บุรีรัมย์ 'ลูกชิ้นยืนกิน' ขายดีช่วงปีใหม่พ่อค้าแม่ค้าโกยกำไรร้านละ 1 หมื่นต่อวัน

“ลูกชิ้นยืนกิน”บุรีรัมย์ ขายดิบขายดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ประชาชน นักท่องเที่ยวแห่มาซื้อยืนกินคึกคัก เป็นเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร ส่งผลยอดขายแต่ละร้านพุ่งเป็นวันละกว่า 1 หมื่นบาท เพิ่มจากปกติเท่าตัว

31 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ นอกจากส่งผลดีต่อร้านขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารต่างๆ แล้ว “ลูกชิ้นยืนกิน” ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายลูกชิ้นทอด อยู่บริเวณด้านหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ และหน้าสถานธนานุบาล เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ (หลังเก่า) ที่มีอยู่กว่า 10 ร้าน นั้น ขายดิบขายดีไม่แพ้สินค้าชนิดอื่น เพราะมีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร และมีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก

โดยลูกชิ้นทอดซึ่งเน้นเป็นลูกชิ้นหมูนั้น มีความนุ่มอร่อย ที่สำคัญน้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด ทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ได้มีประชาชน นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดมาซื้อยืนกินลูกชิ้นกันอย่างคึกคักเนืองแน่นเต็มทุกร้าน

ส่งผลให้แต่ละร้านมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 10,000 บาท ปริมาณเนื้อหมูที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำลูกชิ้นวันละ 200-300 กิโลกรัม เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวมาซื้อและยืนกินแล้ว หลายคนติดอกติดใจได้ซื้อลูกชิ้นหมูที่ยังไม่ได้ทอดติดไม้ติดมือกลับไปทอดเอง เพื่อรับประทานที่บ้าน และเป็นของฝากด้วย

ส่วนราคาไม่แพงเพียงไม้ละ 3-5 บาท หากซื้อเป็นชุด ชุดเล็ก 60 บาท ชุดใหญ่ 100 บาท หรือแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งซื้อ โดยจะขายตั้งแต่ 07.00-18.00 น. ของทุกวัน ซึ่งปัจจุบันนอกจากจะมีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ยังมีกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก แต่ทุกร้านมีจุดเด่นเหมือนกันคือเป็นลูกชิ้นยืนกิน

พ่อค้าขายลูกชิ้นทอดยืนกิน รายหนึ่ง บอกว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ได้มีประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ มาซื้อยืนกินลูกชิ้นทอดกันอย่างคึกคัก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายลูกชิ้นทอดมีรายได้วันละกว่า 8,000 – 10,000 บาท จากปกติขายได้วันละ 4,000-5,000 บาท ซึ่งลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวมากินลูกชิ้นที่บุรีรัมย์ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นอกจากลูกชิ้นจะนุ่มอร่อยแล้ว น้ำจิ้มยังรสเด็ดถูกปาก และยังได้รับอรรถรสที่ไม่เหมือนที่อื่นอีกด้วย เพราะที่อื่นจะซื้อใส่ถุงกลับไปรับประทานไม่ได้มายืนกินหน้าร้านขายแบบนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่

วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล

เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว

เอกฉันท์!‘กนง.’ลดดอกเบี้ย0.25% คงจีดีพีปี68ที่2.2%ครึ่งปีหลังชะลอ

เอกฉันท์! ‘กนง.’ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมคงจีดีพีปี 68 ไว้ที่ 2.2% แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 69 เหลือ 1.5% ส่วนปี 70 ที่ 2.3%