ภารกิจกู้เรือภัทรพัณณ์ เรือบรรทุกน้ำมันปาล์มที่มาเกยตื้นบริเวณชายหาดปลายแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลาสงขลา เสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ ช่วงน้ำขึ้นสูงสุด โดยต้องระดมเรือทัก 7 ลำ ทำการลากเรือมาเข้าร่องน้ำธรรมชาติได้สำเร็จ และนำเรือมาจอดทอดสมอ หลบคลื่นลมแรงบริเวณหลังเกาะหนูเพื่อรอตรวจสอบสภาพเรือ ก่อนที่จะเดินทางกลับ ในส่วนกองทรายบนชายหาด จะเคลียร์หมดภายในวันนี้และชายหาดก็กลับสู่สภาพเดิม
23 ก.พ.2566 - จากกรณีที่ เรือภัทรพัณณ์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันปาล์ม ขนาดใหญ่ 2,037 ตันกรอส ถูกคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทยซัดมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา อ.เมืองสงขลา ใกล้กับเขื่อนกั้นทราย ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 สาเหตุเนื่องจากสมอเรือขาดขณะจอดลอยลำอยู่บริเวณชายฝั่งของจ.สงขลา โดยทางเจ้าของเรือได้มีการประสานเพื่อที่จะทำการกู้เรือออกจากชายหาดหลังเกยตื้นมาเป็นเวลานาน เนื่องจากคลื่นลมมีกำลังแรงและเป็นฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ จะมีคลื่นลมแรงตลอดเวลา จึงไม่สามารถที่จะทำการกู้เรือได้และต้องทิ้งระยะเวลาให้ผ่านไป จนถึงปลายฤดูมรสุมฯคลื่นลมเริ่มลดกำลังแรงลง จึงได้มีการประสาน ว่าจ้างบริษัทที่มีความชำนาญในการกู้เรือ ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่เคยมากู้เรืออรพิน 4 ลากจูงออกจากชายหาดแห่งนี้มาแล้ว เมื่อปี 2557
และบริษัทที่มาทำการกู้เรือ ก็เข้ามาดำเนินการกู้เรือตามแผนงานของสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาคที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 17มกราคม 2566 เป็นต้นมา และเมื่อวานนี้( 21 ก.พ.66) การทำงานของการกู้เรือออกสู่ทะเลของบริษัท ต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่จนสามารถทำให้เรือลอยลำและหันหัวออกสู่ทะเลได้ และค่อยๆใช้เรือทักลากจูงออกจากชายหาดเพื่อเข้าไปสู่ร่องน้ำธรรมชาติ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ท่ามกลางคลื่นลมที่มีกำลังแรง พัดเข้าหาฝั่งอยู่ตลอดเวลา โดยการทำงานจะใช้เวลาในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุด ทั้งช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน
และผลปรากฏว่าเมื่อคืนนี้( 21 ก.พ.66) เวลาประมาณ 21.30 น. ได้ระดมเรือทัก 7 ลำ ช่วยลากเรือภัทรพัณณ์เข้าสู่ร่องน้ำธรรมชาติได้สำเร็จ และนำเรือไปจอดทอดสมอบริเวณด้านหลังเกาะหนู เพื่อหลบคลื่นลมแรง และรอให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา ลงไปทำการตรวจสอบเรือเพื่อความปลอดภัยและพร้อมที่จะเดินทางกลับ หลังจากผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ในส่วนกองทรายบนชายหาด จะเคลียร์หมดภายในวันนี้และชายหาดก็กลับสู่สภาพเดิม
ในวันนี้ ฯนายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 และนายอานุภาพ คงทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาได้ลงพื้นที่บริเวณชายหาดสมิหลาสงขลา ได้มาดูการจอดเรือภัทรพัณณ์ที่มาจอดทอดสมอ บริเวณหลังเกาะหนู โดยเมื่อคืนนี้ได้รับแจ้งจากทางบริษัทที่มาทำการกู้เรือว่า สามารถกู้เรือและนำเรือเข้าร่องน้ำธรรมชาติสำเร็จและนำไปจอดในที่ปลอดภัย บริเวณด้านหลังเกาะหนูเพื่อหลบคลื่นลมแรงเรียบร้อยแล้ว และเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบสภาพเรือทั้งในตัวเรือและใต้ท้องเรือเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเรือจะต้องเดินทางกลับไปที่บริษัทต้นสังกัด หลังจากติดเกยตื้นมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน
นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 กล่าวว่า เรือภัทรพัณณ์ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2565โดยในช่วงนั้นคลื่นลมมีกำลังแรงมากและตั้งแต่เรือเกยตื้นมา ทางเราก็เรียกเจ้าของเรือมาพูดคุยเพื่อจัดทำแผนการกู้เรืออย่างต่อเนื่อง แต่อุปสรรคที่ผ่านมาก็เจอคลื่นลมแรงเข้ามาตลอดในพื้นที่จังหวัดสงขลา สำหรับแผนการกู้เรือก็เป็นไปตามแผนที่เราได้กำหนดไว้ เนื่องจากบางครั้งกลัวว่าจะไปกระทบกับเครื่องจักรของคนที่เข้ามาทำงานเมื่อมีคลื่นลมแรง
เมื่อคืนนี้ได้รับแจ้งจากทีมงานกู้เรือว่า เวลาประมาณ 21.30 น.เศษ ทีมกู้เรือได้ระดมเรือทัก 7 ลำ เพื่อช่วยกันลากจูงเรือออกไปได้สำเร็จ สู่ร่องน้ำธรรมชาติและทางเรือได้นำเรือไปจอดทิ้งสมอ บริเวณด้านหลังเกาะหนูเพื่อหลบคลื่นลมแรง และหลังจากนี้ ทางสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาสงขลาก็จะส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบเรือในเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ก่อนที่จะปล่อยเรือออกไปเพื่อเดินทางกลับ
ทางด้านนายอานุภาพ คงทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา กล่าวเสริมว่า ตั้งแต่เรือภัทรพัณณ์ มาเกยตื้น ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา ได้ออกคำสั่งให้ทำการกู้เรือและให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการติดตามในการทำงาน เพื่อให้เรือออกจากการเกยตื้นให้ได้ แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมมีกำลังแรงมาตลอด ทำให้ต้องมีการหยุดทำงานเป็นบางครั้ง จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ก็เป็นผลสำเร็จและหลังจากนี้ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนเรือภัทรพัณณ์ เพื่อทำการตรวจสอบสภาพเรือและได้รับแจ้งจากทางบริษัทว่า จะมีการอันเดอร์เซอร์วิส ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่า เรือไม่มีการรั่วไหลและทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โจรใต้ป่วนหนัก! เผาโรงไฟฟ้าปัตตานี-สงขลา
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า เมื่อเวลา 23.3. น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล
ระทึก! ไล่ล่า 13 กิโล จับโจรโกงทอง ประวัติก่อคดีโชกโชน
พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ,พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่สั่งการให้ สืบสวน ชป.1
'เจ้าของร้านมือถือ' หัวร้อน! ชักปืนขู่ชี้หน้าตำรวจ
ร.ต.ต.ธนกฤต สิริกุลวิตรา อายุ 55 ปี รองสารวัตรสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งแต่งกายด้วยชุดบ้านธรรมดา
ปชป. ตีปี๊บศึก อบจ. เหน็บกลัวโมโนเรลหาดใหญ่หายโผล่เชียงใหม่
“นิพนธ์-สรรเพชญ-มาดามเดียร์‘ เปิดเวทีระดมความคิดชาวสงขลา กระตุกรัฐบาลกระจายอำนาจ-งบประมาณให้ประชาชนออกแบบการใช้จ่าบภาษีของตัวเอง เหน็บโดนฉกงบฯ รถไฟฟ้าโมโนเรลไปโผล่เชียงใหม่
อบอุ่น ‘บิ๊กโจ๊ก’ กลับบ้านเกิด ย้ำเรื่องคดีความให้ว่าไปตามกฎหมาย
บิ๊กโจ๊กกลับบ้านเกิดเป็นประธานงานคืนสู่เหย้าโรงเรียนวิเชียรชมส่วนหมายเรียกทั้งสองหมายนั้นให้ว่าไปตามกฎหมายตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม
ชาวบ้านสุดทน! สำนักสงฆ์ชื่อดัง จัดงานรื่นเริง ขายเหล้า-เบียร์โจ่งครึ่ม
สำนักสงฆ์ชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา จัดงานขึ้นถึง 7 วัน 7 คืน โดยภายในงานมีการแสดงดนตรีแบบเต็มวง รำวงเวียนครก และการละเล่นอื่นๆ โดยภายในงานจัดให้มีการจำหน่ายสุราและเบียร์