ศรชล.ภาค 2 ตั้งคณะทำงานสอบประสานสิงคโปร์-สหรัฐฯหาประวัติเรือปริศนา

10 ม.ค.2565 - ที่ห้องประชุมโพธิ์สามต้น หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.ต. อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษกศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กล่าวถึงกรณีเรือ Fin Shui Yuan 2 ลอยตามกระแสน้ําเข้ามาบริเวณพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 2 ว่าเรือดังกล่าวถูกพบห่างจากฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปทางทิศตะวันออก ระยะทาง ประมาณ 80 ไมล์ทะเลว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 เวลา 15:40 น. มีระยะทางหาางจากฝั่งนครศรีธรรมราช 142 ก.ม.(78.8 Nm) โดยเจ้าหน้าที่ของแท่นผลิต ไพลินเหนือ ของ บริษัท เชฟรอน (ประเทศไทย) สํารวจและผลิต จํากัด ขณะที่เรือดังกล่าวกําลังลอยตามกระแสน้ําและลม เข้ามาใกล้พื้นที่ ปลอดภัยของแท่นขุดเจาะตรวจสอบโดยสายตาพบว่าลักษณะตัวเรือเอียงและไม่พบการปฏิบัติงานบนเรือของลูกเรือ

วันเดียวกัน ศรชล.ภาค 2 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่แท่นขุดเจาะฯ เพื่อเข้าทําการตรวจสอบ ซึ่ง ศรชล.ภาค 2ได้แจ้งให้ทัพเรือภาคที่ 2จัดกําลังทางเรือและอากาศยานไร้คนขับ เข้าปฏิบัติการตรวจสอบข้างต้นพบว่า ไม่มีลูกเรืออยู่บนเรือ ชื่อเรือ เลขเรือ และ เอกสารทั้งหมดไม่ปรากฏอุปกรณ์เดินเรือ ทั้งหมดบนสะพานไม่สามารถใช้งานได้มีเพียงไฟแบตเตอรี่ที่ทํางานได้ทําให้ไฟยอดเสายังติดอยู่มี เชือกขนาด 5 นิ้วผูกติดที่หัวเรือ ห้องเครื่องจักรใหญ่และเครื่องไฟฟ้าถูกน้ําท่วมขังทั้งหมด รวมทั้งยังคงมีน้ําเข้าบริเวณระวางห้องเครื่องจักรใหญ่โดยต่อเนื่อง ไม่เห็นตัวเครื่องและ ไม่สามารถลงสํารวจได้

ในขณะเดียวกันได้ทําการตรวจสอบข้อมูลของเรือดังกล่าวในระบบ Sea vision และระบบ MISC แล้วพบว่าไม่มีข้อมูลเรือลําดังกล่าว รวมทั้งได้ตรวจสอบสัญญาณ AIS ย้อนหลังไป 90วัน ไม่พบว่ามีการส่งสัญญาณ และมีน้ำท่วมระวางขนถ่ายสินค้ามีกลิ่นน้ํามันเชื้อเพลิงกระจายทั่วไป

วันที่ 7 - 8 ม.ค.2565 แจ้งให้ทัพเรือภาคที่ 2 โดย ร.ล.ตาปีและ ร.ล.หลีเป๊ะ เข้าพื้นที่และ ดําเนินการกู้ซ่อมเบื้องต้นเพื่อจะทําการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง และมีน้ําเข้าตัวเรือ Fin Shui Yuan 2 อย่างต่อเนื่อง จึงแจ้งให้กรมเจ้าท่า โดยสํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 พล็อตตําแหน่งเรือและติดตามสถานการณ์ ออกประกาศชาวเรือให้ระมัดระวัง ในการเดินเรือ เตรียมการเก็บกู้เรือให้ปลอดภัย ประสานประเทศเจ้าของเรือ และดําเนินการ พรบ.การเดินเรือในน่านน้ําไทย

โดยในเวลา 23:20 น. ทัพเรือภาค 2ได้แจ้งว่า เรือ Fin Shui Yuan 2 ได้จมลงบริเวณ บริเวณ ละติจูด 9 องศา 04.1 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด 100 องศา 24.0 ลิปดา ตะวันออก ห่างจากชายฝั่งอําเภอสิชล ประมาณ 28 ไมล์ทะเล ทางทิศตะวันตก ความลึกน้ําประมาณ 30 เมตร

ในวันที่ 9 ม.ค. 2565 เวลา 10:00 น. ศรได้รายงานเพิ่มเติมจาก ร.ล.ตาปีตรวจพบคราบน้ํามันลอยเหนือผิวน้ํา บริเวณกว้างประมาณ 500 เมตร โดยคราบน้ํามันดังกล่าวมีลักษณะเจือจางไม่มีแผ่นหนามาก และสามารถกําหนดตําบลที่เรือดังกล่าวได้จมลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้คราบน้ํามันดังกล่าวอาจมีทิศทางไปทางทิศเหนือ ตาม SAR Map พิจารณาเห็นว่าไม่น่าจะสร้างความเสียหายและจะสลายไปจากคลื่นลมธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามขอให้ติดตามการเคลื่อนตัวกับทิศทางและระยะทางที่อาจเข้าเกาะมัสสุมไปจนถึง เกาะสมุย หากมีแนวโน้มส่งผลกระทบ สํานักงานเจ้าท่าสาขานครศรีธรรมราชพร้อมปฏิบัติการขจัดราบน้ํามันต่อไป

