คนชรา ผู้พิการและคนตาย ถูกสหกรณ์ทวงหนี้หลักล้าน ที่แท้เจ้าหน้าที่สินเชื่อสวมชื่อกู้เงิน

คืบหน้าคนชรา ผู้พิการและญาติคนตายที่ได้รับหนังสือทวงหนี้ จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด เป็นเงินหลักล้าน ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่เคยกู้ ตรวจสอบพบ จนท.สินเชื่อแอบปลอมแปลงชื่อคนตาย คนชรา ผู้พิการสวมกู้เงิน ยอดเกือบ 2 ล้าน เจ้าตัวชิงลาออก ขณะสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์มอบหมายทนายแจ้งความเอาผิด

24 ส.ค.2566 -ความคืบหน้า กรณีที่คนชรา ผู้พิการ และชาวบ้านบ้านหนองงูเหลือม ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์จำนวน 3 ราย ที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด ตั้งแต่ยอดหลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ได้นำหนังสือทวงหนี้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตร และไม่เคยกู้เงินใดๆ จากสหกรณ์เลย แต่ทำไมถึงมีหนังสือมาทวงหนี้ ทำให้เกิดความกังวลใจบางคนเครียดหนัก เพราะมียอดเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยหลักล้านบาท บางคนมีชื่อเป็นทั้งคนค้ำและคนกู้ด้วย และที่สร้างความแปลกใจหนักไปกว่านั้น คือมีชื่อของชาวบ้านบางคนที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2547 แต่กลับมีชื่อกู้เงินเมื่อปี 2549 จึงอยากให้มีการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย เพราะในหนังสือทวงหนี้ระบุว่าหากไม่ชำระตามกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นางวิไล ยูฮันเซ่น สหกรณ์ จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ทั้งคนชรา ผู้พิการ และญาติคนตายที่ออกมาร้องเรียน ไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนางรอง และไม่ได้กู้เงินจากสหกรณ์แต่อย่างใด แต่มี จนท.สินเชื่อคนหนึ่งแอบปลอมแปลงชื่อไปสวมกู้เงินสหกรณ์เพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ยอดรวมทั้ง 3 ราย กว่า 1,800,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อคนดังกล่าวได้ชิงลาออกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.2566 ที่ผ่านมา และได้มาเซ็นรับสภาพหนี้ที่สวมชื่อชาวบ้านทั้ง 3 รายไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเซ็นรับสภาพหนี้ไปแล้ว แต่ทางสหกรณ์จังหวัดก็จะมอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความดำเนินคดีกับ จนท.สินเชื่อคนดังกล่าวตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่า มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือปล่อยปะละเลยหรือไม่อย่างไร

ส่วนชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายถูกเอาชื่อไปสวมกู้เงินทั้ง 3 ราย ทางสหกรณ์การเกษตรนางรอง ก็ได้ทำหนังสือยืนยันให้ว่าไม่ได้เป็นลูกหนี้สหกรณ์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว ซึ่งชาวบ้านก็พอใจและไม่ได้ติดใจ

สหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ ยังระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2566 ทางสหกรณ์จังหวัดได้มีคำสั่งให้สหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด สอบทานหนี้100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากพบงบการเงินมีหนี้้ค้างจำนวนมาก โดยมียอดหนี้ค้างสะสมเป็นเงินต้น 87,702,263 ล้านบาท ดอกเบี้ย 73, 828,092 ล้านบาท ค่าปรับ 9,385,162 ล้านบาท รวมเป็นยอดที่ค้างทั้งหมด 170,916,517 บาท ทางสหกรณ์จึงให้กำชับให้ตรวจสอบและติดตามทวงหนี้ที่ค้าง จนมีคนมาชำระหนี้คืน 63 ล้านบาท คงเหลือ 157,857,613 ล้านบาท คาดว่าหลังจากมีคำสั่งให้ตรวจทานหนี้ดังกล่าว ทาง จนท.สินเชื่อที่ปลอมชื่อสวมกู้เงินจึงได้ร้อนตัวเข้ามายอมรับ และชิงลาออก อย่างไรก็ตาม แม้จะชิงลาออกแล้วก็ต้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย เพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบช.ภ. 3 แถลงรวบอดีต ส.อบต. พร้อมแฟนสาวชาวลาว ขนยาบ้าเกือบ 1 ล้านเม็ด

ผบช.ภ.3 แถลงผลการจับกุมของ ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับ ตชด. ทหาร และปกครอง ไล่ล่าจับกุมทีมขนลำเลียงยาเสพติด ขณะกำลังจะนำยาบ้า มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เกิดไหวตัวทัน ขับรถหลบหนี พร้อมทิ้งยาบ้าเกลื่อนถนน

ทึ่ง! เกษตรกรปลูกทุเรียนน้ำแร่ ทดแทนมันสำปะหลัง-ข้าวโพด สร้างรายได้ปีละ 20 ล้านบาท

นายประเสริฐ กาญจนเกียรติกุล ปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน 1.3 ล้านไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 97 อาศัยน้ำฝน เกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อไร่ค่อนข้างต่ำ

'เศรษฐา' ไม่กังวล 'บิ๊กโจ๊ก' ยื่นป.ป.ช.สอบแต่งตั้ง 'ต่อศักดิ์' เป็นผบ.ตร. สงสัยทำไมเพิ่งมาร้อง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เอาผิดนายกฯกรณีละเว้นปฎิบัติหรือละเว้นปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

‘โจ๊ก’ ลั่นคนใต้เลือดนักสู้! ยื่นป.ป.ช.สอบ ‘เศรษฐา’ ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ตั้ง ‘บิ๊กต่อ’ ผบ.ตร.

‘บิ๊กโจ๊ก’ สู้หมดหน้าตัก ยื่นสอบ 'เศรษฐา' ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตั้ง 'บิ๊กต่อ' เป็นผบ.ตร. เตือนนายกฯ ให้ทำตามกม. เชื่อโดนรุมกินโต๊ะสกัดนั่งผบ.ตร.