'พล.ท.ศานติ' ตอกย้ำ พรก.ฉุกเฉินยังมีความจำเป็น

แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงนโยบาย เน้นย้ำดูแลความปลอดภัยความมั่นคงพี่น้องประชาชน ย้ำ พรก.ฉุกเฉินยังจำเป็นคงไว้เช่นเดิม

12 ต.ค.2566 - ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร พล.ร.15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานเปิดการประชุมแถลงแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 วาระใหม่ โดยมีผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัดทุกหน่วย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง และผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลด้านความมั่นคงเข้าร่วมประชุม ทั้ง 4 จังหวัด

โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการย้ำถึงแนวทางการขับเคลื่อนแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2567 ไปสู่การปฏิบัติของหน่วยต่างๆ ให้การปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างสันติสุขให้เป็นรูปธรรม และมอบแนวทางนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2567 ให้สอดคล้องกับพื้นที่ และตรงตามความต้องการของประชาชนที่แท้จริง อีกทั้งร่วมกันหารือประสานการปฏิบัติเพื่อคลี่คลายปัญหาตามเป้าหมายของแต่ละแผนงานต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคง การควบคุมพื้นที่ลดเหตุรุนแรง กระบวนการยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน และอื่นๆ

พล.ท.ศานติกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้เน้นย้ำทุกฝ่าย ป้องกัน กรณี การก่อเหตุ ให้ได้มากที่สุด เป็นห่วงการก่อเหตุของกลุ่มก่อการที่ยัง มีการวางระเบิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่ถูกกระทำอย่างต่อเนื่อง จึงเน้นย้ำให้ทั้ง 3 ฝ่าย ร่วมทางแก้ไข เตรียมระวังป้องกันการเกิดระเบิด ส่วนการถูกยิงก่อกวนตามฐานต่างๆนั้นยังป้องกันได้ ให้ทุกฝ่ายทุกฐาน คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด เน้นให้ความสำคัญการวางแผนต่อพื้นที่นั้นให้มากขึ้น

“เรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราก็คำนึงถึงความสำคัญ สำหรับการปฎิบัติงานของฝ่ายเจ้าหน้าที่ อยากให้ยังคงไว้ แต่ถ้ามีการยกเลิกแล้ว เราได้มีการพูดคุยกันทั้ง ทหาร ตำรวจ ประชาชน เราต้องการวางแผนการจัดการกันเป็น step ต้องดูแต่ละพื้นที่ ถึงการจัดลำดับของโซน สีเขียว สีเหลือง สีแดง อย่างไร ซึ่งในภาพรวมนั้น เรามีแผนที่จะลดพื้นที่พรก.อยู่แล้ว จนถึงปี 2570 และมีการประเมินอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากว่าทางรัฐบาลมีแผนจะลด แนวทางอย่างไรนั้น เราก็ยึดมั่นพร้อมดำเนินทำงานในพื้นที่ตามอยู่แล้ว ต้องดูตามความเป็นจริงแต่ละอำเภอ เพียงทางเรามีการพะวงบ้างในส่วนของพื้นที่เท่านั้น ในปีนี้เราคาดหวังความเป็นสุขของพี่น้องประชาชนที่ออกนอกพื้นที่ได้กลับเข้ามา และถ้าในพื้นที่ไม่มีการเกิดเหตุใดๆ แล้ว เราก็คาดหวังว่าพี่น้องจะกลับเข้ามาดำเนินชีวิตในพื้นที่ได้อย่างสงบปลอดภัยW

ส่วนในเรื่องการพูดคุยสันติสุขเป็นสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว ไม่เน้นการใช้กำลัง ต้องรอดูส่วนของระดับนโยบายรัฐบาลเอง ว่าจะมีการจัดตั้งใคร เป็นคณะพูดคุยใหม่ เพราะทางกลุ่มคิดต่างหรือฝ่าย BRN เขาเฝ้ารอดูอยู่ใครจะขึ้นเป็นผู้นำคณะพูดคุย ส่วนในระดับพื้นที่เองนั้น เรามีการทำงานกันอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราทำงานด้วยการรับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชน ทางคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นฝ่ายประจำพื้นที่ ที่ยังอยู่ต้องทำงานกันต่อไป ตามคณะต่างๆที่วางไว้ เน้นรับฟังเสียงประชาชนให้มากขึ้น ได้ข้อมูลอย่างไรก็จะส่งข้อมูลให้คณะพูดคุยชุดใหม่ต่อไป

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังเน้นย้ำในการปฏิบัติในพื้นที่ให้มีความรอบคอบ ซึ่งเป็นบทเรียนที่ผ่านมา ปรับแก้ยุทธวิธีใหม่ เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย การระวังการลอบวางระเบิด การข่าวของเรา ต้องย้ำระวัง ไม่ไห้โดนระเบิดทั้งแบบเร่งด่วน และแบบวางระเบิดตั้งเวลา ต้องเตรียมแผนป้องกัน พราะฝ่ายตรงข้ามวางแผนการวางระเบิดแบบล่อ ลวง มีลูกที่ 1มีลูกที่ 2 ที่ 3 ตามมา เพราะฉนั้นเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าตรวจพื้นที่ ต้องระมัดระวัง ห้ามคนภายนอกเข้าคนที่ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าเด็ดขาด เส้นทางที่เข้าตรวจพื้นที่ต้องมีความปลอดภัย 100% เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก การป้องกันฐานจากการถูกซุ่มยิง ต้องระมัดระวังตรวจตรา รอบบริเวณขยายฐานการป้องกันให้มากขึ้นกว่าเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แม่ทัพภาค 4 เผยโจรใต้ระเบิดโรงไฟฟ้า มุ่งทำลายเศรษฐกิจระบบสาธารณูปโภค

พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายวางเพลิงเผาภายในอาคารเครื่องผลิตไฟฟ้า และก่อเหตุวางระเบิดภายในโรงไฟฟ้ารุ่งทิวา ไบโอแมส

โจรใต้ป่วนหนัก! เผาโรงไฟฟ้าปัตตานี-สงขลา

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานว่า เมื่อเวลา 23.3. น. วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวล

บึ้มปัตตานี! ดักสังหารเจ้าหน้าที่ชุดคัดเลือกทหารเกณฑ์

เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.พงศกร ฤทธิศักดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดบนถนนสายทุ่งยางแดง-กะพ้อ

ไฟไหม้โกดังสินค้าใหญ่ปัตตานี เจ้าของชาวปากีสถาน วอดกว่า 20 ล้าน

ปัตตานีไฟไหม้โกดังสินค้าขนาดใหญ่ เสียหายทั้งหมดร่วม 20 ล้าน  พนักงานกว่าสิบชีวิตหนีตายจ้าละหวั่น ชี้สาเหตุหลักจากไฟฟ้าลัดวงจร

คืบหน้าเหตุป่วนหลายจุดเดือนรอมฎอน คนร้ายมุ่งทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ จชต.

จากเหตุการณ์ คนร้ายกลุ่มใหญ่ก่อกวนหลายจุด ในเขตจังหวัดปัตตานี, จ.ยะลา, จ.นราธิวาส และจ.สงขลา สำหรับ จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุมากที่สุด กระจายทั้ง 10 อำเภอ จำนวน 20 จุด ล่าสุดผวจ.ปัตตานี ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ ความเสียหาย เยี่ยมญาติกรณี