การดําเนินการติดตามของ ศรชล. กรณีเรือ Fin Shui Yuan 2 ได้ประสานให้กรมเจ้าท่า พิจารณาออกคําสั่งกู้เรือตาม พรบ. เดินเรือในน่านน้ําไทย ถ้าเกินกําหนดระยะเวลา 15 วันแล้วยังไม่มีเจ้าของเรือมาแสดงตัวและกู้เรือ กรมเจ้าท่าอาจจะพิจารณาในการกู้เรือ และแจ้งให้ศรชล.ภาค 2 ร่วมกับ สํานักสืบสวนและสอบสวนกลาง ศรชล. ร่วมกับ สปก.6 ศรชล.(ตํารวจน้ํา) จัดตั้งคณะทํางานสืบสวน สอบสวนที่มาที่ไปของเรือดังกล่าวต่อไป โดยยังคงติดตามสถานการณ์ และการปฏิบัติของหน่วยปกติตาอไป

สําหรับประวัติของเรือ Fin Shui Yuan 2 นั้น จากข้อมูลในระบบ SEA Vision และ MISC นั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรือ Jin Shui Yuan 2 สัญชาติเรือ ประเทศจีน เป็นเรือ Cargo มีความยาว 56 เมตร ตรวจพบครั้งล่าสุดในปี2020 จากการรายงานในระบบ AIS ท้ังนี้หากได้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ครบถ้วนจะได้นําเสนอต่อไป

“กระแสข่าวที่ออกมาว่าเรามีเจตนาที่จะทิ้งเรือหรือให้เรือจม ไม่เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นเราคงไม่นำเรือหลวงตาปี ออกไปลากจูงเข้ามา แต่บังเอิญเรือตาปีเสียก่อน ยังไปไม่ถึง ไม่ได้ไปสัมผัสตัวเรือลำดังกล่าวเลย “โฆษก ศร. ชล กล่าวและว่า จากการสำรวจในเบื้องต้นโดยมนุษย์กบของศูนย์สงครามพิเศษทางเรือที่ดำลลงไป 30 เมตร ที่เรือจมทำการผูกทุ่นลอยผิวน้ำ พบระยะห่างจากผิวน้ำกับเรือ 18 เมตร ห่างจากชายฝั่งอำเภอศิชล 28 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 50 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า คงไม่อยากมีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของเพราะต้องชดเชยเงินในการกู้เรือเป็นหลักล้าน แต่เราก็ต้องสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป

นอ. ยอดรัก ศิลปดุริยางค์ ตัวแทนกรมอุทกศาสตร์ ทร. กล่าวว่า กรมอุทกศาสตร์ฯจะทำแผนสำรวจเรือหลังจากพบว่าเรือไม่มีการเคลื่อนตัวแล้ว ซึ่งในกรณีที่คลื่นลมแรงเราจะส่งเรือลำใหญ่ที่เรียกว่าเรือหลวงพฤหัสบดี ซึ่งเป็นเรือสำรวจที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอุปกรณ์สำรวจที่เรียกว่า”มัลติบีม”เป็นอุปกรณ์ทางด้านอุทกศาสตร์และสมุทรศาสตร์ในการสำรวจได้อย่างสมบูรณ์ ข้อมูลที่ได้จะเป็นข้อมูลสามมิติ ถูกต้องแม่นยำ ในกรณีที่ลมไม่แรงก็จะใช้เรือลำเล็กกว่าแทน นอกจากนั้นยังมียานยูเอวีนี้เพื่อส่งไปใต้น้ำในการพิสูจน์ทราบอีกด้วย

ด้านน.อ.เบญจมาพร วงศ์นครสว่าง ตัวแทนกรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยที่มีเรือไม่ทราบสัญชาติลอยเข้ามาในน่านน้ำทะเล กองทัพเรือดำเนินการตามนโยบายผบ.ทร.ที่มอบหมายให้แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน กองทัพเรือได้บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ส่งเรือต.113 เรือหลวงตาปี เรือหลวงหลีเป๊ะ และเรือหลวงท้ายเมืองออกไป ซึ่งต่อมาเรือ FIN SHUL YUAN 2 ได้จมลงไปเองแล้ว กองทัพเรือก็จะประสานตามกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งจากสิงคโปร์ และสหรัฐฯ เพื่อตรวจสอบว่าเรือมาจากไหน และติดตามตรวจสอบย้อนหลังว่ามีเรือลำนี้ในระบบหรือไม่ มีทิศทางมาจากไหน ทำผิดกฎหมายเรื่องใดหรือไม่ และพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ กองทัพเรือไม่นิ่งนอนใจ เราจะต้องดำเนินการให้ชัดเจนและเป็นที่เรียบร้อยว่าเรือมาจากไหนอย่างไร

นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เมื่อได้รับการประสานจากศรชล.ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. เราก็ให้ความร่วมมือประสานหาตำแหน่งที่ตั้งเรือ โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของการเดินเรือ และสิ่งแวดล้อม พร้องทั้งประกาศให้เรือสินค้าที่ใช้เส้นทางใกล้เคียงระมัดระวัง ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติการเข้า-ออกเรือในประเทศ ไม่พบประวัติเรือดังกล่าว และเรือดังกล่าวเป็นเรือขนส่งสิรค้า ไม่ใช่เรือน้ำมัน ส่วนการจัดการคราบน้ำมันนั้น ประเทศมีมาตรการดำเนินการอยู่แล้วตามลำดับในระดับต่างๆ ซึ่งต้องประเมินอีกครั้ง เรือนี้เป็นเรือที่ถูกปล่อยร้างมา มีสินค้าและน้ำมันคงคลังไม่มาก เมื่อเรือจมลงก็ได้ประเมินพบคราบน้ำมันบางๆ ซึ่งเมื่อเจอคลื่นลมน้ำมันจะแตกตัว และเมื่อเจอความร้อนของแดดน้ำมันก็จะระเหยไปเอง

เมื่อถามถึงการสืบค้นที่มาของเรือจะดำเนินการอย่างไร โฆษกศรชล. กล่าวว่า กองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบโดยศรชล.ภาค 2 เร่งดำเนินการทุกทางโดยเร็ว และรายงานให้รับทราบต่อไป แต่จะเร็วแค่ไหนยังตอบไม่ได้

เมื่อถามว่า เศษอาหารและเศษขยะบนเรือบ่งบอกอะไรได้บ้าง โฆษกศรชล. กล่าวว่า ศรชล.จะนำไปเป็นข้อมูลเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งเรือที่ปรากฎไม่มีฐานข้อมูล มีแต่ชื่อคล้ายๆกัน ทั้งนี้เราไม่ทิ้งประเด็นว่าเป็นเรือผิดกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นเรือใด เพราะเรากลัวเป็นเรือผิดกฎหมายจึงพยายามจะนำลากเข้าฝั่ง แต่ยังไม่ทันได้ลากเรือก็จมเองไปเสียก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พบแล้ว ร่างลูกเรือประมงพลัดตกน้ำใกล้เกาะมุก ไต๋เรือนำศพกลับขึ้นฝั่งที่ภูเก็ต

น.อ.พิเชษฐ์ ซองตัน ผอ.กองสารนิเทศ และโฆษก ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 09.43 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกภูเก็ตได้รับแจ้งจาก เรือ พิชัยสมุทร 9 ประเภท อวนลากคู่

ยลโฉมน้องเต่าตะนุ แหวกว่ายน้ำตื้นสิมิลัน  ชี้วัดทะเลสมบูรณ์มากขึ้น

พังงาสวยงาม เปิดภาพโลกใต้ทะเลเกาะสิมิลัน พบเต่าตะนุและฝูงปลาว่ายน้ำอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวชื่นชม ชี้วัดความสมบูรณ์ของทะเลไทย

เกาะหูยง อุทยานฯสิมิลัน แหล่งอนุรักษ์เต่าทะเล เผยสถิติเต่าวางไข่กว่า 1 หมื่นฟองต่อปี

กองทัพเรือ ได้จัดทำโครงการ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลฝั่งอันดามัน โดยมอบให้ ทัพเรือภาคที่ 3 จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เมื่อปี 2538 ซึ่งกำหนดจุดอนุบาลเต่า ทะเลจำนวน 2 จุดพื้นที่แรกเป็นการอนุรักษ์เพราะฟักไข่เต่าในพื้นที่เกาะ

กรมอุตุฯเตือน ทั่วไทยอากาศยังร้อนถึงร้อนจัด ขอให้ปชช.ดูแลรักษาสุขภาพ

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

ผู้การเรือลาออก! กองทัพเรือสรุปผลสอบเรือหลวงสุโขทัยล่ม

ทร.สรุปเหตุสุดวิสัย รล.สุโขทัยล่ม ผู้การเรือฯ ลาออก แสดงความรับผิดชอบ ลูกน้องเสียชีวิต ยันไม่มีคำสั่งแทรกแซงการตัดสินใจ

'สามารถ' ผิดหวัง นายก ไม่ผลักดันสะพานเชื่อมเกาะสมุย

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” ระบุว่า “เศรษฐา” ลุย “สมุย” ไร้วี่แวว “สะพานเชื่อมเกาะ”