ชาวประมงสงขลาอ่วมหนัก ปลาหนีร้อนหลบเข้าทะเลร่องน้ำลึก

ชาวประมงสงขลา ครวญฤดูร้อน ปลาหนีเข้าร่องน้ำทะเลลึกที่มีอุณหภูมิน้ำเย็นกว่า ทำให้จับได้ลำบาก บางวันไม่ได้สักตัว 

2 เม.ย.2566 – ที่บริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาที่เชื่อมต่อกับทะเลอ่าวไทย เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆ ส่งผลให้แสงแดดจ้านำความร้อนลงมา น้ำทะเลบริเวณชายฝั่งที่เป็นน้ำตื้นน้ำจะร้อนกว่าบริเวณน้ำลึก ส่งผลทำให้ปลากระบอกหนีหายจากปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาออกสู่ทะเลอ่าวไทยไปอยู่ที่น้ำลึกกว่า เพราะน้ำไม่ร้อน

ทำให้น้ำทะเลบริเวณปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลาในช่วงน้ำลง น้ำใสมีชายหาดสภาพน้ำร้อนจากแสงแดด ส่งผลทำให้ไม่มีปลากระบอกเข้ามาในปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เนื่องจากความร้อนของน้ำปลากระบอกเลยไม่เข้ามาในร่องน้ำปากทะเลสาบสงขลา ทำให้ชาวประมงที่มาทอดแหหลายคนยังจับปลาไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว แม้ว่าชาวประมงที่มาทอดแหจะใช้ความพยายามในการทอดแหกันอย่างต่อเนื่อง เจอทั้งอากาศร้อนจากแสงแดดและต้องอดทนยืนตากแดดเป็นชั่วโมงๆ ยืนอยู่ริมชายหาดรอดูฝูงปลากระบอก แต่ก็ไล่ไม่ทัน ปลาอยู่ในน้ำมันเร็วกว่า จนเหนื่อยล้า ก็ยังไม่ได้ปลา ต้องมานั่งพักดื่มน้ำ เมื่อหายเหนื่อยแล้ว ก็นำแหลงไปยินรอปลาต่อ ก็แทบจะไม่มีปลากระบอกติดแหมาเลยแม้แต่ตัวเดียว

 จากการสอบถามชาวประมงที่มาทอดแหก็ทราบว่า ในช่วงนี้น้ำลงน้ำใสไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยทางปากร่องน้ำ ทำให้น้ำทะเลบริเวณปากร่องน้ำ น้ำจะใสโดนแสงแดดสาดส่องลงมาทำให้น้ำร้อน ปลาหนีหายไปอยู่ที่น้ำลึกที่สภาพน้ำเย็นกว่า ทำให้ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน ชาวประมงทอดแหจับปลากระบอกไม่ได้เลยเพราะไม่มีปลาเข้ามา แม้ว่าบางวันจะทอดแหไปแล้วครึ่งวันก็ยังจับปลาไม่ได้ ก็ต้องถอดใจเก็บแหกลับบ้าน

ทำให้ในวันนี้ชาวประมงที่มาทอดแหบริเวณปากร่องน้ำหายหน้าไปจาก 10กว่าคน มาทอดแหเพียง 3 คนเท่านั้น เพราะหน้าร้อนจะเจอปัญหาไม่มีปลาเข้ามา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับรายได้ เนื่องจากปรกติ เมื่อทอดแหจับปลากระบอกได้ก็จะมีประชาชนมาหาซื้อปลากระบอก เพราะเป็นปลาสดๆจากทะเล จะขายปลากระบอกได้มาตลอด ในช่วงหน้าร้อนชาวประมงทอดแหจะประสบปัญหาเช่นนี้มาทุกปี.