ชลบุรีเต้น! 'อนุทิน' สั่งตรวจสอบเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวอินเดียที่พัทยา

15 เมษายน 2568 - สืบเนื่องจาก เกิดเหตุทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย บริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา ปากทางเข้าวอล์คกิ้งสตรีทพัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ส่งผลให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยาเสียหาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ล่าสุด เวลา 13.30 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการป้องกันเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปรามปราม ตำรวจสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยว ฝ่ายปกครอง และเมืองพัทยา เข้าร่วมประชุมฯ

เบื้องต้น ได้เชิญตัวบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์มาเปิดเผยรายละเอียดขณะเกิดเหตุให้สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ และยืนยันว่า เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี เป็นมีที่มีความปลอดภัย แต่ในบางครั้งอาจจะเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันบ้าง เนื่องกันอาการมึนเมาและสื่อสารกันไม่เข้าใจ ระหว่างนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกับชาวไทย ซึ่งทางฝ่ายปกครอง และ สภ.เมืองพัทยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมจัดระเบียบกับ ผู้ประกอบการวิน จยย.รับจ้าง และรถสองแถว อยู่อย่างต่อเนื่อง หากมีการกระทำผิดจะมีโทษตามกฎหมาย และดำเนินการขั้นเด็ดขาดหากกระทำผิดซ้ำ

ด้าน นายเอ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียได้เดินมาสอบถามหารถโดยสาร เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาล หลังจากตกลงราคาเรียบร้อยตนจึงให้ น้องชาย พากลุ่มนักท่องเที่ยวไปส่งที่รถสองแถว แต่ผ่านไปสักพักก็แปลกใจว่า ทำไมยังไม่ไปสักที จึงเดินตามไปกลับพบว่า 1 ในชาวอินเดียกำลังมีปากเสียงกับน้องชาย จากนั้นกลุ่มอินเดียจึงเริ่มด่าทอให้ของลับ และจะเข้ามารุมทำร้าย น้องชายจึงเริ่มถอยหนี ตนจึงเข้าไปห้ามปราม ก่อนจะบานปลายถึงขั้นชกต่อยกันคนละหมัด จากนั้นคนที่อยู่ใกล้เคียงจึงกรูกันเข้ามาห้ามเพื่อให้แยกกัน แต่บุคคลที่ใส่เสื้อวิน ที่ผ่านมาและเข้ามาทำร้ายนักท่องเที่ยวเสริม พวกตนไม่รู้จักแต่อย่างใด สุดท้ายอยากขอโทษสังคมและเมืองพัทยา ซึ่งตนเองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่เป็นเพราะอารมณ์ที่ถูกด่าทอ และจะถูกรุมทำร้ายก่อน จึงต้องป้องกันตัวเอง

อย่างไรก็ตาม อยากขอแจ้งว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ใช่เหตุรุนแรง หรือกลุ่มแก๊ง มาเฟียรุมทำร้ายนักท่องเที่ยว ตามที่ข่าวนำเสนอไป เป็นเพียงเหตุกระทบกระทั่งกันส่วนบุคคลซึ่งเกิดจากการสื่อสารไม่เข้าใจ เบื้องต้น จึงได้ว่ากล่าวตักเตือนชาวไทยทั้ง 2 ราย ว่า หากนักท่องเที่ยวกริยาไม่ดี ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ไม่ควรชกต่อยหรือตัดสินเอง ส่วนผู้เสียหายชาวอินเดียนั้นเจ้าหน้าที่ยังติดต่อไม่ได้และยังไม่มาแจ้งความ

ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จึงได้สั่งการให้จัดประชุมหารือวางมาตรการร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเกิดขึ้นอีก เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ เผยสาเหตุฝนตกหนัก 3 ชม. เมืองพัทยาจมน้ำ แนะปรับปรุงระบบระบายน้ำใหม่

เมืองพัทยาต้องเร่งปรับปรุงระบบการระบายน้ำใหม่ให้มีประสิทธิภาพซึ่งเมืองพัทยากำลังเดินหน้าสร้างอุโมงค์ดักน้ำขนาด 2 เมตรตลอดแนวถนนเลียบทางรถไฟฝั่งตะวันออก

กล้าดียังไง! วัยรุ่นยกพวกฟัน รปภ.กลางหมู่บ้าน-คลิปชัด โดนรวบยกแก๊ง

สอง รปภ.แค่ห้ามศึกวัยรุ่น กลับถูกหาว่า “ถ่ายคลิปไม่เข้าเรื่อง” เจอกลุ่มโจ๋ยกพวกบุกซัด เตะหน้า บีบคอ ควงมีดขู่–มือปัดโทรศัพท์พังยับ ล่าสุดตำรวจรวบตัวได้ 6 ราย รับผิดยอมจ่าย 30,000 บาทประเคนให้ถึงโรงพัก พ.ต.อ.ลั่นไม่จบแค่ค่าขวัญ ถ้าเจอผิดชัด–เจอหมายเรียกแน่นอน

แจ้งจับ 'ไรเดอร์หัวร้อน' ชักปืนขู่ในร้านอาหาร มีภาพวงจรปิดแต่ตร.ยังไม่เจอตัว

ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจาก น.ส.วิชุดา (ขอสงวนชื่อสกุล) อายุ 31 ปี อาชีพ พนักงานแคชเชียร์ ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง กลางห้างดังย่านพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง

5 ชีวิตรอเก้อริมไร่มัน! สุนัขถูกทิ้งเฝ้าทางรถไฟนานข้ามปี หวังเจ้าของจะกลับมารับ

จากฝูง 6 เหลือเพียง 5 ชีวิต สุนัขจรจัดในสัตหีบถูกทอดทิ้งไว้ริมทางรถไฟตั้งแต่ปี 2567 ก่อนย้ายถิ่นฐานมาอยู่ท้ายหมู่บ้านในปี 2568 ทุกวันนี้ยังนั่งเฝ้ารอริมถนน หวังว่าเจ้าของจะกลับมา แม้ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของคือใครแน่