18 ธ.ค.2564 - พลเรือตรี อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (โฆษก ศรชล.) แถลงว่า เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.64) ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งจากศูนย์เฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมาย (FMC) ของกรมประมง ซึ่งมีระบบการตรวจพิกัดเรือ ตรวจพบข้อมูลเป้าเรือประมง ชื่อ มณฑลสถาพร ทะเบียนเรือ 398501108 พบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงเข้าทำประมงในเขตทะเลชายฝั่งทางทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกำตก จว.ระนอง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1.26 - 1.36 ไมล์ทะเล อยู่ในเขตพื้นที่หวงห้ามทำการประมงที่กำหนดไว้ต้องห่างจากฝั่งตั้งแต่ 1.6 ไมล์ทะเลออกไป ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำวัยอ่อน และแนวปะการัง ได้กำหนดประกาศไว้ตามข้อกำหนด
ทั้งนี้ทางศูนย์ FMC ได้ทำการเฝ้าระวังและติดตามเป้าเรือดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.64 ในการนี้ พลเรือโท สมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 / ผอ.ศรชล.ภาค3 ได้สั่งการให้ ศรชล.ภาค 3 บูรณาการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปทำการตรวจสอบเรือประมงดังกล่าว โดยมีเรือ ต.232 จากทัพเรือภาคที่ 3 และเรือ ตรน.629 จาก กองบังคับการตำรวจน้ำภาค 8 เข้าร่วมทำการตรวจสอบ และได้พบเรือมณฑลสถาพร จึงได้ควบคุม เรือดังกล่าว ซึ่งมีผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือ จำนวน 8 คน (ไทย 2 คน เมียนมา 6 คน) เดินทางกลับเข้าไปยังท่าเทียบเรือแพเจริญกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน โดย ศรชล.ภาค 3 ได้ประสานกับ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมงระนอง (PIPO จ.ระนอง) จัดเจ้าหน้าที่ชุดตรวจเรือเข้าดำเนินการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงร่วมกับเจ้าของเรือด้วย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โฆษก ศรชล. กล่าวเพิ่มเติมว่า พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ /รองผู้อำนวยการ ศรชล. ได้มอบนโยบายถึงการทำหน้าที่ของ ศรชล. ส่วนหนึ่งไว้ว่า ให้ประสานการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการและบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง พร้อมทั้ง ดำรงมาตรฐานและความต่อเนื่องในการกำกับดูแลหน่วยงาน ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายฯ (IUU Fishing) และการปราบปรามการค้ามนุษย์ การปฏิบัติการในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการบูรณาการและประสานการปฏิบัติของหน่วยงานใน ศรชล. ที่สามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาการกระทำประมงผิดกฎหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อความยั่งยืน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล และผลประโยชน์แท้แก่ปวงชนชาวไทย อันทำให้เกิดผลดีต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษกทร. แจงนำ 'ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก' เข้าพื้นที่บ้านทมอดา ยันอยู่เขตแดนไทย
รองโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก ของ ทร. ในพื้นที่บ้านทมอดา
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง
ทำสำเร็จ! ทหารนาวิกโยธิน ยึดคืนพื้นที่บ้านท่าเส้น-กาสิโนทมอดา จ.ตราด ฝ่ายไทยปลอดภัยไม่สูญเสีย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้ดำเนินการเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณ บ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด รวมถึงพื้นที่อาคาร
ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ
โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย
ทร.ส่งทีมติดตามความคืบหน้า 'เรือดำน้ำ S26T' ด้าน 'จีน' ยันเสร็จตามกรอบระยะเวลา
ทร.ส่งทีมติดตามความคืบหน้าโครงการจัดหา 'เรือดำน้ำS26T' ด้าน 'จีน' ยืนยันควบคุมคุณภาพ และเสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลา

