8 ก.พ.2565 - ด.ช.ขจร ป้องพิมพ์ หนึ่งในกลุ่มเด็กไทยฮิมโขงบ้านตามุย อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของโครงการสร้างเขื่อนสาละวัน ซึ่งกั้นแม่น้ำโขง ว่า "ที่ผมกับเพื่อนมาส่งหนังสือ เพราะอยากรู้ว่า เขาจะสร้างเขื่อนที่บ้านพวกเราไหม ถ้าเขาให้สร้าง ให้เรือมาสำรวจ พวกเราก็กลัวต้องย้ายบ้านไปที่อื่น เราไม่อยากให้เขาสร้างเขื่อน"
ด.ช.ขจร กล่าวอีกว่า การเดินทางมาส่งหนังสือนั้น เป็นไปด้วยความสมัครใจของตนเอง และเพื่อนๆ เพราะรู้สึกกังวลใจหากมีการสร้างเขื่อนดังกล่าวขึ้น ตนและครอบครัวก็จะต้องถูกย้ายบ้าน ส่วนอาชีพหาปลาและทำเกษตรริมโขงของชาวบ้านตามุยก็จะต้องจบลง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมากลุ่มเด็กไทยฮิมโขง ชุมชนบ้านตามุย 13 คนพร้อมพี่เลี้ยงได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากในระยะนี้ชาวบ้านตามุย พบว่ามีเรือน่าสงสัย พร้อมคนงาน และทหารฝั่งสปป.ลาว ได้ทำการสำรวจหาข้อมูลบางอย่างอยู่ชายแดนแม่น้ำโขงไทย-ลาว โดยชาวบ้านเชื่อว่า เรือดังกล่าวลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อเดินหน้าก่อสร้างเขื่อนเขื่อสาละวันซึ่งเดิมชื่อว่าเขื่อนบ้านกุ่ม โดยจะสร้างบริเวณชายแดนไทย-ลาวด้านอำเภอโขงเจียม และเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูล ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ และอำนาจการปกครองท้องถิ่นภาคส่วนต่างๆ เพื่อขอเข้าสำรวจพื้นที่ศึกษาข้อมูลบริเวณแม่น้ำโขง อำเภอโขงเจียม
ด้านคำปิ่น อักษร ผู้ประสานงานเครือข่ายคนฮักน้ำของบ้านตามุย ที่กล่าวว่า ปัจจุบัน เด็กๆ เข้าถึงข้อมูลข่าวสารตามอินเตอร์เน็ต พวกเขามีความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องแม่น้ำโขง และวิถีชีวิตของคนน้ำโขง เพราะเติบโตมากับสิ่งเหล่านี้ และมีชีวิตที่จะรักษาสิ่งเหล่านี้ให้อยู่รอดไปจนถึงรุ่นของเขา
"นี่ไม่ใช่แค่เรื่องจิตสำนึก แต่เต็มไปด้วยเรื่องของความรัก ความรู้สึกที่มีต่อชุมชนและบ้านเกิด เราเป็นครู เราก็แนะนำในสิ่งที่เขาชอบ เขารัก ถ้าเขารักถิ่นฐานบ้านเกิด เราก็เห็นดีด้วย ไม่ได้บังคับว่าเด็กๆ ต้องทำอะไรเพื่ออะไร พวกเขารู้จักรักและหวงเเหน อยากปกป้องบ้านตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ดี”คำปิ่น กล่าว
อย่างไรก็ตาม การส่งหนังสือของเด็กๆถึงผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งนี้ ผู้ว่าฯไม่ได้ออกมารับหนังสือด้วยตนเอง ถึงแม้ว่า เด็กๆ จะเดินทางตากแดดมาเกือบ 80 กิโลเมตร โดยผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงค์ธรรม ประจำศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีมารับเรื่องแทน และปัดที่จะตอบคำถามต่อเด็กๆ ว่าได้อนุมัติให้บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เข้าพื้นที่สำรวจพิกัดต่างๆ บริเวณแม่น้ำโขงและชุมชนของเด็กๆ เหล่านี้ แล้วหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมคิด' ลั่น พท.ไม่หวั่น สส.อุบล-ขอนแก่น ย้ายซบน้ำเงิน ท้าชน 'นายกฯหนู' ให้รู้ ปชช.เลือกใคร
สมคิด ชี้ฝ่ายน้ำเงินใช้พลังดูดมากมาย คงไม่อยู่นาน เพราะมองว่าตัวเองได้เปรียบในสนาม ไสช้างออกมาเลย นายกฯหนู เราพร้อมชน
ประกาศฉบับ 14 อัปเดต 'พายุคัลแมกี' ศูนย์กลางอยู่พิบูลมังสาหาร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 14 (334/2568) โดยมีใจความว่า
มาไวกว่าที่คาด! 'พายุคัลแมกี' เข้าไทยแล้ว ความเร็ว 30 กม./ชม.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตเส้นทางพายุ "คัลแมกีว่า เมื่อเวลา 07.00 น. "คัลแมกี" อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันอยู่ที่เมืองจำปาสักตอนล่าง ประเทศลาว คาดจะเข้า อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี
พายุพัดถล่มนครพนม ซัดโครงเรือไฟยักษ์พังครืน ล้มขวางถนนริมโขง
พายุฝนถล่มส่งท้ายฤดู ซัดซากเรือไฟยักษ์พังครืน ทับถนนจุดเช็คอินริมน้ำโขง เร่งระดมเคลียร์พื้นที่เปิดการสัญจร
อ้างชาวบ้านสนใจ! ภูมิธรรมแถเหตุลุยคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.มากกว่าคดีครอบครัว รมว.อว.!
'ภูมิธรรม' โต้ภูมิใจไทย ยัน ดีเอสไอเดินหน้าคดีบริษัท 'รมว.อว.' รุกที่สาธารณะ แต่คดีฮั้ว สว.-เขากระโดง เป็นเรื่องใหญ่ต้องสางให้ชัดเจน เหตุสาธาณชนให้ความสนใจ บอกคดีหลาย 10 ปีเทียบกับ 6 ปีไม่ได้
รัฐบาลส่ง 7 รมต. เยี่ยมศูนย์พักพิง 4 จ.ชายแดน เก็บข้อมูลเยียวยารอบสอง
รัฐบาลมอบ 7 รมต. ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิง 4 จังหวัด 12 จุด ช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ นำข้อมูลกลับมากำหนดรูปแบบเยียวยารอบสอง ทั้่งบ้านเรือน-ไร่นา-สัตว์เลี้ยงที่เสียหาย ก่อนชง ครม.อนุมัติ


