พบเสือโคร่งขาพิการ เร่งส่งจนท.ช่วยเหลือ ยังไม่ชี้ชัดเป็นตัวทำร้ายชาวบ้าน

พบเสือโคร่งขาพิการ อุทยานฯเขาแหลม ร่วมมูลนิธิฟรีแลนด์ ตั้งกล้องดักถ่ายป่าปิล็อกคี่ พบเสือโคร่งใหญ่ขาหลังขวาด้วน เชื่อถูกพรานวางบ่วงดัก ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นตัวเดียวกับที่ทำร้ายชาวบ้าน ประสานกรมอุทยานฯเร่งส่งจนท.ผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยเหลือ

8 ก.พ.2556 - นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)เปิดเผยว่า ตาม ข้อสั่งการ ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการดูแลความปลอดภัย ในเรื่องเสือโคร่งให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่ และช่วยอนุรักษ์ฟื้นฟู ประชากรเสือโคร่ง ในป่าของประเทศไทยให้คงอยู่ตลอดไป

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ว่าสืบเนื่องมาจากเรื่องเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้าน ที่เข้าไปเลี้ยงควาย บริเวณป่าบ้านห้วยสะมะท้อ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จัดชุดเฝ้าระวังเสือโคร่ง ที่อาจเข้ามาในพื้นที่ และอาจเสี่ยงต่อการทำร้ายชาวบ้าน จึงได้ประสานทางมูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation)ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทำการติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (Camera Trap) จำนวน 20 ตัว เพื่อติดตามเสือโคร่งที่อยู่ในพื้นที่ป่าดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา

ต่อมา จนท.ชุดป้องกันดูแลความปลอดภัยให้ชาวบ้าน ได้ออกลาดตระเวน จนพบซากควายบริเวณสามแยกสะมะท้อ ที่ได้มีการติดกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลภาพถ่าย จากกล้องตัวดังกล่าว รากฏว่าในวันที่ 6 ก.พ. 56 พบเสือโคร่งยังไม่ทราบเพศ จำนวน 1 ตัว มีลักษณะพิการ ขาหลังด้านขวาขาดจนเกือบถึงโคนขา เห็นแล้วเป็นที่เวทนาน่าสงสาร กำลังกินซากควาย อยู่

ส่วนจนท.มูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) และองค์กร IUCN มีความเห็นร่วมกันว่า เห็นว่ากรมอุยานฯควรเร่งดักจับเสือโคร่ง ตัวที่พิการน่าสงสารตัวนี้โดยเร็ว จากนั้นควรนำไปดูแลในสถานที่ปลอดภัย เพราะเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าว จะหากินจับสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ยาก ประกอบกับมีหมู่บ้านปิล็อกคี่ อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใกล้พื้นที่หากินเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสารดังกล่าวด้วย เกรงว่าในอนาคตเสือโคร่งตัวพิการอาจจะไม่ปลอดภัย เหมือนตามที่มีข่าวดังนายพราน 5 นาย บ้านปิล็อกคี่ ล่าเสือโคร่ง 2 ตัว

ด้านนายนิพนธ์ฯจึงได้ทำหนังสือ และประสานงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทันที เพื่อให้ดำเนินการในเรื่องช่วยเหลือเสือโคร่ง ตัวพิการน่าสงสารดังกล่าว อย่างเร่งด่วนต่อไป เนื่องจากในกรมอุทยานฯ มีผู้เชี่ยวชาญด้านช่วยเหลือเสือโคร่งโดยเฉพาะ สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จะคอยระวังภัยให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่ ให้ปลอดภัยจากเสือโคร่ง และคอยระวังภัย ให้กับเสือโคร่งตัวพิการน่าสงสาร ที่อยู่ในป่า นี้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เสือโคร่งตัวที่พบใหม่นี้ ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเสือโคร่ง ตัวที่ทำร้ายชาวบ้าน เนื่องจากนายหวานชาวบ้าน ที่ถูกเสือทำร้าย ยืนยันว่าเป็นเสือฝูง3ตัวและไม่พบตัวใดพิการ จึงเป็นได้ว่าเป็นเสือโคร่งตัวใหม่อีกตัว เพราะพบว่าพิการและมาเพียงลำพัง รวมทั้งการพิการ อาจจะเกิดจากขบวนการพรานล่าเสือ วางบ่วงลวดสะลิงรัดจนขาขาด หรือพิการด้วยเหตุอื่น คงต้องรอเจ้าหน้าที่จากรมอุทยานฯ เข้าดำเนินการนำตัวออกจากป่าให้ได้ก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เฒ่าวัย 79 เหงา ป่วยซึมเศร้า ใช้ปืนลูกโม่ยิงหัวดับ

พ.ต.ต.อนุชา จินดาศรี สารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาว รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านหลังหนึ่งในซอยเทศบาล 5 เขตเทศบาลตำบลหนองขาว จึงประสานให้ มูลนิธิขุนรัตนาวุธ จุดหนองขาว มาตรวจสอบช่วยเหลือทันที

นายกฯ เฉ่ง ผบช.ภ.7 ทำงานไม่ดีเท่าที่ควร หวั่นยาเสพติดทะลัก ลั่นจะลงพื้นที่เอง

นายกฯ เผยหลังเรียก ผบช.ภ.7 เข้าพบ พูดชัด ยังทำงานไม่ดีเท่าที่ควร สั่งเข้มกวดขันยาเสพติด ของเถื่อน หวั่นทะลักเข้าฝั่งเมืองกาญจน์ ลั่นหากยังทำไม่ดีจะลงพื้นที่เอง

หวิดเกิดโศกนาฏกรรมหมู่! รถรับส่งนักเรียนพุ่งชนท้ายรถตัดอ้อย

พ.ต.ท.ประพนธ์ กิมแระพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.หนองรี ว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้รับส่งนักเรียน ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนท้ายกับรถตัดอ้อยขนาดใหญ่

สลด! รถบรรทุกกากน้ำตาลพลิกคว่ำทับ 2 สามีภรรยาเสียชีวิต

. ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เอี่ยมจงจันทร์( รองสารวัตร สอบสวน)สภ. พนมทวนจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ191 ว่าเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกกากน้ำตาลยี่ห้อ Nissan UD- GWE370 สีขาว ทะเบียน 71-6837 นฐ 83-2998 กำแพงเพชร บรรทุกกากน้ำตาลพลิกคว่ำและมีน้ำมัน รั่วไหลและมีเพลิงลุกไหม้ คนขับเสียชีวิตทันทีเนื่องจากรถได้พลิกคว่ำแล้วยุบตัวลงมาทับคนขับ ทำให้ร่างนั้นเละ เป็นที่สยดสยอง

ชาวกาญจนบุรี ร้องตรวจสอบโรงโม่หิน ฝุ่นฟุ้งกระจาย หน่วยงานรัฐแจงไม่พบมลพิษ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีโรงโม่ในบริเวณเทือกเขาแรต ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี และ ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีการประกอบการเดินเครื่องโม่บดละเอียดทำให้มีฝุ่นลอยฟุ้งในอากาศจำนวนมาก