่ก่อน เขามีสิทธิในทางเป็นมนุษย์ หมายความว่าทางราชการบุกรุกบุคคล ไม่ใช่บุคคลบุกรุกกฎหมายบ้านเมือง"

ดังนั้น ที่ดินของบรรพบุรุษผืนนี้ เกิดจากการทำประโยชน์โดยการทำนาและอยู่กันเป็นชุมชนสมัยของคุณตาเฟื่อง เนื้ออ่อน ก่อนการประกาศเขตป่าต่างๆ ต่อมาส่งมอบให้แก่นางวาสนา อ๋องเอื้อ บุตรสาวและคู่สมรส ทำประโยชน์ต่อมา และได้มอบให้บุตรสาวคือนางสายใจ สกุลสวน กับนายภพ สกุลสวน จนกระทั่งเกิดเหตุกรณีนี้ นายภพและครอบครัว เชื่อมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าทรงพระเมตตาและเข้าใจราษฎร เข้าถึงปัญหาของราษฎรตลอดมา โดยไม่มีนายกรัฐมนตรี นักการเมือง หรือข้าราชการใดๆที่นำปัญหาการประกาศเขตป่าทับที่ดินทำกินของราษฎรมาแก้ไขและคืนสิทธิในที่ดินให้แก่ราษฎรได้เลย ทั้งที่ราษฎรเหล่านั้นมีสิทธิในที่ดินก่อนรัฐ ตามกฎธรรมชาติ การตรากฎหมายซึ่งมีผลกระทบกับชีวิตของราษฎร ในทางเสียหายควรได้รับการแก้ไข ครอบครัวนี้จึงเชื่อมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ว่าทรงพระราชทานคืนความเป็นธรรมให้แก่พวกเขาได้ ตามที่นางสายใจ สกุลสวน และครอบครัวได้นำความมากราบบังคมทูลเกล้าฯถวายฎีกา ตามที่นายภพฯ สามีที่เสียชีวิตไปได้สั่งเสียไว้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ป่าไม้แจ้งจับ 4 ข้อหา เสี่ยเจ้าของรีสอร์ท-ผู้ใหญ่บ้าน ก่อสร้างบุกรุกทะเลแสมสาร 7 ไร่

นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วย นายสุนทร พุ่มโพธิ์ทอง กำนันตำบลแสมสาร นายณัฐพงศ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลแสมสาร นางสาวอุรุอาริยา บุญนำมา ประมงอำเภอสัตหีบ นายมงกรด อุ่นเรือน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส

เจ้าหน้าที่ ทช. แจ้งจับผู้ใหญ่บ้าน ขุดทำลายซากปะการังชายฝั่งทะเลแสมสาร

นายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) พร้อมด้วย นายนพดล แสงขาว ผู้อำนวยการศูนย์ และเจ้าหน้าที่ ได้เดินเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์

'รมว.ทส.' ส่งที่ปรึกษานำทีม จัดการขั้นเด็ดขาด 'รีสอร์ตหรู' เกาะเต่า

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) สั่งการเร่งด่วนให้ นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส.

สุดไฮเทค! “Dow” หนุน กรมทะเลฯ ใช้ระบบ ติดตามพื้นที่ป่าชายเลนจากภาพถ่ายดาวเทียม

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับภาคี Dow & Thailand Mangrove Alliance เปิดใช้งานและจัดอบรมระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าชายเลนจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนา 1.9 ล้านบาท

ข่าวดี! เต่ากระวางไข่ 114 ฟองบนเกาะทองหลางที่ชุมพร

ชุมพรพบเต่ากระวางไข่กว่าร้อยฟองบนเกาะทองหลาง หัวหน้าอุทยานฯ เผยมีต่อเนื่อง เพราะชาวประมงร่วมใจอนุรักษ์หยุดพฤติกรรมไม่ทำลาย เมื่อพบเห็นพร้อมช่วยเหลือ