เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวอำเภอนาโยง จ.ตรัง ใช้พื้นที่นาข้าวหลังเก็บเกี่ยว หันมาปลูกข้าวโพดหวาน ฝักใหญ่ เมล็ดเหลืองเรียวยาว เป็นที่ต้องการของตลาด ขายกิโลละ 25 บาท สร้างรายได้ 1,000-2,000 บาทต่อวัน เคล็ดลับคือทำปุ๋ยหมักจากต้นข้าวโพดนานข้ามปีจึงจะนำมาใช้
21 ส.ค.2567 - หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จแล้ว เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวตำบลนาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง หันมาปลูกข้าวโพดหวาน ฝักใหญ่ เมล็ดเหลือง เรียวยาวกว่า 6,000 ต้น บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่น เพื่อให้มีข้าวโพดเก็บขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละรุ่นใช้เวลาปลูก 70-75 วันก็สามารถเก็บขายได้ในราคากิโลกรัมละ 25 บาท หรือประมาณ 5 ฝักต่อ 2 กิโล และด้วยรสชาติของข้าวโพดที่หวาน มัน เมล็ดเต็ม ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด จนแทบไม่พอต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในและนอกพื้นที่ ที่มีการสั่งจองเข้ามาจำนวนมาก วันละไม่ต่ำกว่า 50-80 กิโลกรัม สร้างรายได้ตั้งแต่ 1,000-2,000 บาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังสามารถเก็บฝักข้าวโพดอ่อน บนต้นที่มีฝักออกมาหลายฝัก เพื่อให้เหลือเพียงฝักเดียวใน 1 ต้น ซึ่งจะทำให้ข้าวโพดมีฝักใหญ่และสมบูรณ์สร้างรายได้อีกทาง ส่วนต้นข้าวโพดหลังเก็บฝักหมดแล้ว นำไปทำปุ๋ยหมักผสมกับขี้วัว โดยใช้เวลาหมักนานข้ามปี จึงนำมาใช้ในแปลงข้าวโพด เพื่อปรับสภาพดิน สร้างความชุ่มชื้นและธาตุอาหาร
ถือเป็นเคล็ดลับเด็ดที่ทำให้ข้าวโพดเมล็ดสวย ลำต้นแข็งแรงและได้ผลผลิตดี แถมยังปลอดภัยจากการใช้สารเคมีทุกชนิด โดยปลูกข้าวโพดหวานมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งช่วงนี้เกษตรกรสามารถเก็บข้าวโพดขายได้ทุกวัน จนถึงประมาณปลายเดือนกันยายนนี้ คาดจะสร้างรายได้ต่อรุ่นไม่ต่ำกว่า 20,000-45,000 บาท โดยมีลูกค้าเดินทางมาเลือกซื้อถึงไร่ไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อนำไปขายต่อและนำไปทำอาหาร เช่น ส้มตำมะละกอใส่ข้าวโพด ข้าวโพดต้ม ข้าวโพดย่างหรือของหวาน
นายเตือน พันธุ์เกตุ อายุ 59 ปีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดหวานกล่าวว่า ขายได้ทั้งต้นตั้งแต่ฝักอ่อนเอาไปผัดทำเป็นกับข้าว พอแก่ขึ้นมาก็เก็บเอาไปต้มส่วนลำต้นที่เหลือก็ตัดเอาไปให้วัวกิน ซึ่งแต่เดิมใช้พื้นที่ทำนาปี หลังเก็บเกี่ยวนาปีแล้วจึงหันมาปลูกข้าวโพดติดต่อกันมา 5 ปีแล้ว เป็นข้าวโพดพันธุ์ผสมและข้าวโพดหวาน พื้นที่ปลูก 2 ไร่ใช้เวลา 73 วันก็เก็บขายได้ รสชาติหวาน กรอบ ขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าวโพด ที่สำคัญคือใช้ปุ๋ยหมักที่ทำขึ้นเอง โดยใช้การหมักข้ามปีจึงจะนำมาใช้ได้ ซึ่งรอบก่อน ๆ มีรายได้ประมาณ 20,000 กว่าบาทแต่รอบนี้ตกอยู่ที่ 40,000 กว่าบาท เพราะนับจำนวนต้นมีอยู่จำนวน 6,000 ต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเดย์ กระทรวงเกษตรฯ ส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้ธนาคารแล้ววันนี้
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวย้ำคุณสมบัติของเกษตรผู้มีสิทธิได้รับเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000
ชาวนาลุ้น ‘ครม.’ อนุมัติเงินช่วยไร่ละ 1,000 บาท พร้อมโอนเงินให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดเชียงใ
ฝนถล่มตรัง แค่ชั่วโมงเดียว น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ทะลักท่วมถนน-บ้านเรือน สูงครึ่งเมตร
ตรัง ฝนตกหนักชั่วโมงเดียว เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ทะลักท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ท่วมถนนตรัง-พัทลุง สูง 50 ซม. รถยนต์วิ่งได้เลนเดียวทั้งขาเข้า-ออก เมืองตรัง และจากฝนตกหนักต้นไม้ใหญ่ 4 คนโอบ ล้มขวามทางขึ้นน้ำตกกะช่อง เร่งนำออกจากถนน
“นภินทร” ดึงจุดเด่น “ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” เนื้อแน่นนุ่ม ไม่คาว วัตถุดิบชั้นดี GI รังสรรค์ใน ”Thai Select“ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้เกษตรกร
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมลงพื้นที่เยี่ยมชมถิ่นกำเนิดของสินค้า GI ของจังหวัดสงขลา ได้แก่ “ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าของปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา
รองโฆษกรัฐบาล เผย นบข. เตรียมเคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ก่อนชง ครม.อนุมัติ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)
กระทรวงเกษตรฯ เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่! วงเงิน 3.8 หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากกรณีมติของที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตครั้งที่